ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กลรัก...เกมกามเทพ

    ลำดับตอนที่ #2 : หนี

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.34K
      5
      24 เม.ย. 67

    ดาวขับรถเข้ามาในบ้านของเธอ....

    บ้านสไตล์ยุโรปที่ตั้งบนพื้นที่ใหญ่โต สมกับฐานะของครอบครัว

    แต่ถึงบ้านจะใหญ่น่าอยู่ แต่มันก็ดูจะโหรงเหรง เมื่อเทียบกับสมาชิกในบ้าน...

    ถ้าไม่นับคนรับใช้ ก็มีเพียง 3 คนเท่านั้น คือ ตัวเธอ พ่อ และ แม่

    ยิ่งตอนนี้ คุณสมภพ พ่อของเธอในฐานะรมช.คมนาคม ต้องเดินทางไปดูงานต่างประเทศบ่อยๆ ก็ยิ่งทำให้เธอเหงาเข้าไปอีก

    “กลับมาแล้วเหรอลูก เร็วๆเข้า เข้าบ้านเร็ว รีบๆไปอาบน้ำแต่งตัว” คุณหญิงญาดารีบจูงมือลูกสาวเข้าบ้าน ทันทีที่เธอลงมาจากรถ

    “อะไรกันคะแม่ ทำไมแม่ดูตื่นเต้นจังเลย แขกของแม่เนี่ยใครกันคะ” ดาวถามอย่างสงสัย

    “ก็คุณป้าขนิษฐา ลูกคงจำได้ใช่มั้ย”

    “อ๋อค่ะ...ที่มีลูกชาย....ที่ชอบแกล้งหนู” ดาวรำลึกถึงเด็กผู้ชายกวนๆคนนั้น

    “อุ๊ย ลูกจำได้ก็ดีแล้ว...อ่ะ เม้า ชุดที่ฉันสั่งมาอยู่ไหน” คุณหญิงหันไปหาคนใช้

    “มาแล้วค่ะ” คนรับใช้อีกคนวิ่งถือชุดเดรสสีชมพูสวยงามมาส่งใหญ่คุณหญิง

    “ลูกจ๋า เดี๋ยวใส่ชุดนี้นะ” แม่ยื่นชุดให้ลูกรับไว้

    “อะไรกันคะแม่ อย่างกับจะไปงานราตรี”

    “นะจ๊ะ ทำตามที่แม่ขอหน่อยนะจ๊ะ”

    “แม่มีอะไรปิดหนูรึเปล่าคะ”

    “ไม่มีนี่ลูก ไปจ้ะ ไปอาบน้ำแต่งตัวให้สวยๆนะ” คุณหญิงดันลูกสาวขึ้นบันไดไป

    ดาวเข้ามาในห้องอย่างงงงัน เธอมองชุดในมือที่สวยเหลือเกิน

    “ใส่ก็ใส่ อะไรของแม่นะ..”

    ดาวเข้าไปอาบน้ำสระผมจนตัวสะอาด จะออกมาใส่ชุดที่เตรียมไว้ ก็เกิดฉุกคิดถึงความไม่ชอบมาพากล จนทนไม่ไหว ใส่ชุดอยู่บ้าน ลงไปสืบความจริงก่อน...

    ดาวลงมาถึงในครัว ก็เห็นคนรับใช้ที่พูดคุยกันอยู่ ซึ่งเป็นแหล่งข่าวชั้นดีสำหรับเธอ

    “โอ๊ย ป้าเม้าจ๋า ทำไมต้องทำเยอะแยะด้วยอ่ะ”

    “นังเหวียน ทำๆไปเถอะแก แกก็รู้ว่ามันวันพิเศษ”

    “กะอีแค่....หาคู่หมั้นให้ลูกสาวนี่นะ”

    “นังเหวียน หุบปากเลยแก ทำๆไป นังแจ่มดูปากน้องเอ็งบ้าง ฉันออกไปซื้อผักเพิ่มดีกว่า” เม้าเดินออกจากครัว มาเจอะกับดาวพอดี

    “คุณหนู...” เม้ายิ้มแห้งๆให้คนตรงหน้า

    “ป้าเม้า เมื่อกี๊ป้าพูดอะไรกันคะ ฉันฟังไม่ถนัด”

    “พูดอะไรเหรอคะ”

    “ป้า....เมื่อกี๊เหวียนบอกว่าคู่หมั้นอะไร”

    “คือ..”

    “อย่าบอกนะว่า..” ดาวปะติดปะต่อเรื่องได้ในที่สุด

    “เฮอะ...จำไว้เลยแม่นะแม่” ดาวบ่นพึมพำเดินกลับขึ้นไป อย่างโกรธๆกับแผนการของคุณหญิง

    ดาวมองชุดตรงหน้าอย่างไม่พอใจ ที่แท้เธอก็ต้องแต่งชุดสวยๆนี่ไปให้ผู้ชายดูตัวเหรอ...

