ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Reality 7 .:: ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร ::. *Start*

    ลำดับตอนที่ #100 : Friday : คิดผิดซะแล้ว!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 240
      0
      17 ก.ย. 54

    REALITY SEASON 7

    ตอน : ปริศนาราชวงศ์ปักษาธร

    WEEK 6

    “ของฉันดูหน่อยนะว่าสมองคนฉลาด ๆ อย่างเธอมันจะมีกี่หยัก!” ว่าแล้วเข้าก็ลั่นไกขึ้นจ่อไปที่หน้าผากของมิ้ว

     

    หากแต่ว่ามิ้วนั้นเร็วกว่า เธอวาดโคมไฟใส่แขนของอัครา เขาเอี้ยวตัวหลบก่อนที่จะตีลังกาถอยหลังกลับไปและส่องปืนเก็บเสียงข้ามาและยิงออกอย่างรวดเร็ว

     

    “อึกกกกกก!” เธอหายใจแรงก่อนที่จะกระสุนของมันจะถากเข้าที่หัวไหล่ซ้ายของมิ้วอย่างจัง เธอเซถลาไปก่อนที่จะหันหน้ามาเผชิญหน้ากับปีศาจในคราบของคนดีอย่างที่เธอเห็นมาตลอด

     

    อัคราและมิ้วกำลังเผชิยหน้ากันอย่างดุเดือด ในขณะที่มาริสซ่าเองก็พยายามค้นหาว่าบุคคลปริศนาในห้องดนตรีในความมืดนั้นเป็นใครกันแน่

     

    สองสาวกำลังตกอยู่ในอันตรายบนความเป็นและความตายเสียแล้ว!!

     

    “ทำยังงี้เพื่ออะไรกันอัครา ...” มิ้วกุมแขนที่เปื้อนเลือดและรอยเสื้อขาดเอาไว้แน่น เธอไม่เคยนึกว่าคนที่เธอรู้จักนิสัยใจคอที่เคยเป้นคนแสนดี จะกลายเป็นคนแบบนี้ไปได้

     

    อัคราระเบิดหัวเราะร่วนก่อนที่จะลั่นไกอีกครั้ง รอยยิ้มเริ่มปรากฏบนใบหน้าขาวเนียนนั้นก่อนที่มือขวาจะปลดแว่นออกจากดวงตาทั้งสองดวง

     

    “เธอลองคิดดูสิ ... ถ้าเอาสร้อยมุก กำไรทอง กับเครื่องประดับที่พวกเธอหามาได้ เอาไปขายแล้วล่ะก็ เงินมหาศาลจะหลั่งไหลเข้ามาในกระเป๋าทองของฉัน ดีกว่าที่ต้องมาเป็นพิธีกรที่เงินเดือนยังไม่ได้ครึ่งของราคาของล้ำค่าพวกนี้เลย ฉันเลยให้ไอ้แก่นั่นมันร่วมมือกับฉันฮุบของมีค่าที่นี่ไปซะ แต่ไอ้แก่นั่นมันก็โง่นะ ไม่รู้อะไรเลยว่าฉันหลอกใช้มันอีกทอดหนึ่ง”

     

    “นายนี่มันเลวจริง ๆ” มิ้วสบถเสียงแข็ง

     

    วูบหนึ่งในตอนนั้นเธอนึกถึงคนที่อัคราเปรยออกมาว่า ไอ้แก่คงจะมีเพียงคนเดียวคือโชเฟอร์ที่เคยพาพวกเธอทั้งหมดมาส่งที่ปราสาทแห่งปักษาธร เธอเองก็มีความแค้นส่วนตัวกับโชเฟอร์ในสัปดาห์แรก ไม่คิดว่าอัคราจะติดต่อกับโชเฟอร์คนนั้นอีกครั้งเพื่อมาทำเรื่องราวเลวร้ายเป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอยของที่นี่อีกครั้ง

     

    “คนอยากได้เงิน ทำอะไรได้ทุกอย่างนั่นล่ะ” เขาพูดกลับไปก่อนที่จ่อปืนเข้าที่หัวของมิ้ว หญิงสาวเองก็ไม่มีทีท่าว่าจะหนีหรือต่อสู้แต่อย่างใด เป็นโอกาสที่เขาเดินเข้าไปใกล้เธอมากขึ้น

     

    “นายจะฆ่าฉันจริง ๆ เหรอ?” มิ้วเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้าง ดูท่าว่าเธอจะไม่ได้กลัวปืนที่มาจ่อหัวของเธอเลย กลับกันเธอกลับยิ้มออกมาราวกับว่าเธอเป็นผู้ชนะ

     

    “ทำไม .. กลัวเหรอ?” เขาไม่วายถามออกมา

     

    “อัครา นายคิดอะไรผิดพลาดไปแล้ว ... อย่างใหญ่หลวงเลยด้วย” เธอมองหน้าของอัครากลับไปกลับมาก่อนที่จะยิ้มเยาะ

     

    “เธอหมายความว่าไง?”

