ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality 7 .:: ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร ::. *Start*

    ลำดับตอนที่ #107 : Wenesday : กำจัดจุดอ่อน

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 224
      1
      21 ก.ย. 54

    REALITY SEASON 7

    ตอน : ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร

    WEEK 7 (Semi-Week)”

    และในตอนนั้นเอง เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

     

    พรึ่บ!

     

    จู่ ๆ ไฟในห้องนั้นได้ดับลงอย่างดื้อ ๆ เชิงเทียนที่วางอยู่บนโต๊ะถูกลมบางอย่างพัดเข้าไปทำให้ทุกอย่างในห้องอยู่ในสภาพมืดมิดและมองไม่เห็นใครเลยด้วยซ้ำ

     

    “เกิดอะไรขึ้น!!! ทำไมไฟดับ!!! .ใครก็ได้ช่วยที!!!” คนที่กลัวที่สุดในนี้คือสาวสวยคู่หูของเจ้านาย ฟีนโวยวายอย่างเสียสติ หากแต่ว่าในมือยังคงกำตุ๊กตาหมีเอาไว้แน่น เธอกลัวมากที่สุดคือความมืดมิดที่โอบร่างของเธอเอาไว้

     

    Hey!! พวกเราอยู่เงียบ ๆ ก่อน ไม่มีอะไรหรอกน่า แค่ไฟดับ ทำเป็นตื่นเต้นทำไม”

     

    “อ๊ะ ... อย่านะ ... ไม่!!” เสียงของใครบางคนดังอยู่ท่ามกลางความมืดจนมาริสซ่าถึงกลับเหลียวซ้ายและขวา

     

    “อย่าขยับสิ!” เสียงของวัชรดังขึ้นตามมาด้วยเสียงร้องของเขาและบางอย่างที่ร่วงอยู่บนพื้น

     

    “ไม่เอาแล้ว ... กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!” และแล้วเสียงหวีดร้องในความมืดนั้นก็ดังขึ้นเอาซะดื้อ ๆ พวกเขาในห้องไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นในห้องอาหารแห่งนั้น และแล้ว

     

    พรึ่บ!

     

    ไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ความสว่างกลับคือสู่ห้องอาหาร วินาทีนั้น ทุกคนมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในห้องอย่างชัดเจน 

     

    ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำเอาพวกเขาไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน!

     

    ภาพตรงหน้าปรากฏขึ้นอย่างชัดเจน ร่างของชายหนุ่มที่ชื่อวัชรนั้นล้มลงไปกองกับพื้นในสภาพที่หัวไหล่ซึมไปด้วยเลือดจากรอยอะไรสักอย่างที่บาดเข้าเป็นทางยาว มือขวานั้นกุมรอยแผลที่เลือดไหลซึมออกมา เขากัดฟันอย่างเจ็บปวด มาริสซ่าซึ่งเป็นหัวหน้าราชวงศ์รีบวิ่งเข้ามาดูอาการของชายหนุ่มอย่างเป็นห่วง

     

    “กรี๊ดดดดดดดด!!!” น้ำฟ้าที่ไม่เคยพูดอะไรมาตั้งแต่ต้นกรีดร้องก่อนที่จะผงะถอยหนีออกมาจากเก้าอี้ที่เธอนั่งไปหลบอยู่หลังของเจ้านาย ส่วนเขาเองนั้นเหงื่อออกท่วมตัวไปหมดเมื่อเห็นสภาพศพของใครบางคนอย่างชัดเจนและอยู่แบบประชิดหน้าขนาดนี้

     

    ร่างของหญิงสาวหนึ่งในสี่คนหนึ่งนอนหงายหลังไปกับเก้าอี้รับประทานอาหารในมื้อเย็นนั้น ดวงตาทั้งสอบเบิกกว้างจนแทบจะทะลักออกมาจากเบ้า ปากอ้าค้างลิ้นห้อยออกมาจุกปาก ลำคอระหงของหญิงสาวถูกปาดด้วยของมีคมเป็นทางยาวคล้ายแผลของวัชรหากแต่ว่าลึกกว่าเท่านั้นเอง เลือดนั้นไหลออกมากระเด็นเปื้อนเสต็กบนจาน อลิซเดินเข้ามาเพื่อหาอาวุธและแน่ใจว่าอาวุธนั้นคือมีดหั่นสเต็กบนจานของหล่อนเอง ตุ๊กตาหมีที่เธอเคยถือนั้นร่วงลงไปอยู่ที่พื้น

     

