บทความคณิตศาสตร์

ลำดับตอนที่ #40 : เทคนิคการทำข้อสอบO-NET

เทคนิคการทำข้อสอบคณิตศาสตร์ O-NET

สำหรับคนที่มีเวลาเตรียมตัวน้อย

การเตรียมตัวขั้นพื้นฐาน ( สำหรับคนที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อนหน้านี้เลย )

7 วันก่อนสอบ ให้ศึกษาว่าเรื่องใดออกมากที่สุด โดยศึกษาได้จาก http://www.niets.or.th/ จะมีระบุไว้ว่าออกเรื่องอะไรบ้างและออกกี่ข้อโดยปกติแล้วบทที่ออกมากที่สุดจะเป็นพวกสถิติจะออกมาเกือบครึ่งเลยทีเดียว ถ้าอ่านจริงควรเน้นสถิติให้แน่น ส่วนเรื่องอื่นควรดูแค่พอคร่าวๆให้รู้แนวโจทย์ หรือถ้าขี้เกียจลองถามเพื่อน ถามอาจารย์ ถามแฟน ดูก็ได้(เป็นการประหยัดค่าอินเตอร์เน็ต 555 )

การเตรียมตัวขั้นปฏิบัติ

1.พยายามฝึกทำโจทย์มากๆลองนำโจทย์เก่าๆมาลองฝึกทำ อย่างน้อยย้อนหลัง 2 – 3 ปี จะได้รู้แนวข้อสอบให้มากขึ้น หลายๆปีได้ยิ่งดี ( ถ้าไม่มีเงินซื้อให้ขอยืมเพื่อนหรือไม่ก็ซื้อมาเล่มเดียวแบ่งกันดู ก็ประหยัดไปอีกแบบ )

2.ถ้าในระหว่างอ่านเองหรือทำโจทย์ไปนั้นเกิดไม่เข้าใจหรือทำไม่ได้ ควรที่จะหาเพื่อนที่เก่งในวิชาคณิต หรือ วิชาคำนวณต่างๆ มาติวให้  หรือ รุ่นพี่ที่มีเก่งทางด้านคณิตศาสตร์ หรือ วิชาคำนวณต่างๆมาช่วยติวให้ก็จะดียิ่งขึ้น หรือ ถ้าจะให้แน่นอนควรไปหาอาจารย์เพื่อนทำการสอบเพิ่มเติมได้

3.ลองฝึกจำสูตรต่างๆที่ใช้ในการออกข้อสอบ ( แต่สูตรที่จำเป็นคือสูตรทางด้านสถิติ จะจำเป็นมาก ในการสอบ ) และฝึกประยุกต์โจทย์ให้เป็น

การเตรียมตัวก่อนถึงเวลาสอบ

<!--[if !supportLists]-->1.   1  <!--[endif]-->คืน ก่อนวันสอบ ให้ท่องสูตรที่ต้องใช้ก่อนนอน ( อย่าเก็บไปละเมอหละเดี่ยวใครเข้ามาในห้อง ท่องว่า “รูท เอ กำลังสอง บวก บีกำลังสอง” จะพากันหลอนเอาทั้งบ้าน 555 ) แล้วก็พักผ่อนนอนหลับ แล้วตื่นมารุ่งเช้า ให้จำสูตรทั้งหมดที่ท่องมาเมื่อคืน แล้วจดใส่กระดาษทั้งหมด แล้วนำไปเทียบกับสูตรในหนังสือ ( อย่าเปิดผิดเล่มแล้วกัน ) ถ้าเกิดตรงทั้งหมด นั้นหมายความว่าคุณมีความพร้อมในการทำข้อสอบแล้ว แต่ถ้าหากจำไม่ได้หรือจำไม่หมด ก็เอาท่าที่ได้ แล้วไปลุยต่อในสถานที่สอบ

2. ในสถานที่สอบควรไปถึงก่อนอย่างน้อย 1 ชม. เพื่อรับประทานอาหาร ( ควรที่จะทานเพราะถ้าไม่ทานอาจจะทำให้หิว และทำข้อสอบได้ไม่เต็มที่ ( ท้องจะร้องอยู่ตลอด และหิวด้วย อิอิ ) และหลังจากนั้น

มีอยู่หลายกรณีแล้วแต่จะลือกใช้กันนะ

กรณีที่ 1 นั่งลองฝึกทำโจทย์เพื่อเป็นการเตรียมตัวขั้นสุดท้ายก่อนลุย และท่องสูตรให้แม่น พอถึงเวลาจะได้ลุยเต็มที่

กรณีที่ 2 นั่งทำใจ ( ข้อสอบจะออกอะไร ว้า... / จะจำได้ไหมเนี่ยสูตร / ทำได้อย่าลืมให้ลอกบ้างนะ เหอะๆ ( อันนี้ไม่ดีอันโดนแบบปีที่แล้วได้ ) / นั่งหลับ ( เมื่อคืนดึกไปหน่อย เหอะๆ / เป็นต้น )

กรณีที่ 3 นั่งอ่านหนังสืออย่างอ่าน เช่นหนังสือเกมออนไลน์ หนังสือการ์ตูน

หรือ คุยกับเพื่อนเรื่องต่างๆ เพื่อเป็นการผ่อนคลาย ( จริงหรือป่าวที่ว่าผ่อนคลาย ได้ เหอะๆ )

การลุยทำข้อสอบจริง

1.ตรวจข้อสอบว่าเป็นของตนเองหรือไม่ และดูหน้าให้ครบ เมื่อดูเรียบร้อยแล้ว ให้จดสูตรที่จำมาทั้งหมดใส่ลงในกระดาษข้อสอบได้เลย