     

    ฝนยังคงตกกระหน่ำและดูทีท่าว่าจะไม่สามารถยุติลงง่าย ๆ มิ้วจ้องมองเข้าไปในดวงตาของอัคราที่ลึก ๆ มีเพียงความมืดมิดและความดำสนิทยิ่งกว่าความมิดที่โอบล้อมตัวของเธอเองเสียอีก มันคือความดำเงียบและอำมหิตของเขาที่มองผ่านดวงตาของเธอ หญิงสาวยิ้มกริ่มก่อนที่จะพูดเสียงที่เบาแต่เขากลับได้ยินมันอย่างชัดเจน

     

    “ลืมไปแล้วเหรอว่าในบ้านหลังนี้ ... ไม่ใช่ที่อยู่ของคนดี!” พูดแค่นั้นเธอก็ใช้โคมไฟในมือข้างหนึ่งตวัดปากกระบอกปืนเพื่อให้ห่างออกจากวิถีกระสุนอย่างรวดเร็ว อัคราที่ไม่ได้ทันระวังตัว ปืนในมือร่วงออกไปจากมือ จังหวะที่ปืนเก็บเสียงลอยอยู่กลางอากาศ มือหนึ่งของมิ้วคว้ามันเอาไว้ก่อนที่จะเปลี่ยนวิถีกระสุนเล็งมาที่ท้ายทอยของอัครา

     

    ฟิ้ว!

     

    กระสุนปืนแล่นออกจากปากกระบอกอย่างรวดเร็วหากแต่ว่าไม่มีเสียงใดเล็ดรอดออกมาหนอกจากเสียงลมจากกระสุนที่พุ่งตรงออกมาและเข้าไปยังท้ายทอยของอัครา เลือดสีแดงจนเกือบเข็มทะลุออกมาจากท้ายทอยกระเด็นเปื้อนหน้าของมิ้ว เธอใจเสียเล็กน้อย

     

    คนที่อยู่ตรงหน้าที่เคยเป็นคนอารมณ์อ่อนไหวและเย็นชา กลับกลายเป็นฆาตกรที่จะฆ่าเธอให้ตายอยู่ตรงหน้า กระสุนปืนลูกเดิมพุ่งออกมาทะลุคอหอยของเขา ตาของเขาเหลือกค้างอยู่พักหนึ่งก่อนที่ร่างทั้งร่างของเขาจะทรุดไปกองกับพื้นพร้อมกับกองเลือดที่ออกมาจากรูคอหอยของอัครา

     

    “ทำอะไรของเธอน่ะ!” เสียงของใครบางคนทำให้มิ้วหันกลับไปมองก่อนที่จะยิ้มให้

     

    “เธอ .. ฆ่าอัคราทำไมนั่น!!” เจ้านายโวยวายก่อนที่จะพลิกตัวของอัคราเพื่อตรวจดูให้แน่ใจว่าเขาตายหรือยัง และแล้วคำตอบที่เขาต้องการก็ปรากฏขึ้น

     

    เขาตายแล้ว ....

     

    “เอาไว้จะเล่าทีหลังนะ” เธอพูดก่อนที่จะหันไปมองทั้งหมดก่อนที่จะหันมองกลับไปในห้องดนตรี เพราะรู้สึกว่าท่ามกลางความโกลาหลนั้น มาริสซ่าไม่ได้ออกมาเลย

     

    เธอหายไปนานเกินไป ...

     

    ทางด้านของมาริสซ่าเอง เธอกำส้นสูงเอาไว้แน่น เมื่อครู่เธอเพิ่งเห็นเงาของใครบางคนที่วูบผ่านเปียโนตัวหนึ่งไป สายตาคู่นั้นไม่สามารถจับการเคลื่อนไหวของเขาผ่านความมืดนั้นได้เลย

     

    กึก!

     

    ท่ามกลางความตื่นตระหนกของหญิงสาวที่ต้องอยู่คนเดียวแบบนี้เป็นครั้งที่สองนับจากที่เธอเคยเข้าไปอยู่ในโรงทอผ้าและครั้งนี้ที่ไฟดับ ในตอนนั้นเองที่มีใครบางคนพุ่งเข้ามาหาเธอจากทางด้านหลังและเธอเองก็ไม่ทันได้ตั้งหลัก

     

    “ค ... ใครน่ะ!” ยังไม่ทันที่มาริสซ่าจะได้พูดอะไรมากกว่านี้ ร่างนั้นกลับขึ้นคร่อมร่างหล่อนเอาไว้อย่างรวดเร็ว สองมือนั้นขยำลงบนเนินอกที่เนียนสวยของเธอ

     

    “ก่อนตาย ขอคนสวยเป็นเมียสักวันเถอะวะ!” มาริสซ่าตาเบิกกว้างทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น เสียงแบบนี้เธอเคยได้ยินที่ไหนสักแห่ง

     

    เสียงของชายที่เคยขับรถให้กับเธอและพวกก่อนที่จะเดินทางมาที่นี่ ...

