ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality 7 .:: ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร ::. *Start*

    ลำดับตอนที่ #91 : Fiday : นักฆ่ามันสมอง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 238
      0
      9 ก.ย. 54

    REALITY SEASON 7

    ตอน : ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร

    WEEK 5

    “ไม่ใช่พวกเรา ... ฉันคนเดียว!” อายะทิ้งประโยคก่อนที่จะเดินออกมาจากป่าต้องสาป อลิซเองได้แต่หัวเราะในลำคอเป็นรอบที่สามก่อนที่จะเดินตามหญิงสาวไป

    ภารกิจที่สองนั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีแม้จะมีปากเสียงกันตั้งแต่ตอนแรกก็ตาม เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่า ยามที่เรายากลำบาก ศัตรูที่มีจุดหมายเดียวกัน มักจะช่วยเหลือกัน

    เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ....

    เพียงไม่นานนัก ทั้งคู่เดินพ้นออกมาจากป่าต้องสาป เพื่อน ๆ ถามหาสร้อยไข่มุกในภารกิจของอายะและอลิซ อายะนั้นโยนไข่มุกให้มิ้วนั้นเก็บเอาไว้ ในตอนนั้นเองที่มาริสซ่าเห็นบาดแผลเป็นแนวยาวที่หัวไหล่

    Oop! ฟัดกับม้าแรงไปหรอ .... ” เธอป้องปากพยายามเดินเข้าไปดูบาดแผลใกล้ ๆ หากแต่อายะกับกระชากมือออกและไม่ได้พูดอะไร

    “ดู ๆ ไปบาดแผลของคุณก็สวยดีนะ ไหลออกมาเป็นแนวยาวและเป็นเส้นตรง สวยได้รูปดีออก ... เวลาเป็นแผลเป็นคงจะศิลปะมากกว่านี้เนอะว่าไหม” วัชรเองก็ไม่วายชื่นชมบาดแผลที่บาดลึกของหล่อน

    “ฉันว่ารีบไปกันเถอะ เหลือภารกิจของพวกนายแล้วนะที่เหลือ ... ยังไงก็เต็มที่แล้วกัน” เจ้านายเป็นฝ่ายพูดบ้างหลังจากที่ไม่ได้พูดอะไรมาตั้งนาน

    มิ้วยิ้มบาง ๆ ก่อนที่จะหันหน้ากลับมามองแผนที่ จากจุดนี้จะไปที่จุดสีฟ้าของมิ้วและวัชรนั้นอีกเพียงไม่เมตรเท่านั้น เพราะสถานที่ที่พวกเขาใช้เล่นเกมอยู่ติดกับโรงทอผ้าเลย เพียงไม่กี่ก้าวพวกเขาก็สามารถมาถึงจุดหมายสุดท้ายได้

    “ที่นี่สินะ ...” สองมือของวัชรป้องที่หน้าผากเพื่อป้องกันแสงแดดที่ร้อนแรง สายตาจ้องมองเข้าไปยังสถานที่ประหลาดนั้น

    มันคือสิ่งก่อสร้างที่มีขนาดเล็กกว่าโรงเลี้ยงสัตว์ แต่ใหญ่กว่าโรงทอผ้า รูปร่างของมันไม่ได้ใช้ไม้สักในการก่อสร้าง หากแต่เป็นการฉาบตัวปูนและต่อด้วยอิฐมอญอย่างดี หลังคานั้นเป็นสังกะสีร้อน ๆ ด้านบนมีปล่องควันราวกับโรงงานอุตสาหกรรม ครั้งนี้พวกเขาเดาไม่ได้ว่าด้านในจะเป็นอะไร ทางด้านข้างของตัวบ้านนั้นจะปรากฏจอมอนิเตอร์ขนาดเล็กและซองจดหมายสีฟ้าที่วางอยู่ เจ้านายอาสาเดินเข้าไปเอา วัชรจึงขอมาและอ่านภารกิจที่พวกเขาต้องทำ

