คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #44 : Round 1 : เด็กสาวเจ้าน้ำตากับมารยาร้อยเล่มเกวียน
REALITY SEASON 7
ตอน : ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร
“ROUND 1”
ขณะนี้เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว สายฝนเริ่มทุเลาและเบาบางลง เหลือไว้ให้แต่เพียงแอ่งน้ำที่เจิ่งนองอยู่บนพื้นดิน ภายในทางเดินของห้องพักพนักงานนั้นนั้น มีสองชีวิตที่กำลังห้ำหั่นกันเพื่อให้แต่ละคนมีชีวิตรอดออกไปจากค่ำคืนแห่งความโหดร้ายนี้
“อยู่ที่ไหนนะ” เดล่า เปรยขึ้นเบา ๆ ก่อนที่จะมองซ้ายทีขวาที เธอไม่ชอบเลยกับการทีต้องมาเล่นซ่อนแอบแบบนี้ ในมือนั้นยังคงถืออาวุธคู่กายเตรียมจัดการกับเยื่อที่หลงเข้ามาทางนี้
มันคือเลื่อยไฟฟ้า .... อาวุธที่รุนแรงระดับหนึ่งเลยทีเดียว
ทางเดินที่แคบนั้นสร้างความกดดันให้กับเธอเป็นอย่างมาก มันทั้งเต็มไปด้วยหยากไย่ที่ขึ้นเต็มเพดาน และฟลอดไฟกลมที่กวัดแกว่ง ทำให้แสงนั้นสว่างวาบเป็นจุดๆเท่านั้น
“มิ้ว .. เธอออกมาเดี๋ยวนี้นะ ...” เธอเริ่มจะโวยวายอย่างทนไม่ได้ เธอฟาดผนังเสียงดังด้วยเลื่อยไฟฟ้าจนเสียงดังกังวานไปทั่ว เสียงนั้นไม่ได้เรียกให้มิ้วออกมาจากที่ซ่อนแต่อย่างใด หากแต่ว่าเสียงก้องนั้นกลับทำให้อีกคนที่เดินเล่นอยู่แถวนั้นได้ยิน
“โอ๊ะโอ ... มีคนอยู่แถวนี้ด้วยสินะ ...” เสียงที่ดูเย็นชาแต่แฝงไปด้วยความสนุกสนานดังขึ้นเบา ๆ เขาอมยิ้มออกมาก่อนที่จะหยิบหุ่นกระบอกคู่ใจออกมาพิจารณา
“นายยังไม่สมบูรณ์แบบเท่าไรเลยนะ ... มีแค่ตากับผิวหนังแค่นั้นเอง ...” เขามองหุ่นกระบอกในมืออย่างชั่งใจ เมื่อครู่เขาเพิ่งเอาผิวหนังจากหัวไหล่ของเวทย์มาแล้วก็ดวงตากลมโตของเมเปิ้ลมาประกอบเป็นหุ่นกระบอก ยังขาดของสำคัญอีกมากมายในร่างของหุ่นตัวใหม่
“ได้เวลาสะสมคอลเลคชั่นใหม่แล้ว ...” วัชร รำพันกับหุ่นกระบอกคี่ใจก่อนที่จะคว้ามีดสั้นและเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ
เดล่าใช้เวลากว่าสิบนาทีในการตามหาเหยื่อของเธอ หากแต่ว่ามิ้วนั้นซ่อนตัวเก่งกว่าที่เธอคิดเอาไว้มาก เมื่อหลายนาทีก่อนนั้นมิ้วเอาแต่หนีหัวซุกหัวซุนจนมาหลบอยู่ในโซนของห้องพักพนักงาน จนถึงตอนนี้เธอก็ยังคงซ่อนตัวอยู่ที่ไหนซักแห่งในห้องใดห้องหนึ่งเป็นแน่
“ฉันเบื่อที่จะเล่นซ่อนหากับแกแล้วนะนังเด็กบ้า!” เธอตะโกนก่อนที่จะใช้เท้าขวาถีบเข้าที่ประตูบานที่ห้า
ปัง!
