ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality 7 .:: ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร ::. *Start*

    ลำดับตอนที่ #90 : Thursday : ฝูงอาชาในม่านหมอก

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 247
      0
      8 ก.ย. 54

    REALITY SEASON 7

    ตอน : ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร

    WEEK 5

    “นี่ไง .. กำไรที่เธอสน!” มาริสซ่าเอียงคอเล็กน้อยพลันเดินออกมาจากโรงเลี้ยวสัตว์พร้อมกับสูดอากาศเข้าไปอย่างเต็มปอด เจ้านายเองก็เดินตามออกมาพร้อมกับเลือดที่เปรอะเสื้อผ้าเต็มไปหมด

     

    เมื่อทั้งสองตั้งหลักและสูดลมหายใจที่แสนจะสดชื่นเข้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว มิ้วจึงอาสานำทางเพื่อน ๆ ไปต่อด้วยแผนที่ในมือ เหลือเพียงสร้อยมุกและต่างหูที่พวกเขาต้องรวบรวม

     

    เพื่อภารกิจในครั้งต่อไป .....

     

    ภารกิจแรกในสัปดาห์ที่ห้านี่สิ้นสุดลงไปได้อย่างสวยงาม มาริสซ่าและเจ้านาย คู่สีส้มสามารถเล่นเกมของพวกเขาในฐานแรกได้สำเร็จ ถึงแม้ว่าเธอจะมีซากหนูติดรองเท้าแพง ๆ ออกมาและเขาที่ต้องเปื้อนคาวเลือดของลูกวัวที่เขาเป็นคนลงมือฆ่ามันด้วยตัวเองก็ตาม

     

    หญิงสาวจดจ้องแผนที่ในมือก่อนที่จะมองซ้ายมองขวาเพื่อวิเคราะห์การเดินทางในฐานต่อไป จากโรงเลี้ยงสัตว์ที่พวกเขาเพิ่งออกมา จะต้องเดินไปทางซ้ายเพื่อไปยังจุดสีเขียวที่แสดงอยู่ในแผนที่

     

    จุดสีเขียว ตำแหน่งของอลิซและอายะที่จะต้องเล่นในเกมต่อไป

     

    แสงแดดเริ่มเจิดจ้ามากขึ้นตามกาลเวลาของกลางวัน พระอาทิตย์ดวงโตเคลื่อนมาอยู่กลางศีรษะของพวกเขาพอดิบพอดี หากแต่ความร้อนที่อยู่รอบ ๆ ปราสาทกลับไม่ได้ร้อนอย่างที่พวกเขาคิด อีกไม่นานพวกเขาทั้งหมดจะเดินทางเข้าสู่ฐานที่สองแล้ว

     

    “ถึงแล้วสินะ ...” อายะเปรยขึ้นเมื่อเห็นว่าที่พื้นถูกฉีดด้วยเสปรย์สีเขียวบนพื้นดินสีน้ำตาลที่ตัดกันเป็นอย่างดี อลิซเองเอียงคอไปมาเพื่อออกกำลังกายส่วนอายะเดินเข้าไปผ่านเส้นสีเขียวเพื่อหยิบจดหมายซองสีน้ำตาลที่พิงอยู่ใต้ต้นไม้

     

    ยินดีต้อนรับทีมสีเขียวสู่เขตป่าต้องสาป พวกคุณทั้งสองจะต้องเข้าไปในป่าต้องสาป รอบ ๆ จะถูกพันด้วยเชือกเพื่อจำกัดอาณาเขตการเล่นเกมของพวกคุณ ด้านในจะมีหมอกหนาปรากฏขึ้น เตรียมรับมือเผชิญกับสิ่งที่จะออกมากลางสายหมอกนี้ และเอาสร้อยไข่มุกของนภางค์ออกมาให้ได้

     

    “สิ่งที่จะออกมาจากสายหมอก ... น่าสนุกแฮะ!” ดูเหมือนว่าอลิซจะค่อนข้างชอบกับเกมที่เธอและคู่หูได้รับเลือก อายะไม่ได้พูดอะไรนอกจากมองหางตา

     

    “ไปกันเถอะ ฉันไม่อยากเสียเวลา” อายะบ่นอุบก่อนที่จะเดินเข้าไปในป่าเพียงลำพัง อลิซเองก็เลียริมฝีปากอวบอิ่มของเธอก่อนที่จะเดินเข้าไปโดยที่ไม่ไดพูดอะไร

     

    “ดูท่าว่าจะสนุกไม่ใช่น้อยเลยนะคู่นั้น ....” วัชรหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียวก่อนที่จะกระชับกุ่นกระบอกไว้แน่น

     

    “ฉันเลือกถูกแล้วมั้ง!” ดูท่าว่าเจ้านายจะไม่คิดผิดที่เลือกคนที่ไม่ชอบหน้ากันเข้าไปเล่นเกมด้วยกันซะแล้ว

     

    หางตาของมาริสซ่าเหลือไปเห็นกระท่อมเล็ก ๆ ที่เหมือนจะเพิ่งสร้างเข้ามา ขอทั้งสองเริ่มก้าวเท้าเข้าไปในกระท่อมก่อนที่จะเจอกับโทรทัสน์เก่า ๆ ที่ฉายภาพในป่าต้องสาปโดยที่มีอลิซและอายะกำลังเดินเข้าไป

