คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #106 : Tuesday : เหยื่อ
REALITY SEASON 7
ตอน : ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร
“WEEK 7 (Semi-Week)”
ภารกิจในสัปดาห์นี้คือการให้ผู้เข้าแข่งขันจับคู่สาว ๆ ทั้ง 4 คน เพื่อเป็นบัดดี้ให้แก่พวกเธอ โดยที่ในแต่ละคืน ฉากฆาตกรรมจะเริ่มบรรเลงเพลงขึ้นทุกคืน สาวสวยจะต้องถูกใครบางคนฆ่าตายทีละคน ๆ ถ้ายังหาตัวฆาตกรไม่ได้ เกมยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าพวกเขาทั้งสี่คนจะได้ตัวฆาตกรที่แท้จริง
“ฉันต้องมาเป็นองครักษ์พิทักษ์พวกเธอเนี่ยนะ ....” อลิซพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“ถึงเวลาที่มาริสซ่าต้องเลือกแล้วค่ะว่าจะให้ใครคู่กับใคร” เปียโนพูดต่อ
มาริสซ่ามองหน้าของทั้งสี่สาวที่มาใหม่เพื่อดูคาแรคเตอร์ทั่วไปที่ปรากฏออกมา แต่ละคนนั้นมีนิสัยที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงอย่างเห็นได้ชัด เป็นเรื่องยากสำหรับมาริสซ่าแล้วที่จะต้องเลือกหนึ่งในนี้มาเป็นบัดดี้ แถวไม่รู้ว่าคนนั้นจะเป็นฆาตกรตัวจริงด้วยหรือเปล่า
คนแรกที่มาริสซ่าพิจารณาคือคนที่อยู่ซ้ายสุด ผมของเธอดำยาวไปจนถึงกลางหลัง ใส่แว่นตาหนาเตอะ ดูเหมือนกับเป็นพวกเด็กที่คงแก่เรียน ดูจากรูปร่างและลักษณะหน้าตาแล้ว เธอคงจะเป็นพี่ใหญ่ที่สุดในบรรดาของทั้งสี่คนนี้ ที่หน้าอกเสื้อสีครีมของเธอแปะด้วยโลหะที่สลักเป็นชื่อ ‘น้ำฟ้า’
คนต่อมาถัดจากน้ำฟ้าคือเด็กสาวถักเปียสีน้ำตาลเข้ม หน้าตาจิ้มลิ้มกว่าใครเพื่อนและดุว่าจะอายุน้อยมากที่สุดในกลุ่ม เธอสวมชุดชีฟองสีส้มเข้ากันดีกับผิวขาวของเธอ ดูจากบุคลิกแล้วคงจะเป็นคนที่สนุกสนานและร่าเริง และจะเป็นคนที่อ่อนต่อโลกด้วยซ้ำ ชื่อของเธอคือ ‘โอลีฟ’
คนที่สามที่มาริสซ่าเดินมาสะดุดตรงหน้า รอยยิ้มจากใบหน้านั้นดูไม่ค่อยจะยิ้มตอบเท่าไร ปากของเธอถูกทาด้วยลิปสติกเฉดแดงแจ๋ หล่อนเป็นคนแต่งหน้าจัด ผมของเธอสั้น ๆ เหมือนสาวเปรี้ยว เสื้อเกาะอกสีเลือดหมูบวกกับกระโปรงยีนส์สีดำและถุงน่องตาข่าย ทำให้รู้ว่าเธอคนนี้คงจะนิสัยไม่ค่อยเพอร์เฟคนัก
“มองอะไร?” เธอถามมาริสซ่าที่ยืนจ้องเธออยู่อย่างไม่ละสายตา
มาริสซ่าไม่ชอบผู้หญิงคนนี้
“ก็แค่อยากจะรู้ว่าเธอดูเป็นยังไงบ้าง แอนน์” มาริสซ่าเหลือบไปอ่านชื่อที่สลักอยู่บนโลหะสีเทาครึมนั้นก่อนที่จะเดินผ่านมาจนถึงคนสุดท้าย
เด็กสาวคนสุดท้ายเองก็หลบหน้าของเธอเช่นกัน ไม่ได้มองหน้าตอบกลับมาเหมือนกับน้ำฟ้าและโอลีฟ ดูจากลักษณะท่าทางแล้ว เธอค่อนข้างจะเป็นคนที่ขี้อายมากที่สุดในกลุ่ม เธอกัดฟันจนเสียงดังลั่นอยู่ในช่องปาก มือทั้งสองโอบตุ๊กตาหมีเอาไว้ไม่วางมือ ผมดำยาวของเธอสะบัดไปมาก่อนที่จะมาปรกหน้าที่ขาวเนียนและมีสิวเล็กน้อย ชื่อของเธอคือ ‘ฟีน’
