คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #42 : Round 1 : เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา
REALITY SEASON 7
ตอน : ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร
“ROUND 1”
“จะซ่อนตัวได้อีกนานแค่ไหนกัน ...” เขาพึมพำก่อนที่จะเริ่มเล่นเกมซ่อนแอบอีกครั้ง ถ้าเขาพลาด นั่นคือ .. จบเกมในทันที!
การไล่ล่าของคนทั้งสองยังไม่สิ้นสุดลงเพียงเท่านี้ เวทย์กุมเคียวไว้ให้กระชับมือ สายตาเริ่มมองไปยังกลุ่มแป้งที่ฟุ้งกระจายอยู่โดยรอบ เหงื่อกาฬเริ่มไหลย้อยตามใบหน้าและเสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ ไร้วี่แววของเด็กหนุ่มเจ้าปัญหาที่มาก่อเรื่องแล้วก็หายไปเอาซะดื้อ ๆ แต่เขารู้ดีว่าสิงโตไม่ได้หายไปไหน คงอยู่แถวนี้แล้วรอเล่นงานเขาอยู่ห่าง ๆ
“ฉันไม่ยอมเสียท่าแน่ๆ” ทันทีที่เขาพูดจบ มีอะไรบางอย่างที่เขาไม่ได้คาดคิดและไม่ทันได้ตั้งตัวพุ่งตรงมาหาเขา ไม่ใช่จากทางด้านหน้า ด้านข้าง หรือด้านหลัง แต่หากเป็น ...
ด้านบน!
ฉึบ!
คมมีดของเด็กหนุ่มผมยาวพุ่งตรงเข้ากลางหน้าผากของเวทย์อย่างฉับไวและรวดเร็วจนเขาไม่สามารถตั้งตัวหรือหลบหลีกได้ทัน มีดปลายแหลมนั้นปักเข้ากลางหน้าผากของเขาอย่างจัง เด็กหนุ่มกำดาบเอาไว้ มองผลงานอย่างน่าภาคภูมิใจก่อนที่กดมันให้ลึกเข้าไปทะลุศีรษะของชายหนุ่มผู้อวดดีคนนี้ เลือดเริ่มไหลปริ่มๆออกมาจากช่องว่างของมีดและศีรษะของเขา สายตาของทั้งสองประสานกัน สิงโตมองหน้าของคนใกล้ตายอย่างสนุกสนานก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่แทบจะกระซิบ หากแต่ว่าความเงียบงันนั้นทำให้เวทย์ได้ยินมันอย่างชัดเจน
“ผมบอกแล้วว่าให้แนะนำตัวกันก่อน คุณตายแบบไร้ชื่อแบบนี้ น่าสงสารแย่” สิ้นเสียงของเด็กหนุ่มผมยาว เขากลับบิดดาบเพื่อคว้านหัวสมองของเวทย์อย่างช้า ๆ ก่อนที่จะกระชากดาบออกมาจากศีรษะที่น่ารังเกียจนั้น มันสมองสีเหลืองสดผสมเจือจางมากลับก้อนเลือดกระเด็นเปรอะเสื้อและตกลงพื้นเป็นลิ่ม ๆ เวทย์ค่อย ๆ ล้มลงก่อนที่จะกระตุกเล็กน้อย ฆาตกรจำเป็นจ้องมองผลงานอย่างภาคภูมิใจอีกครั้งก่อนที่จะกระทืบศีรษะของเขาจนยับยู่ยี่แทบจะจำเค้าโครงเดิมไม่ได้ ทุกครั้งที่เท้ากระแทกกับศีรษะนั้น เลือดและมันสมองรวมถึงเส้นประสาทต่าง ๆ กระจายออกมาจากหัวกะโหลกที่เริ่มจะยุบลงไป
“ชื่อก็ไม่มี หน้าก็จำแทบไม่ได้ .... สมแล้วล่ะที่จะโดนแบบนี้” เขาถ่มน้ำลายลงบนกองเลือดนั้นก่อนที่จะควงดาบยาวเปื้อนเลือดเดินจากไปจากโกดังเก็บแป้งแห่งนั้น โดยที่ทิ้งร่างของที่น่าเวทนาเอาไว้เช่นนั้น
ฝนยังคงตกกระหน่ำไม่ขาดสาย พื้นดินนั้นเจิ่งนองไปด้วยน้ำที่ผสมกับพื้นดินที่เป็นหลุมจนเกิดแอ่งน้ำขนาดเล็ก โกดังร้างที่ตั้งอยู่หลังเมืองต่างเปียกปอนไปด้วยน้ำฝนที่สาดลงมาเป็นระยะ เด็กหนุ่มคนหนึ่งวิ่งโซซัดโซเซมาตามทาง มือขวาของเขากำชะแลงเอาไว้แน่นไม่ให้มันหลุดมือ หัวไหล่ขวามีรอบแผลที่เป็นแนวยาว ๆ เหมือนกับโดนอะไรบางอย่างเฉี่ยวไป
เมื่อสิบนาทีที่แล้วเขาหนีการไล่ล่าของเด็กหนุ่มอีกคนที่มีอาวุธร้ายแรงอย่างไรเฟิลมาครอบครอง!