เธอออกแรงถีบประตูด้วยความโมโหจนประตูนั้นกระแทกกับผนังห้องอย่างแรง สายตาของเธอมองกวาดอย่างรวดเร็ว ภายในห้องนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น กลิ่นอับชื้นและความสกปรกมากมาย เตียงมุมห้องนั้นมีเพียงหยากไย่มากมาย แสดงให้เห็นว่าห้องพักคนงานนี้ขาดการอยู่อาศัยมานานแสนนาน และแล้วเธอก็เห็นสิ่งมองหามานานหลายนาที สิ่งที่ทำให้เธอต้องออกตามหาเพื่อจัดการ
ร่างของเด็กสาวปรากฏอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือภายในห้อง เธอนั่งขดตัวอยู่บนโต๊ะด้วยความหวาดกลัว ใบหน้าเลอะไปด้วยฝุ่นและคราบน้ำตาจนหน้ามอมแมมไปหมด ผมยาวของเธอเริ่มยุ่งเหยิงจากเหงื่อและการออกวิ่งเมื่อครู่ ใบหน้าของเธอเบิกกว้างเมื่อเห็นมัจจุราชอยู่ตรงหน้า
“ด .. เดล่า ...” เสียงสั่นเครือของมิ้วดังคลอกับสายลมที่พัดมาจากหน้าต่างห้องพักพนักงาน
เดล่ายิ้มกว้างก่อนที่จะกระชับเลื่อยไฟฟ้าและเริ่มสตาร์ทเครื่อง เสียงเลื่อยนั้นดังเข้าไปในโสตประสาทของเด็กสาวที่ไม่มีอาวุธอยู่ในมือเลยสักอย่างนอกจากรอความตายให้มาเยือนเธออย่างช้า ๆ
“อย่าเข้ามานะ!” เธอพูดทั้งน้ำตา หากแต่ว่าเดล่ากับหัวเราะร่วนอย่างสะใจ เธอยกเลื่อนไฟฟ้าขึ้นมาในระดับท้องก่อนที่จะเดินเข้ามา
“สั่งเสียไหม?” เดล่าเอียงคอ นัยน์ตาฉายแววอำมหิตออกมาอย่างชัดเจน
มิ้วนั้นไม่ได้พูดอะไรนอกจากร้องไห้ออกมาด้วยความหวาดกลัวกับความตายที่รอเชือดเธออยู่ตรงหน้า ตอนนี้ตัวเธอนั้นดูน่าเวทนาไม่ต่างอะไรกับลูกหนูตัวน้อยที่กำลังจะโดนแมวตะปบก็ไม่วาย
“อย่าเขามานะ!!” สิ้นเสียงของมิ้ว เดล่าระเบิดเสียงหัวเราะที่น่าขนลุกอีกครั้งก่อนจะรีบเดินปรี่เข้ามาหาเธอ ในตอนนั้นเองที่ปฏิกิริยาบางอย่างเริ่มเกิดขึ้นภายในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ
ขาของเธอเกี่ยวเข้ากับเส้นเอ็นที่มองไม่เห็นนั้นจนขาดออกจากกัน ทันทีที่เอ็นสีขาวสะอาดขาดลง กลไกบางอย่างในห้องจึงเริ่มทำงาน เส้นเอ็นนั้นวิ่งไปตามทางโดยที่เดล่าไม่รู้อะไรเลย
“บอกลาโลกได้แล้ว!!” เดล่าง้างเลื่อยขึ้นเหนืออากาศ มิ้วร้องไห้โฮ อีกไม่นานความตายกำลังจะย่างกรายเข้ามาแล้ว หากแต่ว่า ...
คนที่ตายไม่ใช่เธอ!!
ปัง!!
กระสุนของลูกโม่ที่ถูกติดตั้งอยู่บนตู้ล็อคเกอร์นั้นพุ่งแหวกวิถีกระสุนผ่านสายลมและตรงเข้าไปยังขมับของเดล่าอย่างจัง ซึ่งแน่นอนว่าเลือดและหนังศีรษะที่ได้รับการกระแทกจากกระสุนกระเด็นออกมาราวกับจิ๊กซอว์ เส้นเลือดใหญ่ถูกตัดขาดออกจากกันส่งผลให้เลือดกระจายออกมาจากขมับซ้ายของเธอ เลื่อยไฟฟ้าที่เธอถือมาหลุดมือ ร่างของเธอล้มลงไปแทบจะในทันที ใบเลื่อยที่อยู่บนพื้นเริ่มตัดร่างของเธอขาดไปสองท่อน ลำไว้ใหญ่นั้นเริ่มไหลออกมาจากช่องท้องมากองกันอยู่ที่พื้น เลือดสีเข้มทะลักออกมา ไม่ใช่เพียงแค่ลำไส้ใหญ่เท่านั้น บรรดาตับ ม้าม และเครื่องในต่างๆ ต่างพุ่งออกมาอย่างน่าสยดสยอง มิ้วมองภาพที่อยู่ตรงหน้า ..... ก่อนที่รอยยิ้มจะเริ่มปรากฏบนใบหน้าแทนคราบน้ำตานั้น!