     

    “กล้องวงจรปิด ... Great!” มาริสซ่าเรียกทั้งหมดให้เข้ามาเพื่อดูเหตุการณ์ผ่านโทรทัศน์เครื่องเล็ก ระหว่างรอพวกเขาจะมีอะไรให้ดูอีกเยอะ

     

    สองสาวเดินเข้าไปในป่าลึกเรื่อย ๆ ตามเชือกที่โยงติดกับต้นไม้ ความเย็นของไอดินและป่าทึบไม่ได้ทำให้ทั้งสองรู้สึกหนาวเหน็บแต่อย่างใด เพราะบรรยากาศความเงียบนั้นข่างหนาวเย็นยิ่งกว่าอะไรเสียด้วยซ้ำ อายะเองเดินนำหน้าไปจนกระทั่งพบกับอาวุธชิ้นแรกที่พิงโคนต้นไม้อยู่

     

    “อีกแล้วหรือเนี่ย!” เธออุทานเสียงดังก่อนที่จะคว้าหน้าไม้ขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์

     

    “ถ้าเธอไม่พอใจ ให้ฉันก็ได้นะ” อลิซเริ่มยั่วโมโหของหญิงสาวตรงหน้า หากแต่ว่าเธอไม่ได้พูดอะไร สองขารีบเดินไปตามทางปล่อยให้อลิซเริ่มหัวเราะออกมาเบา ๆ

     

    “เธอหัวเราะอะไร!” สิ้นเสียงหัวเราะของหญิงสาว อายะพุ่งเข้ามาหากแต่ว่าอลิซไวกว่า เธอเอี้ยวตัวหลบจนอายะเกือบจะเสียหลัก

     

    “เปล่านี่ .. เราเป็นบัดดี้กันนะ ตอนนี้ต้องทำภารกิจ มากกว่าความแค้นส่วนตัวนะจ๊ะ” ดูท่าว่าเธอจะไม่เลิกสะกิดต่อมอารมณ์ของอายะเลย และมันก็ได้ผล อายะเริ่มจะหัวเสียมาก เธอกำหน้าไม้ไว้ก่อนที่จะพุ่งเข้ามาหา

     

    ครืด!

     

    เสียงบางอย่างทำให้ทั้งสองต้องหยุดชะงัก โดยเฉพาะอายะที่มองซ้ายมองขวายังระวัง เสียงบางอย่างดังขึ้นอยู่รอบ ๆ ตัวเธอ สายหมอกของความเย็นเริ่มไหลเข้ามายังเขตการแข่งขันเพื่อบดบังการมองเห็นที่ชัดเจนของคนทั้งคู่ พวกเธอพยายามจับที่มาของเสียงที่ดังวนอยู่ไปมา

     

    มันมีมากกว่าหนึ่ง!

     

    “มันกำลังมา ....”

     

    “ไม่ต้องบอกฉันก็รู้!” อายะมองหน้าของอลิซก่อนที่จะเริ่มหันหลังให้กัน อันตรายกำลังจะเริ่มปะทะเข้าตัวเธอ อลิซที่ยังไม่มีอาวุธเริ่มจับมีดสั้นออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนสืตัวเก่งของเธอ

     

    และแล้วบางสิ่งก็ปรากฏเป็นเงาลาง ๆ วิ่งออกมาจากสายหมอกนั้น พลังความเร็วของมันพุ่งเข้าปะทะอายะจนเธอเอี้ยวตัวหลบอย่างหวุดหวิด แต่บางอย่างที่ติดอยู่ที่ขาของมันก็สร้างบาดแผลที่หัวไหล่ให้เธอได้เช่นกัน

     

    “มันเป็นตัวอะไรน่ะ?” อายะไม่ทันมอง เสื้อแขนยาวสีดำขาดเป็นแนวยาวจนเลือดเริ่มไหลออกมาจากปากแผล ส่วนอลิซเองก็มองไม่ทันเช่นกัน เพราะความเร็วของเจ้าสิ่งที่ว่าทำให้เธอเองก็ยังไม่สามารถเดาได้ว่ามันคืออะไร

     

    เวลาผ่านไปไม่กี่นาที สิ่งที่ว่านั้นวิ่งยิ้นกลับมาอีกครั้งด้วยความเร็วที่เท่าตัวกว่าครั้งก่อน และเป้าหมายนั้นคืออลิซไม่ใช่อายะ

     

    “กะอยู่แล้ว!” เธอสบถเสียงแข็งก่อนที่จะก้มตัวลงและใช้มีดส้นเฉือนเข้าที่สิ่งที่เป็นจุดอ่อนของทุกคน

     

    เส้นเลือดใหญ่หลังข้อเท้า!

     

    ฉึบ!