2.ทำอย่างตั้งใจ ทำข้อที่ทำได้ก่อน ส่วนข้อที่ทำไม่ได้ไว้ค่อยมาทำทีหลัง

3.หากทำเสร็จหมดแล้วควรตรวจคำตอบอีกครั้งเพื่อความชัวร์

4.เมื่ออกจากห้องสอบ ทำได้หลายกรณีดังนี้

กรณีที่ 1  ทำหน้าเครียดๆ แล้วบอกว่า “ ข้อสอบโคตรยากเลย ”

กรณีที่ 2 ทำหน้าตาเย้ยเพื่อนๆว่า “ข้อสอบง่ายมากทำได้เกือบทุกข้อ” ( หรือทุกข้อ แล้วแต่จะเย้ยเพื่อนมากแค่ไหน )

กรณีที่ 3 รีบมาเปิดดูหนังสือว่าทำถูกต้องหรือไม่

กรณีที่ 4 บอกคนอื่นว่า “วิชาต่อไปยังมีอยู่ วิชานี้ได้น้อยก็ไม่เป็นไร”

กรณีที่ 5 รีบเข้าห้องน้ำอย่างหนัก เพราะอั๊นมานานแล้ว

กรณีที่ 6  ถามเพื่อนว่า “ข้อนี้ทำไง”

และอีกหลายๆกรณี อันนี้เป็นท็อปฮิตที่เคยเจอมากับตัวเลย เหอะๆ

ทิปการทำข้อสอบแบบเดาสุ่มให้มีโอกาสถูก 50 % ( สำหรับคนมั่ว แต่มีหลักการ และคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย )

1.ถ้าข้อสอบออกมา มี  ก. หรือ ข. แล้วโจทย์ถามว่า ข้อใดผิด โดยปกติแล้วจากการที่สำรวจมา ข้อสอบมักจะ มีข้อใดข้อหนึ่งถูกและข้อใดข้อหนึ่งผิดอยู่เสมอ ฉะนั้นแล้วจะเหลืออยู่ 2 ตัวเลือก ถ้าดวงดีก็ตอบถูก ถ้าดวงแย่ก็ผิดไปตามระเบียบ

2.ในบางข้อผู้สอบ ( คนที่ทำไม่ได้ คนที่ทำได้ควรทำ ) เห็นโจทย์ยากๆ เลยตอบมั่วไปแต่จริงๆแล้วถ้าพิจารณาจากตัวเลือกแล้ว เราจะตัดเหลือ 2 ตัวเลือกได้เลยทีเดียว ให้สังเกตดังตัวอย่าง

            จงหาเซตคำตอบของอสมการ X  กำลัง ( 2X กำลัง 2  -  4X – 5 ) ≤ 1/32 คือเซตในข้อใดต่อไปนี้

1.[-5/2  5/2]     2.[-5/2 , 1 ]    3.[-1/2,1]   4.[-1/2,5/2]

วิธีการ คือ

1.จับตัวเลขที่เหมือนกันก่อน ( ไม่คำนึงถึงค่าติดลบหรือบวก ) จะเห็นว่า 5/2 มีอยู่3ตัวเลือก คือ ข้อ 1  2  และ 4

2.ดูต่ออีกว่ามีตัวเลือกใดบ้างที่มีเลขเหมือนกัน จะมีเลข 1 อยู่ 2 ตัวเลือก คือ  2 และ 3 ต่อก็จะเห็น 1/ 2 อยู่ 2 ตัวเลือก คือ 3 และ 4

3.ขั้นตอนการตัดคำตอบ จากวิธีการข้อแรกเราสามารถตัดข้อ 3 ไปได้เลย เพราะส่วนใหญ่ทั้ง 3 ตัวเลือกจะมี 5/2 อยู่ ฉะนั้นแล้วเป็นไปได้ยากที่คำตอบจะไม่ใช่ 5/2 ( ถ้าคิดดีดีอาจจะใช่ก็ได้ เหอะๆ แต่นี่คือวิธีการเดานะ) ก็ตัดตัวเลือกข้อ 3 ไปได้เลย

     ต่อมาเมื่อเราเห็นว่าตัวเลือกที่ 3 ไม่ใช่ เราก็มาพิจารณาต่อว่า ในข้อ 3 ตัวเลือก มี ½ กับ 1 แสดงว่าต้องมีตัวใดตัวหนึ่ง อยู่ในคำตอบแน่ๆ ก็ตัดตัวเลือกที่ 1 ไป

     ทีนี้ก็จะเหลือเพียง 2 ตัวเลือกเท่านั้น ในการตอบ ( คำตอบจริงๆคือตัวเลือกที่ 4 )

* ที่ผ่านมาทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงเทคนิคเล็กน้อยๆนะครับ จะนำไปใช้กับการสอบ A-NET หรือข้อสอบอื่นก็ได้ครับ ซึ่งบทความนี้ออกจะไร้สาระหรือมีสาระแล้วแต่ใครจะคิดกันนะครับ  จะทำตามหรือไม่ทำตามก็ได้ แล้วแต่บุคคลนะครับ วิธีที่แนะนำมานี้อาจจะไม่ได้ผลเลยสะทีเดียว แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความตั้งใจของเรานะครับ แล้วผลทุกอย่างจะออกมาอย่างที่เราตั้งใจไว้ ส่วนผมจะคอยเป็นกำลังใจให้ทุกคนเลย ขอให้โชคดีนะ