“โอเค ฟีน แอนน์ โอลีฟ และน้ำฟ้า” เธอพยายมไล่เรียงชื่อที่จากข้างหลังไปข้างหน้าก่อนที่จะหันมามองหน้าของอลิซและคนอื่น ๆสลับกันไปมา
“ใครอยากจะเลือกคนไหนก็เชิญ แต่ฉันขอเลือกน้ำฟ้าแล้วกัน....” มาริสซ่าเปรยแค่นั้นก่อนที่จะเดินไปอยู่ด้านข้างของน้ำฟ้า สาวน้อยมองหน้าของหล่อนก่อนที่จะยิ้มบาง ๆ ให้เธอ
ดูท่าว่าน้ำฟ้าจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ดูไม่มีพิษมีภัยอะไรมากที่สุดในบรรดาสี่สาวที่เหลืออยู่ตรงนี้แล้ว
“ให้เกียรติเป็นบัดดี้กับผมนะครับ” เจ้านายโค้งคำนับก่อนที่จะจ้องมองร่างของสาวขี้อายที่มองซ้ายมองขวา เธอพยักหน้าเล็กน้อยก่อนที่เจ้านายจะเดินเข้ามาใกล้ ๆ และคว้ามือของเธอมาประทับจูบเอาไว้ เธอเขินจนหน้าแดง
“เธอ ... คู่กับผมแล้วกันนะครับ ^^” วัชรส่งยิ้มให้เด็กสาวที่ดูจะสนุกสนานและยิ้มเก่งมากที่สุดตั้งแต่ที่เธอเข้ามาแล้ว
“โอเค เราคู่กัน” โอลีฟยิ้มตอบ
“คงจะเลือกตัวเลือกแค่ตัวเดียวที่ยังไม่ได้เลือกแล้วสินะ” อลิซมองหน้าของแอนน์ เธอจ้องมองกลับมาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรเท่าไรนัก แต่ถึงอย่างไรซะ เธอก็จำเป็นต้องได้คู่กันอยู่ดี
สรุปว่าทุกคนได้คู่กันเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั่นคือ อลิซ R2 จับคู่กับ แอนน์ , วัชร R6 จับคู่กับ โอลีฟ , มาริสซ่า R7 จับคู่กับน้ำฟ้า และคู่สุดท้ายคือเจ้านาย R9 จับคู่กับ ฟีน เป็นทั้งหมดสี่คู่ เปียโนได้อธิบายรายละเอียดของเกมนี้อีกครั้ง คือทั้ง 4 คนต้องทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดให้แก่สาวสวยทั้ง 4 คน เพื่อให้รอดพ้นจากอันตรายของหนึ่งในนี้ที่จะฆ่าคนที่เหลือ ถ้ายังหาตัวของฆาตกรไม่เจอ เกมก็ยังไม่สามารถจบได้ นั่นก็หมายความว่า ....
น้ำฟ้า แอนน์ โอลีฟ และฟีน คนใดคนหนึ่งจะต้องเป็นฆาตกรที่ฆ่าพวกเดียวกัน
“เอาของขึ้นไปเก็บก่อนดีกว่านะ ห้องนอนของผู้หญิงอยู่ตรงนั้น” วัชรชี้ไม้ชี้มือไปยังห้องนอนของสาว ๆ ที่เปิดอ้าอยู่ โอลีฟส่งยิ้มให้เขาอีกครั้งก่อนที่จะหยิบเป้สีฟ้าสดใสมาสะพายหลังและเดินขึ้นไป ส่วนเปียโนนั้น หลังจากที่เธอได้แจกแจงภารกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอจึงขอตัวออกจากปราสาทปักษาธรเพื่อไปรอรับคำตัดสินและจะกลับมาอีกทีในวันเสาร์
เวลาเดินทางมาจนถึงช่วงเย็น วันนี้ครีเอทีฟอย่างน้ำฟ้าและสาวขี้อาย ฟีน ลงมือเข้าครัวเพื่อทำอาหารด้วยตัวเอง และเป็นการต้อนรับการมาเยือนของพวกเธอ มื้อเย็นในวันนี้จึงค่อนข้างหรูหราและไฮโซ มีทั้งสเต็ก ซุปฝรั่งและอาหารอิตาเลี่ยนอีกมากมายที่พวกเธอเคยอ่านในคู่มือและตามอินเตอร์เน็ต
“ไม่ได้กินของพวกนี้มานานเท่าไรแล้วนะ” อลิซจ้องมองเสต็กเนื้อแบบแรร์ที่วางอยุ่บนจานอย่างสวยงาม มันทำให้เธอนึกถึงบรรยากาศตอนที่เธออยู่ในบ้านหลังอบอุ่นที่มีพ่อแม่และคนใช้มากมายรายล้อมตัว ก่อนที่บางอย่างจะทำให้เธอมีสภาพเป็นแบบนี้
