คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #117 : Thursday : หุ่นสังหาร
REALITY SEASON 7
ตอน : ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร
“WEEK 8 (Final Week)”
“ฉันจำได้ ดวงตาแบบนี้ ปากแบบนี้ การจ้องมองอย่างอาฆาตแบบนี้ มีเธอคนเดียวเท่านั้นที่ฉันมองเข้าไปในตาแล้วให้ความรู้สึกที่น่าขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ฉันว่ารูปปั้นนี้มีต้องสื่ออะไรบางอย่างแน่ ๆ ....” มาริสซ่าพยายามหาข้อสรุปของเรื่องนี้ และในตอนนั้นเองเรื่องบางอย่างก็แวบเข้ามาในหัวของเธออย่างฉับพลัน
“ถ้าเป็นอย่างนั้น พวกนายจำได้ไหม เครื่องประดับที่อัคราเคยบอกว่าจะต้องเอามาใช้น่ะ .... จะเป็นไปได้ไหม ....”
“ถ้าจะใส่ลงในหุ่นตัวนี้ใช่ไหม?” อลิซเองก็มีความคิดเห็นแบบเดียวกับที่มาริสซ่าพยายามจะอธิบาย
“Bingo!!” เธอยิ้มกว้าง
“ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ลงล็อคพอดี ฉันคิดไว้แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นมามันจะต้องได้ใช้แน่ ๆ ” เจ้านายพูดก่อนที่จะหยิบเครื่องประดับออกมาจากกระเป๋าของเขาจนหมด ที่จริงแล้วเขาจะนำมันไปขายด้วยซ้ำ แต่ถ้ามาริสซ่าไม่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาทุกคนคงจะลืมไปแล้ว
น่าเสียดายจริง ๆ ... เจ้านายคิด
พวกเขาทั้งสามพยายามแต่งองค์ทรงเครื่องให้กับหุ่นตัวนี้ ทั้งใส่ต่างหู สร้อยคอ และกำไร เมื่อความสวยงามของเครื่องประดับล้ำค่าถูกแต่งเติมลงไปบนหุ่น ประกายเพชรช่างเจิดจ้าทำให้หุ่นนั้นดูเหมือนจะมีชีวิตยังไงยังงั้น เจ้านายมองความสวยงามนั้นก่อนที่จะหยิบปิ่นปักผมออกมาซึ่งเป็นเครื่องประดับสุดท้ายของการแต่งเติมในครั้งนี้ เขาเสียบมันลงบนหัวของหุ่นนภางค์
พลันเริ่มเกิดปฏิกิริยาบางอย่างขึ้นภายในห้อง จู่ ๆ พื้นดินเกิดสั่นไหวออกมาจนพวกเขาทั้งสามต้องพยายามหาที่ยึดอาไว้เพื่อไม่ให้ตัวเองพลาดล้มไปตามพื้นที่ที่สั่นไหวราวกับแผ่นดินไหวแบบนี้ พื้นที่เตียงนั้นเริ่มสั่นอย่างแรงขึ้น ๆ จนเตียงนั้นสั่นตาม
แรงสั่นสะเทือนของมันทำให้พื้นที่ใต้เตียงนั้นเริ่มเปิดกว้างออก เตียงทำคลอดในส่วนของปลายเตียงนั้นทิ่มลงไปยังพื้นที่ที่ถูกเปิดขึ้น ไม่นานนักมันจึงสงบลง พวกเขาทั้งสามวิ่งมายังพื้นที่ใหม่ และช่วยกันยกเตียงขึ้น ที่พื้นนั้นปรากฏบันใดปูนแข็งแรงอยู่ใต้พื้น ที่นี่มีห้องใต้ดินซ้อนกันอยู่
“เริ่มสนุกแล้วสิ!” อลิซเลียริมฝีปากก่อนที่จะเดินลงไปด้วยความกระหายในคำตอบที่กำลังจะใกล้เข้ามาทุกที ๆ
พวกเขาทั้งสามเดินลงมาตามทางที่ไม่มืดเพราะด้านข้างนั้นมีตะเกียงที่เปิดไฟอยู่ตลอดเวลาเมื่อมีกระแสไฟฟ้าไหลวนอยู่ปราสาท พวกเขาก้าวมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งสิ้นสุดการเดินทาง ตรงหน้านั้นเป็นเหมือนลานกว้างโล่ง ๆ ด้านข้างนั้นมีลำธารที่ไหลอยู่อย่างสวยงาม ด้านหน้านั้นมีประตูเหล็กที่ถูกคล้องด้วยกุญแจอยู่สุดทางเดินที่เชื่อมกับสะพานไม้นี้ และด้านข้างของประตูนั้น
มีหุ่นเหล็กสองตัวยืนแน่นิ่งอยู่ราวกับเป็นผู้เฝ้าประตูแห่งนี้!!
