คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #101 : Saturday : คนที่ไม่สมควรตาย
REALITY SEASON 7
ตอน : ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร
“WEEK 6”
ณ ปราสาทแห่งปักษาธร ที่ซึ่งมีเรื่องราวความสยดสยองของตระกูลแห่งนี้ รวมไปถึงกลิ่นคาวเลือดมากมายจากผู้บริสุทธิ์ที่ต้องถูกสังเวยให้แก่วิญญาณในปราสาทลึกลับ ความดำมืดของราชวงศ์ยังค้นหาคำตอบไม่ได้ ตอนนี้เหลือเพียงปริศนาเดียวเท่านั้น ว่าเหตุใดโจเซฟและบรรดาข้าทาสบริวารจึงหายตัวไปภายในคืนเดียวอย่างไร้ร่องรอยรวมไปถึงกระต่ายไม้ของรัมภาที่ปรากฏอยู่ในห้องทำคลอดใต้ดินของปราสาทแห่งนี้
แต่ที่แน่ ๆ เรื่องราวความมืดเรื่องหนึ่งได้ถูกเปิดเผยออกมาระหว่างการทำกิจกรรมในเกมกระชากแห่งนี้ เมื่อจู่ ๆ ไฟฟ้าเกิดขัดข้องด้วยฝีมือของคนด้วยกันเอง เมื่อไฟดับทำให้ปราสาทปักษาธรถูกปกคลุมด้วยความมืดที่รายล้อมบรรดาผู้เข้าแข่งขันเอาไว้ ท่ามกลางความโกลาหลวุ่นวาย ธาตุแท้ของพิธีกรในรายการและความละโมบจึงปรากฏขึ้น อัคราร่วมมือกับโชเฟอร์แก่คนนั้นเพื่อปล้นทรัพย์สินของทางรายการ นั่นคือ สร้อยมุก กำไล ต่างหูและปิ่นปักผมซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นของหายาก ถ้านำไปขายให้กับนักโบราณคดีคงได้เงินเป็นล้าน
หากแต่ว่าความต้องการของพวกเขากลับสิ้นสุดลงเมื่อมิ้วและมาริสซ่าได้จัดการเล่นงานคนทั้งสองด้วยฝีมือของพวกเธอเอง อัคราและพวกเสียชีวิตในเกมแห่งนี้ด้วยความผิดที่เขาเป็นคนก่อทั้งหมด ร่างของคนชั่วทั้งสองคนถูกเผาทั้งเป็นในเตาเผาห้องครัวภายในปราสาทแห่งนี้ เมื่อไม่มีพิธีกรในรายการ อีกไม่นานทางรายการจะตะต้องส่งพิธีกรคนใหม่มายังปราสาทเพื่อตัดสินชะตาชีวิตของหนึ่งคนในนี้ที่จะต้องสังเวยให้แก่เกมกระชากวิญญาณ อีกไม่นานนักเกมแห่งความสยองขวัญดำมืดกำลังจะจบลง อีกเพียงไม่กี่อาทิตยืเราจะได้รู้กันแล้วว่าใครสมควรที่จะได้รอดออกไป
นั่นคือคนที่ทุกคนให้การยอมรับในความชั่วร้ายของเขาคนนั้น!
