ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality 7 .:: ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร ::. *Start*

    ลำดับตอนที่ #64 : Friday : บททดสอบกระตุกจิต

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 273
      1
      19 ส.ค. 54

    REALITY SEASON 7

    ตอน : ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร

    WEEK 2

    แอมป์พยายามแก้ปมเชือกที่มัดอย่างแน่นออกเพื่อช่วยเด็กสาวที่กำลังขวัญเสีย หนูน้อยไม่น่าจะมาอยู่ในป่าได้เพียงลำพัง มีเพียงความมืดและสัตว์ร้ายเท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อนของเธอในยามที่เธอไม่ได้เจอพวกเขา อลิซเลียริมฝีปากพรางมองแอมปืทีก่ำลังช่วยเด็กสาวสุดความสามารถ ส่วนวัชรนั้นเอาแต่กอดหุ่นกระบอกเอาไว้ก่อนที่จะหัวเราะร่วนในพฤติกรรมคนดีของสังคมที่แอมป์กำลังกระทำอยู่

     

    “นี่มันเด็กนะ .....” แอมป์เริ่มหัวเสีย มือก็ยังแก้ปมไม่ออก

     

    นอกจากทางเดินและดงดอกจิลเลเนียนสีน้ำเงินแล้ว ที่พื้นนั้นกลับมีร่างของเด็กสาวตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งถูกมัดติดกับพื้นด้วยเชือกที่เกี่ยวอยู่กับตะขอที่ปักพื้นเอาไว้ เสียงร้องไห้นั้นดังจนแอมป์ต้องวิ่งเข้าไปเพื่อช่วยแก้มัดเด็กสาวออก ในตอนนั้นเองที่สายตาของอายะนั้นเหลือบไปเห็นข้อความบางอย่างที่ปรากฏขึ้นบนหน้าปัดรถบด

     

    ในตัวของเด็กสาวคนนี้มีกุญแจขดอยู่ในลำไส้ใหญ่ หาทางเอาออกมาและไขประตูเข้าไปเอาดอกจิลเลเนียนออกมา

     

    “พี่จะช่วยเธอเอง ไม่ต้องร้อง ...” แอมป์ละจากเชือกที่ผูกแน่นมาเป็นตะขอที่ปักหมุดลงบนพื้น หากแต่ว่ามันแน่นจนเกินกว่าที่เด็กอย่างเขาจะดึงมันออกมาได้

     

    หนูน้อยวัยหกขวบเริ่มเสียขวัญ เธอเริ่มอวดครวญในลำคอเพราะในปากนั้นถูกมัดด้วยผ้าบางสีขาวที่ใช้ห่อศพของพวกมูลนิธิกูภัย เขาพยามจะช่วยเหลือเด็กคนนี้ให้สุดความสามารถ

     

    “พี่วัชร พวกพี่ไม่คิดจะมาช่วยกันหน่อยเหรอ?” แอมป์สุดจะทนกับพฤติกรรมของเพื่อน ๆ ร่วมทีม

     

    “พวกเรามาที่นี่เพื่อมาตามหาดอกจิลเลเนียนนะ ไม่ได้มาช่วยชีวิตใคร ....” วัชรเปรยก่อนที่จะเดินไปหาทางเอากุญแจที่คล้องกับโซ่ออก เขาอยากจะกลับไปปราสาทและนั่งกินอาหารเช้าเต็มทนแล้ว อลิซที่ยืนดูอยู่เงียบ ๆ ได้แต่ส่งยิ้มให้เด็กสาวโดยที่ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด

     

    เหลือเพียงอายะที่นั่งอยู่บนรถบด เธอแอบเอากระดาษที่ใช้จดบันทึกออกมาจากกระเป๋า นี่คือการมดสอบจิตใต้สำนึกและการเคลื่อนไหวของพวกเขาทั้งหมดที่อยู่ในป่าแห่งนี้ เด็กน้อยที่นอนรอความช่วยเหลือ คงจะเป็นหนึ่งในการทดสอบจิตใต้สำนึกอย่างแน่นอน มันจะทำให้เราลังเลตรงที่ว่า

     

    ช่วย หรือ ไม่ช่วย ....