เธอก้าวลงจากโต๊ะเขียนหนังสือก่อนที่จะหยิบเลื่อยมาปิดเครื่อง นัยน์ตาทั้งสองดวงจับจ่ออยู่กับร่างที่ขาดเป็นสองท่อนของเดล่า ในเวลาไม่กี่นาทีที่เดล่ากำลังเล่นซ่อนหานั้น เธอใช้เวลาเพียงแวบเดียวในการประดิษฐ์กลไกเพื่อเล่นงานเดล่าที่หลงเข้ามา และมันก็ได้ผล เส้นเอ็นที่ประกอบเข้ากับอาวุธของเธอใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกอย่างที่เธอทำคือแผนการล่อเหยื่อให้เข้ามาติดกับเท่านั้น
“ก็บอกแล้วไงว่าอย่าเข้ามา ....” เธอยิ้มมุมปากก่อนที่จะตรงไปเก็บปืนลูกโม่และเดินจากไปจากห้องพักพนักงาน เป็นเวลาเดียวกันกับบนหลังคาของโกดังที่เก็บแป้ง
เด็กหนุ่มเล็งปืนไรเฟิลเพื่อส่องหาเหยื่อที่เดินเผล้นพล่านอยู่ตามทางเดิน หาดแต่ว่าไม่มีใครเลยสักคนที่อยู่บริเวณนี้ เคิร์บ รู้สึกเซ็งกับการที่ต้องมานั่งอยู่บนหลังคา และแล้วเขาก็เห็นบางอย่างวิ่งตรงมาทางนี้ถึงสองคน คนหนึ่งเป็นผู้หญิง และอีกคนหนึ่งเป็นผู้ชาย
“จะหนีไปไหนจ๊ะสาวสวย มาเป็นศพแรกให้ฉันก่อนสิ” เสียงที่ฟังดูดิบของ ต้อม นั้นดังขึ้นเมื่อเห็นว่าเหยื่อไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เขาควงกระบองที่พันด้วยลวดหนามวิ่งมาอย่างสบายอารมณ์
“ฉันจะไม่หยุดเพราะเสียงของนายนี่แหละ ฉันไม่ได้มาเพื่อฆ่า ฉันมาเพื่อ Bitch ย่ะ นายน่าโง่!!” มาริสซ่า ตะโกนด้วยความเหนื่อยหอบ สองเท้าก็วิ่งไปตามทางเดินอย่างไม่ลดละ ขืนเธอหยุดเธอก็ตายลูกเดียว และนี่คือหนทางเดียวที่เธอจะหนีรอด เธอคิดไว้ว่าจะหนีไปเรื่อยจนกว่าจะเช้า
“เธอว่าฉันโง่เลยนังแหม่มปากเน่า!” ต้อมตะโกนไล่หลังอย่างเหลืออด จังหวะนั้นบนหลังคา เคิร์บเล็งปืนที่ศีรษะของต้อมกันที่จะลั่นไกอย่างแม่นยำ
ปัง!
จากที่ต้อมเคยวิ่งอยู่นั้นเขาเซไปทางด้านข้างด้วยความแรงของกระสุนไรเฟิล ทำให้เขาถึงกับถลาโดยที่ตั้งหลักไม่ทัน ร่างของเขาพิงกับผนังโกดังก่อนที่จะแน่นิ่งไป มาริสซ่ารู้ดีว่าเหยื่อรายต่อไปของวิถีกระสุนนั่นต้องเป็นเธอแน่ ๆ สองตาของเธอเหลือบไปเห็นประตูโกดังที่เปิดอ้าอยู่ เธอจึงตัดสินวิ่งเข้าไปเพื่อหลบซ่อนตัวอยู่ในนั้น ศพของเมเปิ้ลปรากฏอยู่ในโกดัง หากแต่เธอไม่ได้สนใจ เพราะตอนนี้เธอต้องการที่จะซ่อนตัวเพียงเท่านั้น ...