เสียงผิวปากอย่างอารมณ์ดีดังมาจากชั้นสอง ร่างนั้นเดินดุ่ม ๆ ลงมาจากบันใดพร้อมกับเสื้อผ้าแนวที่เขาชอบ สายตานั้นมองไปยังหน้าต่างที่เคยมีฝนสาด วัชรนั่งจัดแต่งทรงผมทรงใหม่ให้แก่คอลเลคชั่นของเขา เขาได้กระจุกผมมาจากอัคราก่อนที่จะเขาจะโดนเผาร่างทิ้ง สองมือนั้นกำลังง่วนอยู่กับการเล็มผมใหม่ให้กับเพื่อนรักของเขา
และแล้วคอลเลคชั่นของวัชรก็เสร็จสมบูรณ์ด้วยการกินเวลามาล่วงเลยจนถึงเกือบจะตัดสิน เขาจ้องมองหุ่นกระบอกที่สวยงามอยู่ตรงหน้าอย่างหลงใหล เจ้านายที่เดินผิวปากไม่ได้พูดอะไรนอกจากเดินผ่านไปและไม่คิดจะทักเขาเลย สองเท้านั้นเดินตรงไปยังห้องครัวก่อนที่จะเจอกับมิ้วที่กำลังวางจานอาหารสำหรับมื้อเช้า ส่วนมาริสซ่านั้นก็กำลังตักอาหารฝีมือของเธอที่เธอเคยทำตอนอยู่ต่างประเทศและอลิซเองเธอก็ไม่ได้ทำอะไรนอกจากยิ้มมีดสั้นมาตะไบเล็บอย่างที่เคย
“Hi! เจ้านาย” เขาค่อนข้างตกใจที่เห็นว่าเช้าวันนี้มาริสซ่าเป็นคนออกปากทักเขาเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เขามาเล่นเกมนี้
“วันนี้นึกสนุกอะไรขึ้นมาจ๊ะแม่เสือสาว ถึงกับเข้าครัวทำอาหารเนี่ย” เขาเลิกคิ้วอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองเท่าไรนัก
“ก็เผื่อว่าวันนี้ นายจะได้เป็นคนที่ต้องจากเกมนี้ไป ฉันเลยลงมือเลี้ยงอาหารายด้วยตัวเองไง Supriseeeeeeee!!!” หล่อนลากเสียงยาวอย่างสนุกสนาน ถ้าวีคนี้เป็นเจ้านายที่ออก เขาก็จะได้กินอาหารมื้อสุดท้ายด้วยฝีมือของหล่อนเอง แต่ถ้าหากไม่ใช่ ก็คิดซะว่าทำเล่น ๆ แค่นั้นเอง
เมื่ออาหารเช้ามาถึงโต๊ะ พวกเขาทั้งหมดต่างนั่งประจำที่ อลิซรู้สึกใจเสียอย่างแปลกประหลาด เมื่อก่อนบรรดาผู้เข้าแข่งขันมีตั้ง 10 คน ต่างตั้งหน้าตั้งตากินอาหารและทะเลาะกันในมื้อเช้าอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ตอนนี้บรรยากาศนั้นได้เปลี่ยนไปเพราะเหลือเพียงห้าคนเท่านั้นที่จะต้องสานต่อเกมนี้ให้จบ และในวันนี้พวกเขาก้จะเหลือกันเพียงสี่คนเท่านั้นที่จะสามารถต่อลมหายใจไปได้จนถึงอาทิตย์หน้าและทำภารกิจใหม่ที่รอคอยพวกเขาที่เหลืออยู่ให้เปิดปมปริศนาของเกมไปอย่างช้า ๆ
ถ้าเป็นเธอที่จะต้องไปในสัปดาห์นี้ เธอค่อนข้างเสียดายเพราะยังมีอะไรที่คาใจหลาย ๆ อย่างที่ยังไม่ได้รับคำตอบ ทั้งเรื่องประวัติดำมืดและการหายตัวไปของโจเซฟและพวก เธอจะต้องพยายามสืบเรื่องนี้ให้จงได้
เมื่อมื้อเช้าของวันนี้สิ้นสุดลง เวลาแห่งการตัดสินก็มาถึง เสียงนกหวีดที่ดังกว่าที่เคยนั้นดังขึ้น หากแต่คนเป่านั้นไม่ใช่อัคราอย่างเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา พวกเขาทั้งห้ามองหน้ากันก่อนที่จะเดินออกมาจากตัวปราสาทเพื่อตรงไปยังลานประหาร ที่นั่นพวกเขาพบกับชายคนหนึ่งที่พวกเขาเองต่างก็รู้จุกกันเป็นอย่างดี วันนี้เข้ามาในชุดสูทสีขาวสะอาดตาบวกกับเนื้อนวลที่ขาวอมชมพูจากการดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
“สวัสดีครับ ผมไคกิ จากเรียลลิตี้ซีซั่นแรกครับ” เขาพยายามฉีกยิ้มเพื่อปั้นหน้าหลอกคนพวกนั้นว่าเขาไม่ได้กลัวอะไร แต่ที่ไหนได้ เขาเองกลับเห็นทุกอย่างที่ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดทำในรายการนี้มาแล้ว
เป็นใครไม่กลัวก็คงจะบ้าไปแล้ว ....