    “ฟ .. ฟีน!” เจ้านายพยายามตั้งสติและวิ่งเข้ามาหากแต่ถูกอลิซรวบเอาไว้

     

    “เธอตายแล้ว ....” หล่อนเปรยตาไปมองสามคนที่เหลือ แอนน์ยืนนิ่ง เธอคงทำอะไรไม่ถูกกับสภาพคนตายตรงหน้า สองมือนั้นกอดอกตัวเองก่อนที่จะย่อตัวลงไปพิงกับผนังด้วยสีหน้าที่หวาดกลัวสุดขีด โอลีฟเองได้แต่หลบอยู่ด้านหลังของวัชรไม่ได้พูดอะไรกับใคร ส่วนน้ำฟ้าเองก็เช่นกัน เธอไม่ต่างอะไรกับโอลีฟ น้ำตาไหลออกมาอย่างฟูมฟายก่อนที่จะพยายามหามุมสงบ ๆ เพราะไม่อยากเห็นศพของสาวน้อยคนนั้น

     

    เหตุการณ์ภายในห้องอาหารนั้นเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในขณะที่ไฟดับ ต้องมีใครสักคนที่เล่นงานฟีนซึ่งดูจะเป็นจุดอ่อนมากที่สุดในกลุ่มออกไป ละดูท่าว่าหล่อนเองก็เป็นเหยื่อที่สามารถง่ายต่อการจัดการเสียยิ่งกระไร

     

    มันจะค่อย ๆ กำจัดจุดอ่อนออกไปทีละคนแล้ว ...

     

    “วิ ... วิซซาร์ด! วัชรตกใจเมื่อเห็นว่าเพื่อนรักหายไปห่างตัว

     

    ในระหว่างที่ไฟดับเมื่อครู่นี้ ร่างของวิซซาร์ด หุ่นกระบอกตัวเก่งของเขาเกิดหายไปซะดื้อ ๆ เขามองหาไปทั่วหากแต่ว่าไม่มีวี่แววของเพื่อนรักอยู่เลย ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะอาหาร ใต้โต๊ะหรือตามมุมห้อง เขาเริ่มใจคอไม่ดีเมื่อรู้ว่าวิซซาร์ดหายตัวไป

     

    มีคนขโมยมันไป!

     

    “ฉ .. ฉันว่ารีบไปทำแผลก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวจะติดเชื้อเอา” มาริสซ่ามองหน้าของวัชรที่เอาแต่มองหาเพื่อนโดยที่ลืมว่าตัวเองนั้นบาดเจ็บแค่ไหน

     

    “เดี๋ยวโอลีฟจะพาไปเอง บอกทางไปห้องพยาบาลมาแล้วกันนะคะ” บัดดี้ของเขาเสนอความเห็นก่อนที่จะค่อย ๆ ประคองชายหนุ่มให้ลุกขึ้น หากแต่ว่าเขายังรั้นที่จะไม่ไป

     

    “ถ้าฉันยังหาวิซซาร์ดไม่เจอ ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น!” เขาเริ่มหัวเสีย หากแต่ว่าอลิซนั้นกลับลากร่างของชายหนุ่มร่างบางไปตามทาง เขาพยายามสะบัดสุดแรง แต่อลิซและโอลีฟช่วยกันพาตัวมาถึงห้องพยาบาลที่อยู่มุมปราสาท

     

    “ถ้าทำแผลเสร็จแล้ว ฉันจะไปช่วยนายหาเพื่อนของนาย โอเค?” โอลีฟรับปากรับคำเพื่อให้เขาได้สบายใจขึ้น ซึ่งมันได้ผล เขาหยุดพฤติกรรมเป็นเด็กทำของเล่นหายได้แล้ว เขายอมตามโอลีฟเข้ามาในห้องพยาบาลแต่โดยดี

     

    “ที่เหลือฝากด้วยนะ เดี๋ยวฉันจะไปจัดการกับศพของฟีนก่อน”

     

    “แล้วผมจะรีบตามไป ....” วัชรมองหน้าของอลิซ เธอยิ้มมุมปากก่อนที่จะหลีกตัวออกมาจากห้องพยาบาล ปล่อยให้ทั้งสองคนอยู่กันตามลำพัง

     

    ภายในห้องพยาบาลจะแบ่งออกเป็นสองห้องเล็ก ๆ ตรงหน้าทางเข้าออกนั้นคือห้องเก็บอุปกรณ์ยาต่าง ๆ และถัดเข้ามาจะเป็นห้องพยาบาลที่มีเตียงสีขาววางทอดยาวไว้

     