“ไปกันเถอะ!” มาริสซ่าพูดก่อนที่จะออกวิ่งไปตามทาง อลิซและเจ้านายเองต่างก็วิ่งตามไปติด ๆ ทุกครั้งที่พวกเขาออกวิ่ง พื้นไม้นั้นกลับสั่นสะเทือน เนื่องจากความเก่าของมัน พื้นไม้นั้นลั่นอย่างดังราวกับว่าเป็นการส่งเสียงเชียร์ว่าอีกไม่นานความจริงที่พวกเขารอคอยกำลังจะเปิดเผยแล้ว
“ระวังนะ พื้นไม่เก่าแล้ว” สิ้นเสียงของเจ้านาย พื้นที่พวกเขาเหยียบอยู่จึงเกิดทรุดสง
โพล๊ะ!
ขาเรียวยาวของมาริสซ่าข้างหนึ่งเกิดพลาดตกลงไปในช่องไม้ที่พังลงไปทำให้ตัวของเธอนั้นติดอยู่ที่สะพานไม้ เจ้านายหยุดวิ่งก่อนที่จะรีบเข้ามาช่วย กระต่ายไม้ในมือของมาริสซ่าหลุดตกน้ำไป ส่วนอลิซเองก็นั้นเธอก็เร่งฝีเท้าให้เข้าใกล้ประตูมากขึ้น ในตอนนั้นเองที่เรื่องประหลาดใจเรื่องที่สองก็บังเกิดขึ้นกับเธอ
สิ่งปริศนาบางอย่างจู่โจมเธออย่างไม่ทันตั้งตัว เธอหยุดวิ่งก่อนที่จะกระโดดถอยหลังหลบไป สายตานั้นจ้องมองร่างของผู้มาเยือนอย่างอลิซก่อนที่ดวงตาของพวกมันจะเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงอย่างน่ากลัว หากแต่ว่าอลิซเองกลับชอบใจกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
“ตัวอะไรนั่นน่ะ!” เจ้านายชี้ไปยังร่างประหลาดพวกนั้น มาริสซ่าเองก็ตาตื่น รีบดันขาตัวเองให้ขึ้นมาจากสะพานไม้นั้นเพราะเกรงว่าตัวเองจะเป็นอันตราย
ตรงหน้าของคนทั้งสามปรากฏร่างของหุ่นเหล็กเฝ้าประตูทั้งสอง พวกมันมีชีวิต ดวงตาของมันเป็นสีแดงเพลิงอย่างน่ากลัว ร่างกายของพวกมันเคลื่อนไหวออกมาจากแท่นเพราะเริ่มจับได้ว่าเริ่มมีผู้บุกรุกเข้ามาในดินแดนหวงห้ามแห่งนี้
พวกเขาทั้งสามคือเป้าของมัน!
คมขวานยักษ์นั้นพุ่งลงไปยังร่างของอลิซ เธอเอี้ยวตัวหลบก่อนที่จะสันขวานของอีกตัวจะพุ่งมาจากทางด้านหลังด้วยความเร็วและแรงเพื่อหมายจะปลิดชีวิตร่างของเธอ หากแต่เธอไวกว่าและตีลังกาคมขวานนั้นได้อย่างหวุดหวิด ตอนนี้อลิซนั้นกลายเป็นเหยื่อที่โดนพวกมันล้อมหน้าหลังเอาไว้ ในตอนนี้เธอก็ไม่มีอาวุธอะไรเลยที่จะต่อกรกับมันนอกจากมันที่มีขวานยักษ์ที่แสนจะน่ากลัว
ปึก!