    สวัสดีครับทีมสีฟ้า นี่คงเป็นทีมสุดท้ายที่ได้ทำภารกิจกันแล้วสินะ ภารกิจของทีมสีส้มจะเป็นการวัดระดับเรื่องความกล้า ส่วนทีมสีเขียวนั้นจะเป็นการอุ่นเครื่องในเรื่องของทักษะการต่อสู้เล็กน้อยเป็นน้ำจิ้ม ส่วนทีมสุดท้ายนั้น ผมจะขอวัดระดับสติปัญญาของพวกคุณว่าจะเจ๋งขนาดไหน ผมไม่มีโจทย์ให้ .... อยากรู้ก็เข้าไปด้านในเถอะครับ

    “วัดระดับความอัจฉริยะสินะ” มิ้วอมยิ้มราวกับว่าเกมนี้ค่อนข้างจะหมูมากสำหรับเธอ ส่วนวัชรนั้นเขาก็ไม่ได้พูดอะไร เขาได้แต่มองเข้าไปเพราะเพียงอยากรู้ว่าด้านในจะมีอะไรเท่านั้น

    ทั้งสองในทีมสีฟ้าหันหน้ามามองกันครู่หนึ่งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร เพราะมิ้วและวัชรนั้นไม่ค่อยสนิทกัน ไม่ค่อยได้พูดจากัน เกมนี้จะเป็นเกมที่วัดความฉลาดทางมันสมองของทั้งสอง สองเท้าของคนทั้งคู่เดินเข้าไปช้า ๆ ปล่อยให้ที่เหลือรอดูผลงานอยุ่ในจอมอนิเตอร์อย่างเงียบ ๆ

    แอ็ดดดด!!

    ประตูเหล็กค่อย ๆ เปิดอ้าออก แสงเล็ก ๆ งอดผ่านช่องประตูเข้ามา ฝุ่นละอองปลิวอยู่ตามลมจนทั้งคู่ต้องปิดจมูกจากเชื้อโรคที่ไม่สามารถเลี่ยงได้ ที่พื้นนั้นเป็นไม้เก่า ๆ ที่แทบจะพังครีนลงมา สายตาของพวกเขาเริ่มสำรวจสถานที่โดยรอบอย่าลงละเอียดและพยายามเก็บข้อมูลของของต่าง ๆ เอาไว้

    ด้านซ้ายของห้องจะเป็นเก้าอี้ที่มีเครื่องจักรวางอยู่ มิ้วเดินเข้าไปพิจารณาของที่ว่านั่นอย่างชั่งใจ

    “ดูท่าว่าจะเป็นโต๊ะที่เอาไว้สำหรับเลื่อยไม้หรืออะไรสักอย่าง” เธอเป็นคนพูดขึ้นมา

    ส่วนวัชรนั้นเดินไปทางขวา มีตาข่ายใหญ่คลุมลังไม้เอาไว้ วัชรไม่สามารถรู้ว่าด้านในกล่องนี้มีอะไรซ่อนอยู่เลย สายตาของเด็กหนุ่มเลื่อนสูงขึ้นบนหลังคาก่อนที่จะยิ้มออกมาราวกับว่าเจอของที่ชอบ

    “คิกๆๆๆๆ .... ที่นี่ดูท่าว่าจะมี Collection ให้สะสมเพรียบเลย” สิ้นเสียงของวัชร มิ้วเองก็มองตามทิศทางการมองของเขาเช่นกัน

    ด้านบนนั้นมีหุ่นกระบอกมากมายถูกแขวนเอาไว้เต็มไปหมด มีทั้งที่เสร็จแล้ว หรือว่ายังไม่เสร็จดี สายที่พันธนาการร่างของพวกมันระโยงระยางไปมาอย่างไม่เป็นระเบียบ เท่านั้นยังไม่พอ มันยังมีอะไรอีกอย่างที่ทำให้มิ้วและวัชรค่อนข้างประหลาดใจ