     

    “หลบไป ....” เสียงของอายะราวกับกระซิบ วัชรและอลิซหันมามองหน้าแทบจะพร้อมกัน ส่วนแอมป์นั้น เขาเริ่มมีสีหน้าที่ยิ้มออกมา

     

    “พี่จะช่วยเธอใช่ไหม?” แอมป์ย้ำ

     

    อายะไม่ได้พูดอะไรนอกจากยิ้มมุมปากอย่างไม่น่าไว้ใจ แอมป์เองไม่ทันได้เห็นรอยยิ้มที่น่ากลัวนั้น มือซ้ายของอายะเริ่มขยับเกียร์เพื่อให้รถเดินหน้า ส่วนมือขวานั้นจับพวกมาลัยอย่างคล่องแคล่ว

     

    บรื้นนนนน!!!

     

    เธอเหยียบคันเร่งอย่างแรงจนรถบดนั้นกระชากตัวออกมาจากที่เดิมของมัน แสงไฟสาดเข้าปะทะตัวของแอมป์ทำให้เขาต้องผงะถอยหลัง เขามองปราดเดียวก้รู้ว่าอายะต้องการจะทำอะไร

     

    เธอไม่ได้เข้ามาช่วย แต่จะขับรถบดเข้ามาขยี้ร่างของเด็กสาวให้ขาดเป็นเสี่ยงๆ ต่างหาก

     

    กร๊อบ!!

     

    โบล๊ะ!!

     

    เสียงสองเสียงเกิดขึ้นจนแทบจะพร้อมกัน เสียงแรกคือเสียงของท่อนขาเด็กน้อยถูกยัดเข้าไปในส่วนของเครื่องบดทำให้กระดูกขาของเธอแหลกเละ เสียงโหยหวญดังเล็ดลอดผ่านผ้าที่ถูกปิดไว้ เครื่องบดนั้นบดร่างของเธอมาเรื่อย ๆ จนถึงส่วนหัวที่กะโหลกศีรษะนั้นแตกกระจาย ไขสมองสีเหลืองและมันสมองของหล่อนกระเด็นเปื้อนตัวของแอมป์ที่อยู่ใกล้ที่สุด เธอบดซ้ำไปซ้ำมา ใบหน้ายังคงยิ้มอย่างมีความสุข เพียงเวลาผ่านไปได้ไม่กี่นาที เธอได้ถอยรถบดกลับเข้าที่ก่อนจะจอดอย่างสนิท

     

    “พี่ทำอะไรน่ะ!” แอมป์จ้องมองร่างของเด็กสาวที่เหมือนโคลนสีเลือดอยู่บนพื้น

     

    “กุญแจ ... เอาไปไขประตูซะ!” อายะพูด อลิซหันไปมองที่ร่างนั้นก่อนที่จะเดินเข้ามาหยิบกุญแจที่ขดอยู่ในลำไส้ของเด็กสาวที่ไม่เหลือเคล้าของความเป็นมนุษย์อยู่เลย เธอเลียเลือดที่ติดกุญแจก่อนที่จะเดินเข้าไปไขประตู สองมือของเธอเริ่มกระชากโซ่ออกหลังจากที่กุญแจนั้นหลุดออกมาจากพันธนาการ

     

    ประตูขึ้นสนิมนั้นถูกเปิดออก วัชรและอลิซเดินเข้าไปในดงดอกจิลเลเนียนเพื่อจัดการเด็ดออกมา แอมป์ได้แต่มองร่างนั้นก่อนที่จะลุกเดินไปอย่างช้า ๆ เข้าไปด้านใน ส่วนอายะเอาแต่นั่งอยู่บนรถบด เพื่อสังเกตพฤติกรรมของเพื่อน ๆ ที่เหลือ จากที่พวกเขาก้าวเข้ามาในนี้ การทดสอบการเคลื่อนไหวจึงเริ่มต้นขึ้น

     