ในตอนนั้นเองมีบางอย่างพุ่งเข้ามายังหัวของหุ่นเหล็กตัวหนึ่ง มันเอี้ยวหัวกลับมาก่อนที่จะมองรองเท้าข้างหนึ่งที่ลอยมา มันเปรยตามองไปยังทิศทางการลอยก่อนที่จะพบกับสองร่างที่อยู่ตรงหน้า เจ้านายยักคิ้วให้ก่อนที่จะกวักมือเรียกมันมา
“ไอ้บ้า นี่แกทำอะไรเนี่ย ฉันยังออกไม่ได้เลยนะ!” มาริสซ่าโวยวายก่อนที่จะพยายามดึงขาให้ขึ้นมาจากพื้นไม้
หุ่นตัวนั้นเล้งเป้าหมายมาที่คนทั้งสองก่อนที่จะรีบวิ่งมาอย่างช้า ๆ ทุกครั้งที่เท้ามันสัมผัสลงพื้น ความสั่นสะเทือนจะบังเกิดขึ้นทุกครั้ง มันตรงมาทางนี้แล้ว ทางด้านของเจ้านายเองก็พยายามประคองร่างของมาริสซ่าขึ้นมาจากพื้น อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น หุ่นเหล็กวิ่งตรงมาหยุดอยู่ตรงหน้าของมาริสซ่าและเจ้านายที่กำลังจะกระเสือกกระสนเอาตัวรอดออกมา มันง้างขวานขึ้นพอดีกับที่เท้าของมาริสซ่านั้นชักออกมาพอดิบพอดี
ปึก!
ขวานนั้นถูกจามลงบนพื้นไม้อย่างแรงทำให้ไม้นั้นแตกกระจายไปทั่ว
“วิ่งกลับมาทางนี้!” อลิซเรียกทั้งสองก่อนที่จะตีลังกาออกมาจากมุมนั้น ทั้งสองเองต่างก็รีบวิ่งมารวมกับอลิซ หุ่นทั้งสองจ้องมองร่างของสามคนที่อยู่ในวงล้อมของพวกมัน
หัวของอลิซจู่ ๆ ก็แวบมาตอนที่เธอกับอายะกำลังขี่ม้าเพื่อจัดการฝูงของพวกมัน เหตุการณ์นั้นลักษณะคล้าย ๆ กัน มีสิ่งเดียวที่สามารถเล่นงานพวกมันได้
คือพวกมันต้องฆ่ากันเอง!
“ฟังที่ฉันพูดเอาไว้นะ ฉันจะให้สัญญาณแล้วพวกนายก็หลบซะ โอเคนะ!” อลิซพยายามให้ทั้งคู่ตั้งสติ
“สัญญาณอะไร!” ยังไม่ทันที่มาริสซ่าจะได้คำตอบ หุ่นทั้งสองต่างก็วิ่งเข้ามาและง้างขวานขึ้นหมายจะทำลายเหยื่อร่างเล็กทั้งสามนี้ซะ
“หลบ!” สิ้นเสียงของอลิซ เจ้านายกระชากร่างของมาริสซ่าให้ออกมาจากบริเวณนั้น ส่วนหญิงสาวอีกคนก็กระโดดหลยออกมาทางด้านข้างเพื่อให้พ้นรัศมีของขวานนั้น
ฉึบ!
คมขวานของพวกมันทั้งสองตัวปักลงตรงกลางหัวของพวกมัน กระแสไฟฟ้านั้นวิ่งวงอยุ่รอบหัวของมัน ทั้งสองตัวยืนแน่นิ่งอยู่สักพักก่อนที่จะค่อย ๆ ล้มลงไปกับพื้น
“มันตายไหม!” มาริสซ่าถามก่อนที่จะวิ่งเข้ามาใกล้ แน่นอนว่าแรงขนาดนั้นไม่มีทางที่พวกมันจะลุกมาเล่นงานพวกเขาได้อีกแล้วล่ะ
“ต่อไปก็เหลือห้องนี้สินะ ...” เจ้านายมองประตูบานเดิมที่มีกุญแจคล้องอยู่
“จริงสิ กระต่ายไม้!” มาริสซ่านึกขึ้นได้ว่าเมื่อครู่นี้ทำกระต่ายไม้ล่วงลงน้ำ เธอจึงวิ่งไปเก็บ ในตอนนั้นที่สายตาของเธอมองเห็นบางอย่างอยู่ในลำธารนั้น แน่นอนว่าทั้งอลิซและเจ้านายเองก็ต้องเห็นแน่ ๆ
เงาดำของใครบางคนยืนอยู่ในลำธารแห่งนั้น!
ความคิดเห็น