     

    “แก!” ภาพมากมายจากหัวของมาริสซ่าวูบเข้ามาในห้วงของความคิด ภาพที่เธออยากจะลืมเลือนมันให้หายไปจากสมองของเธอซะ

     

    “ฉันไม่ให้แกทำอะไรกับร่างกายของฉันได้หรอก .....” สิ้นเสียงของมาริสซ่า เธอใช้แรงที่มีทั้งหมดผลักชายคนนั้นออกไปจากตัวก่อนที่เธอจะกลับมาเป็นฝ่ายรุกแทน มือขวาของเธอกำรองเท้าเอาไว้แน่นก่อนที่จะง้างขึ้นเหนืออากาศ

     

    “แกมันผู้ชายเฮงซวย!” ว่าแล้วเธอก็ฟาดส้นสูงเข้มแหลมเฟี้ยวลงบนสีข้างแก้มของเขา เสียงนั้นร้องอวดครวญอย่างเจ็บปวด เธอไม่สามารถเห็นได้ว่าเลือดนั้นมันไหลมาจากทางไหนหรือเปล่า แต่ตอนนี้เธอรู้แค่ว่าเธอจะต้องเล่นงานคนชั่วที่กำลังจะทำร้ายร่างกายและจิตใจของเธอให้ได้

     

    “ฉันไม่ให้ประวัติศาสตร์มันซ้ำรอยอีกแล้ว!” ส้นสูงครั้งที่สองถูกปาดลงบนแก้มอีกครั้ง เธอพยายามฟาดอาวุธจำเป้นหลายต่อหลายครั้งจนร่างของเขานั้นไม่มีทางที่จะต่อสู้ได้เลย

     

    เมื่อรู้สึกว่าร่างนั้นจะไม่ตอบโต้ใด ๆ เธอลุกขึ้นก่อนที่จะใส่รองเท้าส้นสูงให้เข้าที่ เธอพยายามเพิ่งมองหน้าที่จมกองเลือดของเขาก่อนท่จะฉีกยิ้มเบา ๆ

     

    “เสียดายนะ ที่แกไม่ได้แก่ตาย!” ว่าแล้วเธอก็กระแทกส้นสูงลงบนใบหน้าของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนใบหน้านั้นยุบเข้าไปในกระโหลก เลือดกระเด็นมากมายเปรอะตามขาและตัวของเธอเต็มไปหมด หากแต่ว่าตอนนี้เธอต้องการให้ไอ้คนตรงหน้าตายไปจากโลกนี้ซะ

     

    ผู้ชายที่ชอบย่ำยีคนอื่น!

     

    เพียงไม่นานนักอลิซพบว่าไฟฟ้าในปราสาทสามารถใช้การได้ เธอส่ายหัวเบา ๆ ก่อนที่จะเปิดคัตเอ๊าท์ขึ้นจนไฟฟ้าในโถงสว่างไปทั่วรวมไปถึงห้องดนตรีด้วย พวกเขาจ้องมองร่างของอัคราก่อนที่จะมาริสซ่าจะลากร่างของชายอีกคนมารวมกันเป็นทั้งหมดสองศพ

     

    “เอาไปเผาดีกว่าเนอะ ....” วัชรพูดอย่างสนุกสนานก่อนที่จะไปหาฟืนในห้องทำครัวเจ้านายจึงอาสาเดินเข้าไปและช่วยจุดเตาเผาที่อยู่ในห้องครัว

     

    “คนแบบนี้ .. ตายไปซะได้ก็ดี ” อลิซเลียริมฝีปากก่อนที่จะจิกหัวและลากร่างของทั้งสองไปตามทางจนเลือดของพวกเขาเปื้อนรวมกันเต็มพื้นไปหมด

    แบบฟอร์มการเข้าห้องสารภาพ

     (ส่งทางข้อความลับก่อนวันอาทิตย์ตอน 12.00)

     

    ชื่อเล่นของคุณพร้อมรหัส :

    ความรู้สึกที่มีต่อกิจกรรมนี้ :

    โหวตคนที่คิดว่า แกร่งที่สุดพร้อมเหตุผล : (ตอบในมุมมองของผู้เข้าแข่งขัน ไม่ใช่นักอ่าน)

    โหวตคนที่คิดว่า อ่อนแอที่สุดพร้อมเหตุผล : (ตอบในมุมมองของผู้เข้าแข่งขัน ไม่ใช่นักอ่าน)

    คิดว่าใครสมควรได้เป็นหัวหน้าราชวงศ์ในสัปดาห์นี้ : (ตอบตามความเห็นของผู้สมัคร)

     

     

     

     

     

     

     

    NEYNE: BLOMMA

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×