    “ดูท่าว่านายจะรักมันมากสินะ” โอลีฟพูดในขณะที่มือก็ง่วนอยู่กับการจัดเตรียมอุปกรณ์ทำแผลอยู่ข้าง ๆ ห้องเตรียมอุปกรณ์

     

    “ท่าของสำคัญในชีวิตของเธอหายไป .. เธออยากได้มันคืนหรือเปล่า?” เขามองหน้าของโอลีฟ เธอยิ่งงันไม่ได้พูดอะไรนอกจากพยายามทำแผลให้เขา ใจของวัชรนั้นล่องลอยหายไปเพราะการหายตัวของวิซซาร์ดที่ราวกับล่องหน

     

    เขาไม่คิดว่ามันจะหายไปไหน มันต้องอยู่กับใครคนใดคนหนึ่งในสามคนนั้น ไม่แอนน์ น้ำฟ้า ก็โอลีฟที่อยู่ตรงหน้าเขานี่ล่ะ

     

     

    ทางด้านของมาริสซ่า เธอและเจ้านายช่วยกันยกร่างของฟีนลงมาจากเก้าอี้ เป็นครั้งแรกที่คนทั้งสองได้จับศพคนตายลงมาวางไว้บนพื้นเหมือนหน่อยมูลนิธิกู้ภัยเขาทำกัน แอนน์และน้ำฟ้าไม่ได้ทำอะไรนอกจากนั่งนิ่งตัวสั่นเทา

     

    “เธอจะกลัวไปทำไมกัน?” อลิซเดินเข้ามาก่อนที่จะหันมาถามแอนน์ เธอได้แต่มองหน้าของอลิซกลับไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไร

     

    คนตายทั้งคนจะให้ยิ้มออกได้ยังไง

     

    “พวกเธอก็รู้กฎของเกมนี้ไม่ใช่หรือไงกันว่ายังไงซะพวกเธอก็ต้องตายกันอยู่ดี ...” เจ้านายพูดในขณะที่ดึงผ้าปูโต๊ะออกมาคลุมร่างของศพนั้นเอาไว้

     

    “แต่นั่นมันเป็นฝีมือของพวกคุณที่จะต้องช่วยกันตามหาฆาตกรและปกป้องพวกเราไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ว่ามาปล่อยให้ตายไปแบบนี้ ...” น้ำฟ้ากล่าวเสียงสั่น

     

    “นี่ แม่หนูเนิร์ดคะ พวกเดี๊ยนจะรู้ไหมเนี่ยว่าจู่ ๆ มันจะเริ่มฆ่าแกงกันก่อนที่พวกเราจะทาน Dinner กันน่ะ ” มาริสซ่าเริ่มจะรำคาญเสียงบ่นของน้ำฟ้าที่ราวกับยุงบินผ่านหู

     

    เพียงไม่นานนักการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากสาวร่างเล็กได้สิ้นสุดลง เธอเก็บอุปกรณ์ยาลงกล่องเอาไว้ ในตอนนั้นที่สายตาของเขาหันไปมองปะทะกัน

     

                    “ขอบคุณนะครับ” เขาเปรยขึ้น เธอไม่ได้พูดอะไรนอกจากยิ้มหวานให้ก่อนที่จะเดินกลับไปที่ห้องเก็บอุปกรณ์และจัดการวางยาตามตำแหน่งเดิมในตู้

     

    เขานั่งกระดิกเท้าและดูรอยแผลที่ถูกตกแต่งดัวยผ้าพันแผลสีขาวเหมือนมัมมี่ในหนังที่เขาเคยดู เวลาผ่านไปราวสิบนาที เขาเริ่มสังเกตเห็นว่าโอลีฟหายไปนานเกินไป เขาจึงตัดสินใจลุกออกไปยังห้องเก็บอุปกรณ์เพื่อดูให้แน่ใจว่าเธอยังอยู่ที่ห้องนั้น และเพียงอึดใจหนึ่ง เขาเดินมาถึงห้องนั้นซึ่งเป็นจุดหมายก่อนที่จะชะโงกหน้าเข้ามาในห้อง

     

    ห้องนั้นเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ตู้ยายังคงเปิดอ้าออกราวกับว่ามีคนกำลังใช้งานมันอยู่ ยาสามัญประจำบ้านและอุปกรณ์ทำแผลที่โอลีฟเคยถือล่วงกระจายอยู่บนพื้นจนเม็ดยานั้นเกลื่อนไปหมด แต่ที่สำคัญ

     

    วัชรไม่เห็นโอลีฟอยู่ในห้องนั้น ....

     


    NEYNE:
    BLOMMA

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×