ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic > SJ]+*+Forbidden LovE+*+

    ลำดับตอนที่ #28 : +*+Part23+*+

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.58K
      3
      3 พ.ย. 51

    Title                        :               Forbidden Love
     
    Author                    :               +*+HanminhyuK+*+
     
    Part                         :               23
     
    ผิวกายขาวสวยปรากฏต่อสายตาของคิบอม พร้อมกับที่ชายหนุ่มแสดงความเป็นเจ้าของด้วยการประทับรอยใคร่สีเข้มไว้ทุกส่วนของร่างกาย
     
    “ปล่อยฉัน...ฮือ...ช่วยด้วย...ฮือ” เสียงหวานร้องจนแหบแห้ง พลางดิ้นหนีแต่แรงที่มีอยู่น้อยนิดก็สู้ไม่ได้เลย ยิ่งดิ้นยิ่งถูกกระทำรุนแรงมากขึ้น ราวกับเขาคือที่ระบายอารมณ์ของร่างสูงมากขึ้น
     
    ลิ้นสากไล้เลียใบหูเล็กทั้งสองอย่างหยาบโลน รอยยิ้มที่เหี้ยมเกรียมอย่างที่ร่างบางไม่เคยได้เห็นได้ปรากฏต่อสายตาเขาแล้ว
     
    ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งเหมือนไม่ใช่คิบอมที่เขาเคยรู้จัก
     
    ยิ่งอยู่ใกล้ ยิ่งรู้ว่าคนตรงหน้าคือตัวอันตราย
     
    แต่เสียงหัวใจยังคงเรียกชื่อของเขาอยู่...มันยังบอกว่า ยังคงรักคิม คิบอม เจ้าชายเย็นชาคนเดิม
     
    “อยากได้ไม่ใช่เหรอ จะแหกปากร้องทำไมเล่า!!!!” เสียงห้าวระเบิดอารมณ์ดังลั่น จนร่างกายบอบบางสะดุ้งผวา มือหนาเขย่าไหล่บางอย่างแรง พร้อมกับฉุดให้ลุกขึ้นชนกับกำแพง จนทงเฮจุกตัวงอ
     
    มีเพียงน้ำตาที่ไหลรินจากใบหน้าหวานสวย มีเพียงร่องรอยแห่งความเจ็บปวดเท่านั้นที่แสดงออกมาบนใบหน้า ที่คิบอมรับรู้
     
    แต่หัวใจที่แห้งกร้านของเขาไม่อาจจะเก็บกักอารมณ์ที่เดือดปะทุได้อีกแล้ว
     
    ราวกับภูเขาไฟระเบิดออก พร้อมกับไฟลาวาที่ร้อนจัดไหลออกมา
     
    ริมฝีปากหนาบดเบียดเรียวปากนุ่มอย่างแรงจนรับรู้ได้ถึงคาวเลือด สิ้นสากที่รุกล้ำพยายามที่จะเข้าผ่านริมฝีปากบาง มือใหญ่บีบคางมนแน่นเพื่อให้ทงเฮอ้าปาก มืออีกข้างจับท้ายทอยร่างบางไว้มั่น ไม่สะทกสะท้ายกับฝ่ามือที่แรงเท่ามดของทงเฮที่กระหน่ำทุบเขาเลยสักนิด
     
    ลิ้นหนาเข้าพัวพันเกี่ยวรัดลิ้นบางเอาไว้ ลมหายใจที่ร้อนผ่าวทำให้แรงของทงเฮนั้นมลายหายสิ้น ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลรินไม่รู้จักจบสิ้น
     
    คิบอมถอนจูบออกเพียงชั่ววินาทีที่ร่างบางโกยอากาศเข้าปากก็ประกบจูบอีกครั้งอย่างหนักหน่วงและรุนแรง ทุกซอกทุกมุมนั้นชายหนุ่มสำรวจมันอย่างจาบจ้วงล้ำลึก ก่อนจะไล่ลงมาที่ลำคอขาวสวย เพิ่มรอยที่เขาทำค้างเอาไว้ขบกัดผิวเนียนที่เหลืออยู่น้อยนิดให้เกิดรอยแดงช้ำเลือด ก่อนจะไล่ลงมาเรื่อยๆถึงตุ่มเนินอกทั้งสองข้าง มือหนาบดขยี้ข้างหนึ่งและเม้มดูดอีกครั้งด้วยความอารมณ์ที่ไม่ละลดความรุนแรงเลย มีแต่จะเพิ่มความโกรธ เกลียด เคียดแค้นลงไปกับร่างบางที่ใกล้แตกสลายเต็มทีมากขึ้นเท่านั้น
     