    “เรียบร้อย ... กลับกันเถอะ ... ผมเบื่อที่นี่จะแย่อยู่แล้ว” วัชรกอดกุ่นกระบอกที่ถือดอกจิลเลเนียนสีน้ำเงินเอาไว้ ในตอนนั้นเองที่มีบางสิ่งบางอย่างโผล่ออกมาจากดงนั้น

     

    “หมาป่าเหรอ .....” อลิซอมยิ้มก่อนที่จะหยิบมีดสั้นที่พกมาออกมาจากกระเป๋า เธอจะได้ออกกำลังกายแล้ว ส่วนวัชร์นั้นก็ได้แต่มองหน้าแอมป์ ฝูงหมาป่าสองถึงสามตัวเดินออกมาจากดงดอกไม้ที่คาดว่าน่าจะเป้นที่ซ่อนของพวกมัน

     

    โฮกกกกก!!

     

    เสียงร้องคำรามของมันดังขึ้นก่อนที่ตัวที่หนึ่งจะกระโจนเข้ามา วัชรที่ยืนอยู่ตรงนั้นเอี้ยวตัวไปทางซ้ายก่อนที่จะขึ้นคร่อมร่างของมันและจับมันเอาไว้แน่น มันอ้าปากเผยให้เห็นเขี้ยวของมัน

     

    “ร้องแบบนี้ ตกใจหมดเลย ....” เขาพูดเบา ๆก่อนที่จะเอากิ่งไม้ยัดเข้าไปในปากให้มันหุบปากลงไม่ได้ หลังจากนั้นจึงใช้สองมือของเขาออกกำลังสุดแรงโดยการง้างปากของมันออก ช่องปากของมันโหว่ออกมาจนเห็นหลอดลมและลิ้นไก่ที่อยู่ข้างใน จากนั้นเขาจึงกระทืบมันซ้ำไปซ้ำมาอย่างสนุกสนาน

     

    หมาป่าตัวที่สองกระโจนออกมาจากทางด้านข้าง แอมป์ก้มตัวหลบพ้นก่อนที่ร่างของมันจะไปกระแทกกับประตู ความแรงของการพุ่งตัวนั้นทำให้ขาของมันยัดติดซอกของประตูจนไม่สามารถดึงออกได้ แอมป์วิ่งออกมาจากดงดอกไม้ก่อนที่จะถีบประตูให้หนีบที่ขาของมัน หมาป่าร้องอย่างทรมานหากแต่ว่าแอมป์ก้ยังคงถีบประตูเหล็กซ้ำไปซ้ำมา

     

    “ฉันไม่อยากทำร้ายแกถึงตาย ใจฉันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก ...”

     

    ทางด้านของอลิซ เขากำลังต่อกรกับหมาป่าซึ่งเป็นจ่าฝูงของพวกมัน มันกระโจนเข้าหาเธอซึ่งเธอก็ปล่อยให้มันคร่อมอยู่บนร่างของเธอ เธอเลียริมฝีปากพร้อมกับอุ้งเล็บที่หมายจะตระปบเหยื่อตรงหน้า เธอจึงหยิบมีดสั้นออกมาและออกแรงฟันลงบนขาหน้าของมัน ร่างของมันร้องก่อนที่จะเริ่มเสียการทรงตัว เธอจึงยันตัวของมันให้ล้มลงก่อนที่จะจับขาหลังของมันฟาดเข้ากับต้นไม้จนเสียงกระดูกนั้นลั่นไปทั่วทั้งผืนป่า

     

    เมื่อทั้งสามตัวถูกกำจัดแล้ว ทั้งหมดจึงเดินออกมาพร้อมกับดอกจิลเลเนียนในมือ อายะได้แต่ยิ้มไม่ได้พูดอะไรก่อนที่จะลงมารถบดและเดินนำทางพวกเขากลับบ้าน

     

    เวลาผ่านไปราวสิบนาที พวกเขาทั้งหมดกลับมาถึงปราสาทของปักษาธรได้อย่างปลอดภัย พวกของมิ้วที่รออยู่ก่อนแล้วได้จัดอาหารเอาไว้เพื่อเป็นมื้อเช้า พวกเขานั่งประจำโต๊ะกัน ยกเว้นแต่แม่ครัว ยะหยา มิ้ว และมาริสซ่า