    ฝูงกระรอกนับสิบตัวสร้างบ้านของพวกมันอยู่ตามร่างกายของหุ่นกระบอกมากมาย พวกมันเจาะรูหุ่นจนพรุนและใช้เป็นที่อยู่อาศัยของมัน ตาสีแดงจ้องมองการรุกร้ำดินแดนของพวกเขาอย่างเอาเรื่อง หากแต่ทั้งคู่ไม่ได้สนใจพวกเขาเหลือบไปเห็นกรงที่อยู่ด้านใน จึงเดินเข้าไปดูมัน

    ด้านในกรงนั้นมีหีบสีดำสนิทวางอยู่บนโต๊ะ แต่พวกเขาไม่สามารถเข้าไปหยิบมันได้ หน้าประตูเหล็กนั้นถูกล็อคด้วยระบบอัตโนมัติ หน้าประตูมีจอแสดงตัวเลขเป็น 00.00 KG / 15.00 KG เอาไว้ ถัดลงมาจากจอที่ว่านั่นจะเป็นเครื่องตวงขนาดเล็กที่ติดเอาไว้

    “คิดเหมือนฉันหรือเปล่า?” มิ้วหันมาถามความคิดเห็น

    “ถ้าความคิดเราตรงกัน นั่นคือพวกเราสองคนต้องหาอะไรมาชั่งน้ำหนักให้ครบ 15 โลเพื่อปลดล๊อคประตูให้เปิดออก” วัชรมองหน้าของมิ้วกลับไป

    “และของที่จะใช้ตวง ...” ดุท่าว่ามิ้วเองนึกสนุกอะไรขึ้นมา

    “คือเจ้าพวกนี้” สิ้นเสียงของวัชร ทั้งคู่เงยหน้าขึ้นไปมองบนหลังคา ฝูงกระรอกมากมายต่างจ้องมองเขาทั้งสองกลับมา

    สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือการนำพวกกระรอกจองหองพวกนั้นมาฆ่าและชั่งน้ำหนักให้ได้ 15 กิโลกรัมเพื่อให้ประตูนั้นเปิดออก แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่าจะล่อพวกมันลงมายังไงให้เชือดน่ะสิ

    พวกเขากำลังคิดแผนการที่จะเล่นงานเจ้าพวกอวดดีพวกนี้ มิ้วเองเป็นสาวอัจฉริยะและเรียนเก่ง วัชรเองก็ชอบใช้ความคิดและประดิษฐ์สิ่งของมาเพื่อหุ่นกระบอก เมื่อมันสมองของทั้งสองมารวมกัน

    มันจะเป็นสุดยอดของความอัจรฉริยะไงล่ะ ....

    วัชรเดินกลับไปยังตาข่ายนั้น เขาค่อย ๆดึงมันออกก่อนที่จะเปิดดูว่าในลังนั้นมีอะไรซ่อนอยู่ ถ้ามันเป็นสิ่งที่เขาคิดเอาไว้ เจ้าพวกกระรอกพวกนี้ก็จัดการได้ไม่ยาก เขาอมยิ้มเมื่อเห็นของที่อยู่ในลังนั้น

    ผลไม้อบแห้ง!

    เขายิ้มพลันยกมันลงมาเพื่อลากกลับมาที่เดิม

    “มิ้วว่าแค่นี้ไม่ทำให้มันลงมาแน่ ๆ ถึงมันลงมามันจะต้องหนีไปคนละทาง” มิ้วเสนอ วัชรจึงคิดต่อ

    “แต่ไม่ยากหรอก .... เอาตาข่ายนั่นมา แล้วเธอก็ใช้ความสามารถในการเชิดหุ่นให้เป็นประโยชน์แค่นั้นพอ ” มิ้วพูด วัชรเริ่มจะเข้าใจในแผนการของพวกเขาและต่อยอดออกมาเป็นรูปธรรมได้แล้ว