“ทำตัวสบาย ๆ เถอะ ฉันไม่อยากจะเห็นคนหัวใจวายตายซะก่อน” อลิซมองหน้าของไคกิก่อนที่จะยิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก หากแต่ว่าเขาไม่ได้ผ่อนคลายความกลัวลงไปได้เลย
คนตรงหน้าของเขาตอนนี้สามารถฆ่าคนได้ทุกเมื่อที่เขาอยากจะทำ ...
วันนี้การทรมานตรงหน้าถูกจัดแต่งด้วยการนำโลงศพที่เจอรูเอาไว้ทั้งสามใบตั้งอยู่ ด้านข้างนั้นมีสว่านไฟฟ้าพิงอยู่ในแต่ละโลง ไคกิไม่ได้พูดอะไรมากนอกจากหยิบ Black Letters ออกมาจากสูทที่ตัดกันกับสีของจดหมาย เขากางกระดาษออกก่อนที่จะเริ่มเรียกชื่อของ 4 คนในวันนี้
R6 วัชร
...........
R9 เจ้านาย
...........
R7 มาริสซ่า
............
R3 มิ้ว
............
สี่หนุ่มสาวก้าวเท้าออกมาจากเส้นสีขาว เหลือเพียงแต่อลิซที่นิ่งงันอยู่เพียงคนเดียว เธอค่อนข้างโล่งใจที่จะได้กลายเป็นสี่คนที่ยังมีชีวิตอยู่เพื่อตามล่าหาความจริงต่อไปของเกมแห่งความสยองขวัญนี้ ส่วนมาริสซ่านั้น เธอจะรู้สึกตกใจเล็กน้อยเพราะว่าเธอไม่ได้ออกมาอยู่ในเส้นอันตรายมานานพอสมควรเหมือนกัน
“ต้องประกาศรายชื่อของหัวหน้าราชวงศ์ในครั้งนี้ก่อนสินะครับ” เขาพูดกับอีกสี่คน พวกเขาไม่ได้พูดอะไรนอกจากพยักหน้า
“ถ้าคุณดูรายการของเราจริง ๆ มันก็ต้องเป้นแบบนั้นล่ะค่ะ” มิ้วยิ้ม
“ถ้างั้น คนที่ได้เป็นหัวหน้าราชวงศ์ในวีคต่อไป ....” ไคกิกลืนน้ำลายเพื่อให้ทุกคนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ
“R7 มาริสซ่าครับ”
“Oh my god! I can’t believe!!” เธอตื่นเต้นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา อาทิตย์หน้าเธอจะต้องทำหน้าที่เหมือนกับผู้นำทั้งที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้มันเลยด้วยซ้ำ และที่แน่ ๆวันนี้เธอต้องฆ่าผู้ร่วมเกมคนหนึ่งในบรรดาสามคนที่เหลือ เธอรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะว่าหนึ่งในสามที่อยู่ในแบล็คลิสต์คือเจ้านายที่เธอต้องการ
มิ้ว วัชร และเจ้านายเดินเข้าไปในเส้นสีแดง ทางทีมงานได้จัดแจงพาพวกเขาเข้าไปนอนในโลงก่อนที่จะจะมัดแขนและขาเอาไว้ในโลงนั้นในสภาพที่พวกเขากางแขนและขาออก มาริสซ่าหยิบสว่านไฟฟ้าขึ้นมาก่อนที่จะทดลองเปิดสวิซนั้นอีกครั้งเพื่อเช็คการทำงานให้แน่ใจ
ไคกินั้นเองก็ไม่ได้พูดอะไรนอกจากส่ง Black Letters ให้แก่หญิงสาว เธอรับมันไว้ก่อนที่จะไล่ลงไปยังคนที่มีคะแนนโหวตต่ำที่สุดในรายการ เธอตาค้างอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง เธอมองไปยังเหยื่ออย่างลังเลที่จะฆ่า
แต่มันคือกฎที่หัวหน้าอย่างเธอต้องทำ!