     

    เส้นเลือดใหญ่นั้นถูกตัดขาดออกจากกันจนเลือดไหลทะลักเข้ามา เมื่อเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงร่างกายฉีกขาด ร่างของมันทรุดลงเพราะไม่สามารถทรงตัวได้แล้ว ร่างนั้นไถลผ่านสายหมอกจนกระทั่งไปหยุดอยู่หน้าอายะ เธอมองปราดเดียวก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าเจ้าสิ่งนี้คืออะไร

     

    ม้าสีน้ำตาลตัวโตที่ประดับไปด้วยเสื้อเกราะที่หุ้มด้วยอาวุธครบมือ

     

    อายะยันตัวเองขึ้นก่อนที่จะมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง เธอไม่รู้สึกเจ็บบาดแผลที่ฉกรรจ์แต่อย่างใด ความแค้นเริ่มเข้ามาในหัว เธอต้องไล่ล่าเจ้าม้าบ้าที่ทำให้เธอเป็นแผลเลือดออกให้ได้

     

    “ข้างหลัง!” อลิซจับทางได้ อายะเอี้ยวตัวไปก่อนที่จะโก่งหน้าไม้เข้าไปที่เบ้าตาของม้าที่กำลังจะเข้ามาดีดร่างของเธอ

     

    ท้าตัวที่สองเริ่มเสียหลักเมื่อถูกยิงเข้าไปในประสาทตา มันพุ่งตรงไปหาอลิซ เธอตีลังกาเหนือสายหมอกก่อนที่จะดึงด้ามหน้าไม้ออกและหักแกนของศรคาไว้ที่ดวงตาของมัน เสียงร้องระงมดังขึ้นพร้อมกับร่างนั้นที่กระแทกกับโคนต้นไม้อย่างจังจนแน่นิ่งไป

     

    “มันมีอีกกี่ตัวกันนะ!” อายะปาดเหงื่อ

     

    “มันเป็นประโยคคำถามหรือว่าเธอพูดกับตัวเองกันแน่ ....” อลิซพูดก่อนที่จะยิ้มมุมปาก

     

    “ฉันพูดคนเดียว!

     

    “หึหึ .. แต่ดังไปนะ!” อลิซหัวเราะในลำคอพร้อมกับม้าอีกตัวที่วิ่งมาทางด้านข้าง อลิซตีลังการอบสองขึ้นไปอยู่บนหลังมา มันพยศ หากแต่ว่าอลิซสามารถจับสายคล้องม้าไว้ได้ทัน

     

    ม้าตัวนั้นวิ่งไปมาอยู่รอบ ๆ ม้าอีกตัวกลับโผล่มาจากสายหมอกนั้น หากแต่ว่าอายะเร็วกว่า เธอคล้องสายม้าก่อนที่จะกระโดดขึ้นหลังของมัน สายตาของเธอเหลือบไปเห็นสร้อยมุกของนภางค์ที่ห้อยอยู่ที่คอม้า เธอจะคว้ามันหากแต่ว่าม้ากลับไม่อยู่เฉย ๆ มันพยศไปมาจนทั้งสองตัวมันจะชนกันอยู่แล้ว ....

     

    ชนกัน?

     

    “บิงโก ...” อายะหัวเราะก่อนที่ม้าทั้งสองจะวิ่งไปมา

     

    “ไม่บอกก็รู้ว่าต้องทำยังไง” อลิซฉีกยิ้มกว้างก่อนที่จะตวัดสายคล้องม้าให้มันหันหน้าเข้าหาม้าของอายะ ทั้งสองกำลังจะพ่งชนกัน

     

    “ตอนนี้ล่ะ” ราวกับว่าทั้งสองประสานเสียงพร้อมกัน อายะคว้าสร้อยมุกออกมาและกระโดดลงมาจากหลังม้า ในขณะที่อลิซเองก็ตวัดสายม้าทิ้งทวนก่อนที่จะกระโดดลงมาเช่นเดียวกัน

     

    ม้าทั้งสองวิ่งพุ่งเข้าหากันโดยที่ไม่ได้นัดหมาย อาวุธของพวกมันเข้าชนกันเองจนสร้างบาดแผล ด้วยความตกใจคิดว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาทำร้ายมัน มันจะพยศดีดกันเอง เวลาผ่านไปราวห้านาที ศึกนั้นจบลงพร้อมกับการตายของพวกมันทั้งคู่

     

    “เสร็จไปสินะ ...” อายะเปรยก่อนที่จะยกสร้อยออกมาเชยชมอย่างภาคภูมิใจ

     

    “เพราะพวกเราแท้ ๆ ทำให้ภารกิจลุล่วง”

     

    “ไม่ใช่พวกเรา ... ฉันคนเดียว!” อายะทิ้งประโยคก่อนที่จะเดินออกมาจากป่าต้องสาป อลิซเองได้แต่หัวเราะในลำคอเป็นรอบที่สามก่อนที่จะเดินตามหญิงสาวไป

     

    ภารกิจที่สองนั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีแม้จะมีปากเสียงกันตั้งแต่ตอนแรกก็ตาม เหตุการณ์นี้สอนให้รู้ว่า ยามที่เรายากลำบาก ศัตรูที่มีจุดหมายเดียวกัน มักจะช่วยเหลือกัน

     

    เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ....

     

     NEYNE: BLOMMA

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×