    หลังจากที่มิ้วเดินเข้าเอาตาข่าย วัชรจึงหยิบแอปเปิ้ลอบแห้งเทลงพื้นจนกลิ่นหอมของพวกมันเตะขมูกบรรดากระรอกด้านบน ความหอมของมันทำให้พวกมันต่างกรูลงมาข้างล่าง แต่ยังไม่เข้าหาอาหารโดยตรง พลันหุ่นกระบอกตัวหนึ่งก็เดินออกมานั่งลงบนอาหาร

    “กินเลย .. ผมเอาอาหารมาให้” วัชรพยายามเลียนแบบเสียงเป้นเสียงเด็กน้อย มือทั้งสองยังชักหุ่นกระบอกให้ขยับไปมาราวกับมีชีวิต พวกมันเพลิดเพลินกับการมองหุ่นและกินอาหารไปด้วย จังหวะนี้ มิ้วจึงออกมาและปล่อยตาข่ายลงบนตัวของกระรอก

    “จัดการ!” สิ้นเสียงของมิ้ว วัชรนำหุ่นกระบอกออกมาจากตาข่ายและใช้ขาอันทรงพลังที่ทำมาจากนอแรดฟาดลงบนร่างของกระรอก ส่วนมิ้วนั้นก็ใช้รองเท้าและใบเลื่อยที่แอบไปเอามาจากโต๊ะนั้นตีลงบนตาข่าย เสียงร้องและอาการแตกตื่นของมันดังขึ้นอยู่นาน เลือดสีเข้มสาดกระเซ็นเต็มเนื้อตัวของคนทั้งสอง แต่นั่นกลับทำให้พวกเขาชอบใจและสนุกสนานกับเกมแบบนี้

    เมื่อมันแน่นิ่งแล้ว พวกเขาต่างช่วยหยิบกระรอกนั้นขึ้นมาและปล่อยลงไปในเครื่องตวง เครื่องตวงนั้นค่อย ๆ กดต่ำลงไปเรื่อย ๆ ตัวเลขวิ่งไปมาจนกระทั่งหยุดอยู่กับที่

    15.04 KG!

    ติ๊ด!

    ประตูเปิดอ้าออก มิ้วและวัชรเดินเข้าไปด้านในเปิดหีบสีดำเพื่อหยิบต่างหุสีทองของนภางค์ออกมา พวกเขามองหน้ากันก่อนที่จะส่งยิ้มให้

    “แล้ววันหลังมาร่วมงานกันอีกนะ” มิ้วเปรยก่อนที่จะคว้าต่างหูและเดินออกมา ส่วนวัชรนั้นหยิบตาลูกกระรอกสองดวงออกมาและลองทาบลงบนหุ่นกระบอกของเขา

    “ตานี้สดใส แอ๊บแบ๊วด้วย คิกๆๆๆ” เขาหัวเราะก่อนที่จะเก็บลูกตากระรอกเข้ากระเป๋าเสื้อ

    และแล้วคอลเลคชั่นใหม่ของเขากำได้มาอีกหนึ่ง ส่วนพรุ่งนี้ ก้จะมีอีกหนึ่ง ที่ต้องออกจากเกมเช่นกัน!

    แบบฟอร์มการเข้าห้องสารภาพ (ส่งทางข้อความลับก่อนวันพรุ่งนี้ตอน 12.00)

    ชื่อเล่นของคุณพร้อมรหัส :

    ความรู้สึกที่มีต่อกิจกรรมนี้ :

    โหวตคนที่คิดว่า แกร่งที่สุดพร้อมเหตุผล : (ตอบในมุมมองของผู้เข้าแข่งขัน ไม่ใช่นักอ่าน)

    โหวตคนที่คิดว่า อ่อนแอที่สุดพร้อมเหตุผล : (ตอบในมุมมองของผู้เข้าแข่งขัน ไม่ใช่นักอ่าน)

    NEYNE: BLOMMA

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×