“เอาล่ะ ๆ วันนี้ฉัน ซึ่งเป็น The Queen ของที่นี่ ขอพูดอะไรสักหน่อยนะ ก่อนที่จะทาน Dinner กัน ...” มาริสซ่าที่ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าราชวงศ์ลุกขึ้นในชุดสีแดงเปรี้ยวจี๊ด
เธอกระแอมไอก่อนที่จะเริ่มเปิดฉาก “ วันนี้พวกเรา รายการ The Reality ขอต้อนรับการมาเยือนของพวกเธอทั้งสี่คน ฉัน มาริสซ่า The Queen ในวีคนี้ ขอให้ทุกคนกินอาหารมื้อนี้ให้อร่อย และพวกเราจะพยายามเทคแคร์ทุกคนไม่ให้ตายไปซะก่อนที่จะจับตัวฆาตกรได้”
“ฉันกินไม่ลงหรอก” แอนน์มองหน้าของโอลีฟก่อนที่จะใช้มือขวาดันจานให้ออกห่างจากตัว
“อย่าพยายามทำตัวมีปัญหาได้ไหม .... ถ้าไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศ?” อลิซมองร่างนั้นก่อนที่จะส่งยิ้มให้ หากแต่ว่าแอนน์ไม่ได้ยิ้มตอบ เธอเอาแต่มองหน้าของหล่นออยู่แบบ
“ใครจะไปกินลง ถ้ารู้ว่าคืนนี้จะต้องมีคนตาย และฉันไม่รู้ว่าใครจะเป็นรายแรก ... ฉัน หรือพวกนั้น! ถ้าเป้นเธอ คงจะกินไม่ลงใช่ไหม?” แอนน์สวนออกมาอย่างทันควัน
“ถ้าเราอยู่ด้วยกัน รับรองว่าไม่มีใครกล้ามาทำอันตรายพวกเราแน่ และที่สำคัญ พวกเราก็จับคู่กันแล้ว ปลอดภัยกว่าที่พวกเธออยู่คนเดียวแน่ ....” วัชรพยายามหาเหตุผลที่ดูเข้าท่า หากแต่ว่าแอนน์กลับไม่ฟังที่เขาพูดเลย เธอเดินจับอ้าวออกไปจากห้อง
และในตอนนั้นเอง เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
พรึ่บ!
จู่ ๆ ไฟในห้องนั้นได้ดับลงอย่างดื้อ ๆ เชิงเทียนที่วางอยู่บนโต๊ะถูกลมบางอย่างพัดเข้าไปทำให้ทุกอย่างในห้องอยู่ในสภาพมืดมิดและมองไม่เห็นใครเลยด้วยซ้ำ
“เกิดอะไรขึ้น!!! ทำไมไฟดับ!!! .ใครก็ได้ช่วยที!!!” คนที่กลัวที่สุดในนี้คือสาวสวยคู่หูของเจ้านาย ฟีนโวยวายอย่างเสียสติ หากแต่ว่าในมือยังคงกำตุ๊กตาหมีเอาไว้แน่น เธอกลัวมากที่สุดคือความมืดมิดที่โอบร่างของเธอเอาไว้
“Hey!! พวกเราอยู่เงียบ ๆ ก่อน ไม่มีอะไรหรอกน่า แค่ไฟดับ ทำเป็นตื่นเต้นทำไม”
“อ๊ะ ... อย่านะ ... ไม่!!” เสียงของใครบางคนดังอยู่ท่ามกลางความมืดจนมาริสซ่าถึงกลับเหลียวซ้ายและขวา
“อย่าขยับสิ!” เสียงของวัชรดังขึ้นตามมาด้วยเสียงร้องของเขาและบางอย่างที่ร่วงอยู่บนพื้น
“ไม่เอาแล้ว ... กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!” และแล้วเสียงหวีดร้องในความมืดนั้นก็ดังขึ้นเอาซะดื้อ ๆ พวกเขาในห้องไม่สามารถรู้ได้เลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นในห้องอาหารแห่งนั้น และแล้ว
พรึ่บ!
ไฟฟ้ากลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ความสว่างกลับคือสู่ห้องอาหาร วินาทีนั้น ทุกคนมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ในห้องอย่างชัดเจน
ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำเอาพวกเขาไม่สามารถตั้งตัวได้ทัน!
ความคิดเห็น