    ร่างเล็กถูกโยนลงกับเบาะเก่าๆ พร้อมกับที่ร่างหนาของคิบอมที่ค่อยๆถอดเสื้อผ้าของตนอย่างย่ามใจออก สาวเท้าก้าวเข้าหาร่างบางที่ถดถอยหนีอย่างอ่อนแรง
     
    “อย่ามากระแดะหนีฉันนะ!” เสียงห้าวตวาดลั่น พร้อมกับจับข้อเท้าทั้งสองข้างแล้วลากร่างบางให้เข้าหาตนเอง ส่วนกลางลำตัวของร่างสูงแข็งชูตระหง่าน พร้อมกับแยกเรียวขาเล็กออกแทรกกายเข้าจนสุดในคราวเดียว
     
    “อ๊า!!! จะ...เจ็บ ฮึ่ก” เสียงหวานกรีดร้องลั่น ทั้งน้ำตาและน้ำมูกที่ไหลลงมานั้น เขาก็ไม่สนใจที่จะปาดมันทิ้ง เพราะความเจ็บปวดที่ช่วงล่างทำให้เขาไร้เรี่ยวแรงที่จะขัดขืนหรือเช็ดคราบน้ำตาแต่อย่างใด
     
    คิบอมถอนแกนกายที่ร้อนผ่าวอย่างรวดเร็ว เรียกเสียงครางได้ไม่น้อย...เสียงครางที่ทรมาน เจ็บปวดร้าวรานทุกส่วน ดำดิ่งลงสู่จิตใจที่แตกสลายพร้อมกับความรักที่ถูกทำลายด้วยน้ำมือคนที่เขารักมากที่สุด ชายหนุ่มสวนแท่งเนื้อแข็งกระด้างเข้าไปอีกครั้งเพิ่มแรงเคียดแค้นทั้งหมดโถมใส่ช่องทางบางๆ ไม่สนแม้แต่เสียงแผ่วเบาที่ร้องขอให้หยุดการกระทำที่โหดร้าย หรือแม้แต่หยาดหยดของเหลวสีแดงสดที่ซึมออกมาจากทางรัก
     
    ร่างสูงยัดเยียดส่วนนั้นเข้าออกอย่างแรงและเร็ว ยิ่งโถมใส่กำลังเท่าไหร่ น้ำตาแห่งความเจ็บปวดก็พาลไหลลงมาไม่ขาดสาย
     
    ร่างกายที่สูงใหญ่ของคิบอมยังคงระรัวกระแทกอัดด้านล่างของคนตัวบางต่อไป แม้แต่น้ำตาของตนเองไม่คิดที่เช็ดมันออก แล้วน้ำตาของคนที่ถูกกระทำเล่า เขาจะทำให้ได้อย่างไร?
     
    คนที่ต้องการให้เช็ดน้ำตา หรือปลุกปลอบหัวใจที่ไร้ชีวิตชีวาไม่รู้อยู่ที่ไหน เขาจึงลงมือกับคนด้านล่างอย่างไม่ต้องเห็นอกเห็นใจใดๆทั้งสิ้น
     
    คิบอมถอนแกนกายออก พร้อมกับพลิกร่างที่ไร้เรี่ยวแรงให้นอนคว่ำหน้า ยกสะโพกมนให้ตั้งขึ้นแล้วเสียดแทงแท่งเนื้อร้อนผ่าวอีกครั้ง
     
    “พะ...พอสักที...ฮึ่ก...ฮือ” เสียงหวานคร่ำครวญผะแผ่วจนแทบจะไม่ไหว ผิวที่เคยขาวสะอาดสะอ้านกลับมีร่องรอยแห่งความรุนแรงประดับทั่วผิวสวยและฝุ่นที่จับ ร่างกายของทงเฮยังคงขยับตามแรงกระทั้นของคิบอมไม่หยุดหย่อน
     
    เจ็บปวด...เมื่อไหร่ที่ความรู้สึกนี้จะสิ้นสุดเสียที
     
    จะทรมานฉันไปถึงไหนกัน?
     