แต่โชคยังดีที่เขาโดนยิงมาแค่ถาก ๆ เท่านั้น สองเท้าวิ่งย่ำไปมาผ่านโกดังเก็บของมากมาย และแล้วเขาก็เห็นว่าโกดังด้านซ้ายมือของเขายังพอมีแสงสว่างให้พอเข้าไปหลบซ่อนตัวและตั้งหลักจากคนที่กำลังจะฆ่าเขาเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
ภายในโกดังแห่งนี้เต็มไปด้วยเสื้อคลุมขนสัตว์มากมายทั้งขนเฟอร์ ขนเสือ และขนของสัตว์หายากมากมายหลายชนิดที่ถูกแขวนเรียงรายเอาไว้อย่างไม่เป็นระเบียบ ที่นี่ค่อนข้างมีแสงสว่างที่มีมากพอ แต่ไม่เหมาะกับการซ่อนตัวเป็นแน่ แสงสว่างแบบนี้อาจจะเรียกให้คนอื่นเข้ามาฆ่าเขาได้ง่าย ๆ
“นายเข้ามาในที่ของฉัน ....” เสียงใสของเด็กสาวคนหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลัง หากแต่ว่าเขาไม่สามารถขยับตัวหันไปหาเธอได้เลย
แน่ล่ะ เธอเอาปืนปากกาจ่อที่หัวของเขาอยู่น่ะสิ ....
“เฮ้! ใจเย็นสิ ฉันแค่มาหาที่ซ่อนเท่านั้นเอง .... ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า” เขาพูดเพื่อเจรจาต่อรอง แต่เธอก็ยังไม่ยอมลดอาวุธลง
“ฉันจะเชื่อคำพูดของนายได้ด้วยเหรอ?” เธอสวนกลับ
“เพราะฉันไม่ทำร้ายผู้หญิง” คำพูดของเขาทำให้ใจอ่อนและยอมลดปืนปากกาลงแต่โดยดี เด็กหนุ่มอายุน้อยหันมามองหน้าเจ้าของปืนนั้น เธอคือเด็กสาวหน้าตาน่ารักคนหนึ่งที่สวมชุดสีดำทั้งชุด กระโปรงบานนั้นช่างเข้ากันดีกับรองเท้าบูทดำ ผมสีน้ำตาลปะบ่าทำให้เธอดูน่ารักขึ้นมาหลายเท่าตัว
“ฉันเมเปิ้ล” เธอยื่นมือเพื่อแสดงพันธมิตร
“แอมป์ ...” เขายื่นมือตอบกลับไปก่อนที่จะจ้องมองไปรอบ ๆ โกดังแห่งนี้อีกครั้ง
“ทำไมเธอมาซ่อนตัวอยู่ที่นี่ล่ะ”
“มันเรื่องของฉัน ... นายก็รีบ ๆ ออกไปจากโกดังได้แล้ว ฉันไม่อยากทำร้ายเด็กที่ยังไม่หย่านมแม่หรอกนะ” เธอหันมาพูดด้วยสายตาที่จริงจังและบังคับเป็นนัยๆ ว่าเขาสมควรที่จะออกไปได้แล้ว
เขาไม่ได้พูดอะไรกลับไปนอกจากเริ่มตั้งหลักอย่างที่เขาคิดไว้ เขาจะฝ่าฝนออกไปและเล่นงานผู้เข้าแข่งขันคนอื่นแทน เขาตั้งใจไว้ว่าจะไม่ทำร้ายผู้หญิงเด็ดขาด เพราะเขาไม่อยากทำให้ผู้หญิงต้องมาเสียใจและมาตายเพราะเขาอีก รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าที่เปียกปอนนั้นก่อนที่จะเดินออกไป แต่ในตอนนั้นเองที่มีบางอย่างเกิดขึ้นกับพวกเขาทั้งสองคน
พรึ่บ!!
“ไฟดับ!” เมเปิ้ลอุทานเสียงหลง ตอนนี้ทั้งเธอและเขาไม่สามารถมองเห็นอะไรที่อยู่ในนี้ได้เลย
จู่ ๆ ไฟฟ้าในโกดังเก็บเสื้อขนสัตว์เกิดขัดข้องและดับลงเอาซะดื้อ ๆ แต่ว่าแอมป์ไม่ได้คิดแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ คงจะเป็นการเล่นตลกของใครบางคนที่กำลังจะเริ่มฆ่าพวกเขาเป็นแน่ เขาต้องหาทางออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด แต่ทว่าเขาไม่สามารถมองเห็นอะไรที่อยู่ในโกดังนี้ได้เลย .. มันมืดจนเกินไป
ทางด้านของเมเปิ้ล เธอพยายามปรับสายตาให้เข้ากับความมืดอย่างเร็ว เพราะเธอกลัวว่าจะเกิดอะไรที่ไม่ดีในโกดังซึ่งเป็นที่ซ่อนของเธอตั้งแต่แรกเริ่ม
“นายพาคนอื่นมาใช่ไหม!” เมเปิ้ลตะโกนเสียงดัง
“จะบ้าหรอ เธอก็เห็นอยู่ว่าฉันมาคนเดียว” เขาพยายามแก้ตัว
“พอนายเข้ามา ... มันก็เกิดเรื่อง ฉันจะฆ่านาย!” เสียงนั้นตะโกนอยู่ในความมืดมิดนั้น หากแต่ว่าทั้งคู่ไม่สามารถมองเห็นกันได้เลย
ฟิ้ว!
