ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality 7 .:: ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร ::. *Start*

    ลำดับตอนที่ #115 : Tuesday : พิสูจน์เรื่องลี้ลับ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 199
      0
      11 ต.ค. 54

    REALITY SEASON 7

    ตอน : ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร

    WEEK 8 (Final Week)”

    อลิซมองหน้าของหญิงสาวกลับไปอย่างประหลาดใจ เหงื่อนั้นเต็มตัวของมาริสซ่าเต็มไปหมด มือนั้นกำกระต่ายไม้เอาไว้แน่นจนเธอถึงกับต้องรีบวางมันลงไปที่เตียงดั่งเดิม

     

    “เป็นอะไรหรือเปล่า?” เธอเลิกคิ้วอย่างสนใจ

     

    “เมื่อกี้ฉันได้ยิน .... เสียงของใครบางคนร้องให้ฉันช่วย มันมาจากที่ไหนสักแห่งในนี้” เธอมองซ้ายขวาอย่างหวาด ๆ

     

    จริงอยู่ที่เธอเคยเจอกับนภางค์แล้ว แต่ความรู้สึกตอนนั้นมันไม่เหมือนกันสักนิด ครั้งนั้นมันเหมือนกับว่าเธอเผชิญกับภาพที่คิดไปเองจนทำให้เธอเห็นเป็นภาพหลอน แต่ครั้งนี้กลับมีเสียงแว่วเข้ามากระทบหูของเธออย่างจังและฟังชัดราวกับว่าเจ้าของเสียงนั้นลอยเข้ามากระซิบเธอในระยะประชิดด้วยซ้ำ

     

    “ไม่ใช่ว่าผีของมิ้วมาหลอกหรอกนะ” เธอพูดทีเล่นทีจริง

     

    “ฉันซีเรียสนะ มันเหมือนกับว่าเสียงนั้นขอให้พวกเราทุกคนช่วย” เธอมองไปที่กระต่ายไม้นั้นก่อนที่จะมองหน้าของอลิซ เธอเองก็รู้ว่าหญิงสาวกำลังจะพูดอะไรออกมา

     

    “ไปสำรวจห้องทำคลอดกันอีกครั้งไหม?” อลิซยิ้มออกมาอย่างเห็นได้ชัด เรื่องที่เธออยากรู้ กลับมีอีกคนที่อยากจะรู้เช่นเดียวกัน ....

     

    ในขณะเดียวกันเจ้านายที่อยู่โถงใหญ่ เขากำลังง่วนอยู่กับการจ้องมองไอเทมที่ได้มาจากการแข่งขันเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน เครื่องประดับมากมายของนภางค์ถูกวางโชว์อยู่ในตู้กระจก ไม่ว่าจะเป็นสร้อย ต่างหู กำไร หรือแม้กระทั่งปิ่นปักผมสีทอง

     

    “ถ้าไปขายคงได้หลายตังอยู่นะ” เขาเปรยก่อนที่ทอดสายตามองไปตามตู้โชว์ทีละตู้อย่างชั่งใจ

     

    สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการแข่งขันเกมกระชากวิญญาณในซีซั่นที่เจ็ด เหลือเพียงผู้เข้าแข่งขันสามคนกับปริศนาสุดท้ายของปักษาธร ตำนานโบราณที่ถูกกล่าวขานมายังรุ่นสู่รุ่น

     

    เจ้านายเองยิ้มเยาะออกมาก่อนที่จะค่อย ๆ ใช้มือสอดเข้ามาในตู้เพื่อคว้าเครื่องประดับออกต่าง ๆ ออกมาไว้กับตัว อย่างน้อยถ้าเขาชนะออกไปและนำของพวกนี้ไปขาย คงได้เงินมากมายหลายล้านอยู่

     

    ในตอนนั้นเองที่สายตาของชายหนุ่มเพียงคนเดียวในบ้านเหลือบมองขึ้นไปบนชั้นสองอย่างไม่ได้ตั้งใจ ร่างบางของหญิงสาวอีกสองคนต่างกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปยังสุดทางเดินของชั้นสอง ตรงนั้นเขาจำได้ว่ามันเคยมีอะไรซ่อนอยู่

     

    “หึหึ...” รอยยิ้มเริ่มคลี่ออกมาก่อนที่จะเท้าทั้งสองจะสาวขึ้นไปยังชั้นสองด้วยความคล่องตัวและรวดเร็ว

     

    มาริสซ่าและอลิซมองไปยังผนังด้านหน้าด้วยความที่ไม่เคยชินกับวัตถุที่มาตั้งขวางหน้าของพวกเธอทั้งสองที่ตรงนั้นเมื่อก่อนมีเพียงแค่ภาพแขวนของบรรดาราชวงศ์ปักษาธรและผนังเก่า ๆ ที่ใกล้จะพังเต็มที่ หากแต่ตอนนี้กลับมาแจกันและโต๊ะมาตั้งแทนที่ของเก่าเหล่านั้นเพื่อกีดขวางทาง ผนังที่เคยถล่มถูกก่อขึ้นมาใหม่เหมือนเดิมราวกับว่าไม่เคยมีทางเดินลับซ่อนอยู่ ทั้งสองหันมามองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจว่าเหตุใดพวกเขาต้องพยายามให้ผู้เข้าแข่งขันที่เหลือลืมเรื่องนี้โดยการทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

     

    เพื่ออะไร!?