    สายน้ำอุ่นๆฉีดเข้าสู่โพรงล่างที่บอบช้ำบวมแดง ร่างสูงถอนสิ่งใหญ่โตออก พร้อมกับพลิกร่างกายที่เหมือนซากมนุษย์ของทงเฮให้นอนหงาย
     
    ใบหน้าคมคายนั้นเหลือเพียงคราบน้ำตาที่แห้งเหือด ดวงตายังคงแดงช้ำฉ่ำน้ำ ริมฝีปากหยักยิ้มเหยียดร่างกายที่แปดเปื้อนมลทินที่เขาเป็นผู้กระทำ
     
    ชายหนุ่มสอดใส่แกนกายอีกครั้ง ไม่สนว่าผนังบางๆนั้นจะบอบช้ำเพียงใด และตอดรัดเขามากจนแทบขยับไม่ได้อย่างไร เรี่ยวแห่งความชิงชังกับคนๆหนึ่งที่มีอัดใส่คนตัวเล็กที่ไร้ทางสู้อย่างไม่คิดปรานี
     
    “ฮึ่ก...อึก อ๊า...ฮือ” น้ำเสียงขาดห้วงด้วยความเจ็บที่ได้รับมานานเป็นชั่วโมง ก่อนที่คนตัวเล็กจะสลบทันที ทั้งที่ยังมีแกนกายร้อนๆของคิบอมคาอยู่ในช่องทางบอบบางของตน
     
    น้ำตาเม็ดโตหยาดหยดลงจากดวงตาแข็งกร้าว สู่ผิวเนียนที่เขาได้สาดใส่ความเลวร้าย เคียดแค้นทั้งหมด
     
    “ขอโทษ” เสียงทุ้มสั่นสะอื้น ก่อนจะถอนกายออกมา จัดแจงใส่เสื้อผ้าของตน ส่วนเสื้อคลุมตัวนอกห่มร่างที่ไร้ซึ่งอาภรณ์ใดๆปกปิดให้ และกางเกงขายาว
     
    คิบอมอุ้มร่างที่ไร้สติออกจากที่นั่นทันที ก่อนจะตรงดิ่งไปยังลานจอดรถ หยิบกุญแจรถสำรองออกมา แล้วพาร่างบางเข้าไปยังเบาะหลัง ก่อนจะทะยานรถหรูออกจากรั้วโรงเรียนทันที
     
    +*+........................................................................................................................................+*+
     
    ร่างบางลืมตาตื่นในช่วงสายๆของอีกวัน ความรู้สึกสดชื่นชนิดที่หายใจได้เต็มปอดนั้น ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าเรื่องเมื่อคืนมันจริงหรือแค่ฝัน?
     
    ถ้าเป็นฝัน...มันคงวิเศษ
     
    และอยากให้เป็นเช่นนั้นตลอดไป
     
    ร่างสูงเปิดประตูเข้ามาขัดจังหวะความคิดของฮยอกแจพอดี ก่อนจะยกชามข้าวต้มร้อนๆมาให้
     
    “ไปล้างหน้าก่อนสิแล้วค่อยมากินข้าวต้ม” น้ำเสียงอ่อนโยนของชายหนุ่มทำให้คนตัวเล็กโอนอ่อนอย่างว่าง่าย ลุกขึ้นไปเข้าห้องน้ำ
     
    ฮยอกแจเดินออกมาจากห้องน้ำ ด้วยสีหน้าที่ผิดปกติจนฮันคยองสังเกตได้ ก็เพราะใบหน้าใสๆนั้นแต้มสีเลือดฝาดธรรมชาติเสียจนทั่วนั้น ทำให้เขาอดที่เอ่ยปากถามไม่ได้
     
    “หน้าแดง เป็นอะไรรึเปล่า?”
     
    “ปละ...เปล่า” คนหน้าหวานส่ายหน้าแรงๆ ก่อนจะนั่งลงกับเตียง มองดูการตักข้าวต้มแล้วเป่าให้หายร้อนของร่างสูงก่อนจะจ่อมาที่ปากตน
     
    “กินสิ” เมื่อเห็นว่าฮยอกแจไม่ยอมอ้าปาก จึงจรดช้อนกับริมฝีปากบางให้ชิดขึ้นอีก
     
    “กินเองได้” เสียงหวานตอบแผ่วเบา รู้สึกแปลกๆที่มีคนมาทำแบบนี้ พร้อมกับหัวใจที่เต้นระรัวอย่างบ้าคลั่ง นี่ยังดีที่ยังมีระยะห่างหนึ่งช่วงแขน ถ้าหากใกล้กันมากกว่านี้ อีกฝ่ายคงได้ขำตาย เพราะได้ยินเสียงหัวใจที่ดังสนั่น
     
    “ไม่สบายอยู่อย่าดื้อสิ เมื่อคืนถ้าฉันไม่ป้อนยา นายคงนอนหอบตายไปแล้วมั้ง” แล้วความจริงก็เฉลยจนได้
     
    +*+........................................................................................................................................+*+
     
    รู้สึกว่าบอมจะเลวเหลือเกิน ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว
     
    สงสารหมวยจัง
     
    แต่รักฮันฮยอก^^
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×