“กรี๊ดดดดดดดดดด!!!” เสียงร้องดังแหวกอากาศขึ้นจนแอมป์เองถึงกับสะดุ้งตัวโก่ง
โครม!
เสียงที่สองตามมาติดๆกับเสียงกรีดร้องนั้น มีอะไรบางอย่างร่วงลงไปกับพื้นในสภาพที่รุนแรงและรวดเร็ว เขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่าในความมืดมิดนี้เกิดอะไรขึ้นบ้าง ทันทีที่เสียงนั้นหายไป ไฟฟ้าในโกดังเก็บเสื้อจึงกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง และนั่นเป็นครั้งแรกที่ทำให้เขาเห็นภาพทุกอย่างในโกดังได้อย่างชัดเจน
ร่างของเด็กสาวที่ชื่อเมเปิ้ลนอนจมกองเลือดอย่างน่าสยดสยอง ใบหน้าของเธอเหลือกค้าง ปากอ้ากว้างด้วยความตกใจสุดขีด เลือดไหลออกมาจากรูข้างใบหูทั้งสองข้างจนปริ่มพื้น เสื้อสีดำนั้นเลอะคราบเลือดเต็มไปหมด ที่ใบหูซ้ายของเธอถูกยิงด้วยลูกธนูอย่างแม่นยำพุ่งตรงเข้าใบหูซ้ายจนทะลุออกมายังใบหูด้านขวา ร่างของเธอกระแทกเข้ากับราวเสื้อผ้าจนล้มลงคลุมส่วนล่างของเธอ เขาแทบจะอาเจียนออกมาทันทีที่เห็นภาพสยดสยองตรงหน้า
“ซวยแล้ว!” เขานึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ควรอยู่ในนี้นานและไม่ควรหยุดการเคลื่อนไหวถ้าเขายืนอยู่กับที่อาจจะเป็นเหมือนเมเปิ้ลก็ได้ เขากำชะแลงอีกครั้งก่อนที่จะรีบวิ่งออกไปจากโกดังอีกครั้งเพื่อหาที่หลบซ่อนที่ใหม่
ด้านบนระเบียงชั้นสองนั้น เด็กสาวคนหนึ่งยืนเกาะขอบระเบียง เธอเพิ่งวางธนูลงข้างตัว มองดูผลงานที่เพิ่งเชือดไปเมือครู่ สีหน้าเริ่มยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
“ถ้าฉันฆ่าคนได้ แล้วพี่จะออกมาฉันไหม ... พี่ยาหยี” เธอมองไปยังศพที่นอนจมกองเลือด
และแล้วร่างเงาดำประหลาดเริ่มขยับออกมาจากราวแขวนเสื้อขนสัตว์ ร่างนั้นกระโดดเข้าไปหาศพของเมเปิ้ลก่อนที่จะเริ่มดื่มด่ำกับเลือดสดๆของเด็กสาวที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อครู่ ยะหยา มองปราดเดียวก็รู้ได้ในทันทีว่าสิ่งที่ปรากฏตรงหน้านั้นคืออะไร
เธอเพียงต้องการฆ่าคนเพื่อให้พี่สาวปรากฏตัวออกมา และเธอจะตามพี่สาวที่หนีการจับกุมคดีฆ่าคนตายกลับบ้าน ตรงนั้นพี่สาวของเธอมาแล้ว เธอรีบหยิบคันธนูก่อนที่จะรีบวิ่งลงมาด้วยความดีใจ ศพที่เธอฆ่าด้วยน้ำมือของเธอกลับเรียกให้พี่สาวที่ชอบอาบเลือดเป็นชีวิตจิตใจออกมาจนได้
“พี่ ...” เมื่อเธอมาถึง กลับพบว่ายาหยีได้หายตัวไปแล้ว เหลือเพียงกองเลือดของเมเปิ้ลที่กองอยู่เหมือนเดิม
“ฉันจะต้องตามหาพี่ให้เจอ .. ไม่ว่าจะต้องฆ่าอีกกี่คนก็ตาม ...” ยะหยา พูดกับตัวเองอย่างแน่วแน่ก่อนที่จะหยิบปืนปากกาใส่กระเป๋าเสื้อและเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ
Result
วรเวทย์ จิตโกมล (เวทย์)
เมธปิยา ชาล๊อทริวเซ่ (เมเปิ้ล)
เสียชีวิต
(เหลือผู้แข่งขัน 14 คน)
NEYNE: BLOMMA
ความคิดเห็น