“ขอโทษนะ...” เธอกลืนน้ำลายก่อนที่จะเปิดสว่านไฟฟ้าปละคร่อมร่างนั้นที่นอนอยู่ในโลง รอยยิ้มของเหยื่อเริ่มคลี่ออกราวกับรู้ชะตาตัวเอง เธอตัดใจกดสว่านไฟฟ้าลงบนกลางหน้าผากเพื่อให้ร่างนั้นตายอย่างไม่ทรมานเท่าไรนัก เลือดนั้นสาดกระเซ็นไปทั้งใบหน้าที่เนียนสวยปราศจากสิวเสี้ยนของเธอ เสื้อสีขาวสบาย ๆ นั้นเต็มไปด้วยเลือดที่ออกมาจากรูกน้าผาดที่เริ่มจะกว้างออก
ใบสว่านนั้นเจาะไปเรื่อย ๆ ท่ามกลางเสียงกรีดร้องอย่างทรมานของเหยื่อ สองมือนั้นกำเชือกเอาไว้แน่นด้วยความเจ็บปวดทรมานอย่างไม่เคยเจอมาก่อน ตานั้นเหลือกค้าง ลิ้นเริ่มจุกปากออกมาเหมือนคนขาดอากาศหายใจ แวบนั้นมาริสซ่ากลับรู้สึกว่าใบสว่านนั้นเจาะเข้าไปในแกนสมองแล้ว เพราะรู้สึกว่ามันปะทะกับของนิ่ม ๆ ที่อยู่ในหัว หลังจากที่ผ่านกะโหลกไปแล้ว สมองนั้นถูกปั่นรวมกับใบสว่านจนบางส่วนกระเด็นออกมาจากรูหน้าผาก ก่อนที่จะมันจะพุ่งตรงออกไปยังท้ายทอย
การประหารในครั้งนิ้ส้นสุดลง นี่เป็นครั้งที่สามตั้งแต่เธอเกิดมาและได้ฆ่าคนแบบนี้ แต่หากครั้งนี้คนตรงหน้านั้นไม่สมควรได้รับความตายเป็นของตอบแทนเลยด้วยซ้ำ
“ฉันไม่อยากทำแบบนี้ ....” มาริสซ่าสะอึกก่อนที่จะถอยออกมาจากโลง ปล่อยให้เขาแบกร่างนั้นออกไปจากลานประหาร
“ยังไงเธอก็ต้องตายอยู่ดี เพราะฉะนั้นอย่าคิดอะไรมากเลยนะครับ” วัชรเองเดินเข้ามาหา เขาเริ่มสังเกตสีหน้าของมาริสซ่าที่เค่งขรึมต่างไปจากเดิม
“เธอตาย .. โดยที่เธอไม่ได้ทำความผิดอะไรเนี่ยหรอก ที่เรียกว่าสมควรตาย” เธอมองหน้าของวัชรก่อนที่จะเดินออกไปจากลานประหาร อลิซเองได้แต่มองร่างที่เดินกลับเข้าไปในปราสาทก่อนที่จะเริ่มอมยิ้ม
“เริ่มจะโตเป็นผู้ใหญ่แล้วสินะ มาริสซ่า”
Result
R3 วีรกาญจน์ สุริยคะนึงนิจ (มิ้ว)
เสียชีวิต
เหลือผู้เข้าแข่งขัน : 4 คน
NEYNE: BLOMMA
ความคิดเห็น