“เสร็จไปอีกหนึ่ง ...” สิ้นเสียงของเคิร์บ คมดาบที่ไร้ที่มาพุ่งตรงมาทางด้านหลัง ปักเข้าที่หอกด้านซ้ายของเขาอย่างแรง ปลายดาบนั้นยาวออกมาจากหน้าอกพอสมควร
“พลาดจนได้!” เขาทรุดไปกับพื้น สิงโตเริ่มกระชากดาบออกมาจากหน้าอก เขารู้สึกทรมานมากกับบาดแผลที่เขาไม่ทันได้ตั้งตัวเลย นี่เขากำลังจะตาย ... ภาพสุดท้ายที่เขาเห็นนั้นคือร่างของเด็กหนุ่มผมยาวที่เก็บดาบและเดินหันหลังจากไป
เขาไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นแน่!
ปัง!
พละกำลังสุดท้ายของเขาก่อนที่สติจะพล่าดับไป เขาหยิบปืนไรเฟิลขึ้นมาและส่องเข้าไปที่อกข้างซ้ายของสิงโตเช่นกัน เขาเหนี่ยวไกอย่างแรงส่งผลให้กระสุนจากไรเฟิลพุ่งเข้ายังขั้วหัวใจของเด็กหนุ่มผมยาวเช่นกัน
“บิงโก!” เขากระอักเลือดออกมา รู้สึกสะใจที่ฆ่าคนที่ลอบกัดข้างหลังได้ สิงโตที่ไม่ทันได้ตั้งตัวถึงกับล้มหงายไปบนหลังคา เคิร์บมองร่างที่แน่นิ่งนั้นจนแน่ใจว่าตายสนิทแล้ว ลมหายใจของเขาจึงเริ่มขาดหายไปในที่สุด ....
ทางด้านของภัทรเอง เขาเดินไปมาอยู่หลังโกดังเก็บอาหารมานานร่วมสามชั่วโมงแล้ว หากแต่ว่าขายังไม่เจอใครหรืออะไรที่ผ่านมาแถวนี้เลย เขาจึงตัดสินใจนั่งอยู่เฉย ๆ ตรงนี้เพื่อรอเวลาให้เกมยุติ จะได้ไม่ต้องออกไปฆ่าใคร และไม่ต้องถูกฆ่า เขาไม่อยากฆ่าใคร เหมือนที่เขาเคยห่าพี่ชายของตัวเอง
“ลมพัดสบายดีเนอะ นายว่าไหม ...” เสียงประหลาดของใครบางคนดังขึ้น เขาหันกลับไปพร้อมกับค้อนที่อยู่ในมืออย่างรวดเร็ว ไม่มีอะไรนอกจากเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่กับหุ่นกระบอกตัวโปรด เขากระโดดลงมาจากต้นไม้ก่อนที่จะเดินเข้ามาหา
“ไม่ต้องกลัวฉันหรอกน่า ... ฉันไม่ได้มาทำอะไรนาย ฉันแค่มาหาคอลเลคชั่นเท่านั้น ...”
“คอลเลคชั่น .. เหรอ?” เขาถึงกับ งงงวย กับสิ่งที่เด็กหนุ่มปริศนากำลังจะสื่อ วัชรหัวเราะกับใบหน้าที่ไม่เข้าใจของภัทรก่อนที่จะมานั่งข้างๆก่อนที่จะเปรยเบา ๆ
“ฉันจะเล่าเรื่องคอลลคชั่นสุดเจ๋งให้ฟัง ... ” ว่าแล้วเขาก็เริ่มร่ายยาวไปเรื่อย ๆ ภัทรที่เคยอยู่คนเดียวจึงเริ่มนั่งฟังที่มาของคำว่า ‘คอลเลคชั่น’ สำหรับวัชรอย่างสบายอารมณ์
ตอนนี้ใกล้จะเริ่มจบเกมลงแล้วทุกขณะ ผู้เข้าแข่งขันเสียชีวิตไปแล้วในเกมถึง 7 คน คนสุดท้ายที่จะต้องถูกกำจัดในเกมจะเป็นใคร อีกไม่กี่อึดใจ คำตอบทุกอย่างจะเริ่มปรากฏ
อีกไม่นานเกมจะยุติ!
Result
อาเดลล่า เลเวอร์คูเซ่น (เดล่า)
ภาคิณ รักสกุลจริง (ต้อม)
ศิวกร พันธวิริยะ (เคิร์บ)
สิงหรัตน์ สกุลดำรง (สิงโต)
เสียชีวิต
เหลือผู้แข่งขัน 9 คน
ความคิดเห็น