     

    “ทำไมไม่กินด้วยกันล่ะ?” วัชรเอ่ยก่อนที่จะตักสิ่งที่แทน ปลาดอลลี่เข้าปาก

     

    “พวกเรากินมาอิ่มแล้วในห้องครัว เลยขอตัวดีกว่า” ยะหยาเอ่ยเสียงใส ซึ่งแน่นอนว่าพวกเธอทั้งสามไม่มีวันแตะอาหารเช้านี้เป็นแน่

     

    ไม่นานนักอาการของวัชรจึงเริ่มแสดง เขารู้สึกเริ่มเวียนหัวก่อนที่จะอาเจียนออกมา จนแอมป์ต้องพาไปนอนพักในห้องนอน ดูท่าแล้วจะมีเพียงวัชรเท่านั้นที่แสดงอาการอยู่คนเดียว ส่วนคนอื่นนั้นปกติดี อายะที่นั่งอยู่ในห้องอาหารยิ้มอย่างพอใจก่อนที่จะหยิบกระดาษออกมาเขียน

     

    แบบบันทึกทักษะจิตใต้สำนึกและการเคลื่อนไหว

    R2 อลิซ = จิตใต้สำนึกอยู่ในระดับปานกลาง เคลื่อนไหวได้รวดเร็วจนฉันเองถึงกับตกใจอยู่ไม่น้อย ฉันว่าถ้าเธอมาเห็นข้อความบนรถบด เธอคงจะทำมากกว่าบดร่างของเด็กคนนั้นแน่นอน

    R5 อายะ = ฉันจัดการเปิดทางให้กับพวกนั้นเข้าไปหาดอกจิลเลเนียน และรอดูอยู่ห่าง ๆ ดีกว่า แต่ฉันก็เข้าร่วมทดสอบนะ เป็นตัวเปิดเลยด้วย

    R6 วัชร = ดูโรคจิตดีนะ ฉันแอบเห็นเขายิ้มกับตุ๊กตาและหัวเราะตอนแอมป์พยายามจะช่วยเด็กหน้าโง่คนนั้น ตอนสู้กับหมาป่า .... ฉันยอมรับ ว่าเขากล้าหาญมาก

     

    R8 แอมป์ = เด็กคนนี้เป็นคนดีเกินไป จิตใต้สำนึกของเขาอยู่ในระดับสีขาว บริสุทธิ์ เขาช่วยเด็กจนไม่รู้ว่านี่มันคือเกม และไม่ยอมฆ่าหมาป่านั่น ถ้าเขารอดออกไป ฝากบอกเขาด้วย ว่าฉันอยากให้เขาบวชไปซะ!

     

    หลังจากที่อายะเขียนข้อความบนแบบทดสอบเรียบร้อย เธอจึงขอแยกย้ายไปนอนพักเล็กน้อย พรุ่งนี้ก็จะเป็นอีกวันที่จต้องเปลี่ยนหัวหน้าราชวงศ์คนใหม่ และเป้นจุดเปลี่ยนชีวิตของอีกชีวิต และ Special Week ถึง 2 Special ที่น่าติดตามอยู่ไม่น้อย

    แบบฟอร์มการเข้าห้องสารภาพ (ส่งทางข้อความลับก่อนวันพรุ่งนี้ตอน 12.00)

     

    ชื่อเล่นของคุณพร้อมรหัส :

    ความรู้สึกที่มีต่อกิจกรรมนี้ :

    โหวตคนที่คิดว่า แกร่งที่สุดพร้อมเหตุผล : (ตอบในมุมมองของผู้เข้าแข่งขัน ไม่ใช่นักอ่าน)

    โหวตคนที่คิดว่า อ่อนแอที่สุดพร้อมเหตุผล : (ตอบในมุมมองของผู้เข้าแข่งขัน ไม่ใช่นักอ่าน)

     

     

     

     

     

     

      NEYNE: BLOMMA

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×