     

    “ทำอะไรกันน่ะพวกเธอ?” คราวนี้เสียงนุ่มของเจ้านายกลับดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของทั้งคู่

     

    “สงสัยว่าฉันกำลังจะลงไปกินข้าวล่ะมั้ง ถึงเดินมาทางนี้” มาริสซ่ากวนประสาทของเขา เขามองหน้าก่อนที่ยิ้มให้หากแต่เธอไม่ได้ยิ้มตอบกลับมาแต่อย่างใด สายตาของมาริสซ่ายังจ้องมองกระต่ายไม้ที่เผลอติดมือมาจากเตียงของมิ้วเมื่อครู่

     

    “พวกเราสองคนกำลังจะไปสำรวจห้องทำคลอดอีกสักครั้ง นายจะไปกับพวกเราไหม” อลิซมองหน้าของเจ้านายเพื่อรอคำตอบ สีหน้าของเธอไม่ได้ตื่นเต้นหรือกระหายในคำตอบที่กำลังจะออกมาจากปากของเขาเลย ในหัวของเธอมีเพียงแค่ความกระหายในคำตอบที่เธออยากจะรู้เพียงคำตอบเดียวว่าเหตุใดโจเซฟและสมุนจึงหายไปภายในคืนเดียว

     

    “ถ้าไปแล้วจะเป็นฮีโร่ก็เชิญ แต่ถ้าเกิดไปแล้วกลับเป็นตัวถ่วงก็รออยู่ที่นี่ดีกว่า พวกฉันไม่อยากมีภาระเพิ่มน่ะ” คำพูดของที่แดกดันของมาริสซ่าทำให้เจ้านายสูดลมหายใจแรง ๆ เพื่อรวบรวมพละกำลังที่มีทั้งหมด

     

    “งั้นฉันไปด้วย ^^

     

    “กะแล้วว่านายต้องตอบแบบนี้ ...” อลิซยิ้มมุมปากก่อนที่จะหันมาสนใจกับผนังไม้ตรงหน้าแทน

     

    มาริสซ่าและอลิซช่วยกันขยับโต๊ะและแจกันที่ขวางทางออกมาให้พ้น เจ้านายเองนั้นก็ประสานกำลังใช้ฝ่าเท้าทั้งสองถีบแผ่นไม้จนหลุดออกเป็นเสี่ยง ๆ เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

     

    “เป็นไงล่ะ ยังเป็นภาระของพวกเธออยู่หรือเปล่า” เขายิ้มกว้าง

     

    “ฉันไม่แปลกใจเลยที่อันธพาลอย่างนายมีแรงมากขนาดนี้” เจ้านายค่อนข้างงุนงงกับคำพูดของอลิซที่เดินผ่านไป มาริสซ่านั้นยิ้มอย่างสะใจก่อนที่จะเดินตามหลังของอลิซไป เขาไม่รู้ว่านั้นคือคำชมหรือว่าคำติกันแน่ หากแต่เขากลับไม่ได้คิดอะไร เขาเดินตามหลังสองสาวไปอย่างเงียบ ๆ

     

    “พวกนายว่าทำไมทางรายการต้องสร้างผนังขึ้นมาใหม่ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าพวกเราก็รู้อยู้แล้วว่าหลังผนังนี้มันมีอะไร” อลิซพูดในขณะที่มือก็ยังคงคลำทางไปตามความมืด นัยน์ตาของเธอเริ่มปรับชินให้เข้ากับความมืดจึงทำให้เห็นทางได้เลือนราง

     

    “ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน” มาริสซ่าเสริม

     

    “คงจะไม่อยากให้เราเข้ามาเผล้นพล่านในเขตหวงห้ามนี่ก็ได้” เจ้านายกล่าวก่อนที่จะเริ่มผิวปากเพราะรู้สึกว่าบรรยากาศมันช่างวังแวงเสียจริง

     

    “ฉันว่าไม่ใช่หรอก มันอาจจะเพราะ ....” มาริสซ่านิ่งเงียบก่อนที่จะหันไปหาชายหนุ่มที่เดินตามหลังมา

     

    “.....” ทั้งอลิซและเจ้านายเองก็หยุดฟังคำตอบที่กำลังจะเล็ดลอดออกมา

     

    “เพราะไม่อยากให้เรารู้ความลับของที่นี่ไปมากกว่านี้ไงล่ะ!” มาริสซ่ากระแทกเสียงของก่อนที่จะมองหน้าของทั้งคู่ผ่านความมืด

     

    แม้นไม่รู้ว่าสีหน้าของทั้งสองคนที่เหลือเป็นเช่นไร หากแต่บรรยากาศรอบ  ๆ มันชักจะเริ่มชอบมาพากลเข้าให้แล้ว ยิ่งเดินเข้ามายิ่งให้ความรู้สึกที่น่ากลัว บรรยากาศรอบ ๆ ตัวเริ่มกดดันมากยิ่งขึ้นจนเธอรู้สึกขนลุกขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ไหนจะเสียงที่เคยได้ยินผ่านลมมาอีก มันยิ่งทำให้เธอจินตนาการภาพไปต่าง ๆ นา ๆ

     

    เพียงไม่นานนักทั้งสามคนก็คลำทางมาจนถึงบันใดที่พังอยู่ตรงหน้า อลิซอาสากระโดดลงไปเป็นคนแรก ตามมาด้วยชายหนุ่มอย่างเจ้านายและมาริสซ่า สาวเปรี้ยวเป็นคนปิดท้าย ด้านล่างนั้นเริ่มอับชื้นและส่งกลิ่นออกมามากกว่าเดิมที่พวกเขาเคยเข้ามาตั้งแต่แรก จากเส้นทางนี้มีเพียงอลิซเท่านั้นที่เป็นผู้รู้ทางที่จะไปต่อ เพราะครั้งที่แล้วนั้นเจ้านายและมาริสซ่าอยู่ด้านบนไม่สามารถลงมาได้ อลิซจึงกลายมาเป็นผู้นำทางไปโดยปริยาย

     

     NEYNE: BLOMMA

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×