    การคลุมถุงชนเป็นอะไรที่เธอเกลียดที่สุด และไม่คิดว่าจะมาเกิดกับเธอ โดยเฉพาะตอนนี้ที่เธอมีแฟนอยู่แล้ว ถึงเขาจะไม่ได้ร่ำรวยก็เถอะ เธอก็พอใจจะอยู่กับคนที่เธอรัก

    “คิดว่าหนูจะยอมง่ายๆเหรอ” ดาวพึมพำด้วยความโกรธ แล้วจัดการหยิบกรรไกรขึ้นมา

    “อยากให้ใส่นักใช่มั้ย ดี..” ดาวเอากรรไกรมาตัดเสื้ออย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น ไม่สนใจว่ามันจะแพงแค่ไหน

    ไม่ใช่ว่าเธอฟุ่มเฟือยไม่เห็นคุณค่า แต่เป็นอาการแสดงความไม่พอใจ ที่เธอทำมาแต่เด็กๆ จากการโดนตามใจมากเกินไปนั่นเอง

    พอตัดเสร็จ เธอก็โยนทิ้งถังขยะ แล้วนอนลงกับเตียง ก่อนจะเริ่มคิดแผนการ....

    ...

    “นี่ อย่ามาทำหน้าหงิกหน้างอนะตากร แม่ไม่ชอบ” คุณขนิษฐา ตำหนิลูกชายของเธอที่ทำหน้าบูดบอกบุญไม่รับอยู่ข้างๆ

    “แม่ครับ...ผมว่า แม่อย่าจับคู่แบบนี้เลยนะครับ”

    “ทำไม ตากร แม่ไม่ได้เอาแต่ใจนะลูก นี่เป็นคำขอของปู่ของหนูดาว ซึ่งก็เป็นเพื่อนกับปู่เรานะลูก ถ้าคุณปู่รู้ว่าลูกทำแบบนี้กับคุณปู่หนูดาว คุณปู่คงนอนตายตาไม่หลับ”

    “ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ แต่...ผมไม่อยากให้เราบังคับกัน...ผมว่าน้องดาวคงไม่ยอมแน่ๆ”

    “ไม่ต้องมาพูดเลย ตากร แม่รู้นะว่าแกคิดอะไรอยู่ แกไม่อยากแต่งเพราะยัยแหม่มอเมริกานั่นใช่มั้ย” ผู้เป็นแม่ขึ้นเสียงกับลูกชายอย่างรู้ทัน

    “มันก็ใช่...แต่” กรพูดไม่ออก

    รถเคลื่อนมาถึงบ้านหลังใหญ่ที่เป็นจุดหมาย คนรับใช้ในบ้านรีบมาเปิดประตูต้อนรับ คนขับรถขับเข้าไปในบ้านอย่างช้าๆ

    “คุณพี่ สวัสดีค่ะ” คุณหญิงรีบออกจากบ้านมาทักทายกับแขกที่รอคอย

    “ค่ะ...นี่ ตากร ไหว้คุณน้าสิลูก”

    “สวัสดีครับ” กรไหว้อย่างนอบน้อม

    “อุ๊ย ตากรโตเป็นหนุ่มขนาดนี้แล้วเหรอเนี่ย หล่อดูดีจริงๆ จบอะไรมานะลูก” คุณหญิงมองชายหนุ่มอย่างเอ็นดู

    “จบปริญญาโทบริหารธุรกิจครับ ตอนแรกกะจะเรียนเอก แต่คุณพ่อท่านให้กลับมาดูแลบริษัท”

    “แค่นี้ก็เก่งแล้วจ๊ะ เข้าไปในบ้านกันนะ หนูดาวคงอยากเจอจะแย่แล้ว” คุณหญิงปดออกมาเพื่อให้ดูดี ทั้งๆที่ร้อนใจที่ลูกสาวยังไม่ลงมาจากห้องเสียที

    ตื๊ด........

    “เดี๋ยวตามเข้าไปนะครับ” กรรีบบอกกับแม่และคุณหญิง เมื่อเห็นชื่อคนที่โทรเข้ามา

    “จ้ะ แล้วรีบๆตามเข้ามานะ” คุณขนิษฐาพูดไปก็มองลูกชายอย่างรู้ทัน แต่ก็วางฟอร์มเดินตามคุณหญิงเข้าไปในบ้าน

    กรเดินไปคุยโทรศัพท์ตรงใกล้ๆรั้วบ้าน

    “ฮัลโหล โรส ทำไมโทรมาตอนนี้ล่ะ”

    “ทำไมคะ โรสโทรมาหาไม่ได้เหรอ” สาวลูกครึ่งเอ่ยด้วยสำเนียงแปร่งๆ

    “ไม่ใช่ แต่พี่สงสัย นี่ก็พึ่งจะตี 5 เองนี่ ที่นั่นน่ะ”

    “โรสยังไม่ได้นอนเลยค่ะ”

    “อ้าว ทำไมล่ะ”

    “ก็โรสอ่านหนังสือทั้งคืนเลย กลัวสอบไม่ผ่าน แล้วจะไม่ได้บินกลับไปหาพี่กรไงคะ” โรสทำงัวเงีย

    “อ่านหนังสือ หรือพึ่งกลับจากเที่ยว”

    “อ่านค่ะ”

    “งั้นโรสก็พักบ้างนะ อย่าหักโหมเกินไป”

    “ก็นี่ไงคะ ถึงโทรมาหาพี่กร แต่..พี่กรก็ตัดเยื่อใยโรส” หญิงสาวพูดอย่างน้อยใจ

    “ไม่ใช่จ้ะ คือ..พี่ติดธุระอยู่นะ”

    “ธุระอะไรคะ หรือไปดินเนอร์กับสาวๆ”

    “เออ..ไม่ใช่จ้ะ โรสก็รู้ ว่าพี่ไม่ทำอะไรแบบนั้น”

    “โรสก็ล้อเล่นน่ะค่ะ งั้นพี่กรไปทำธุระเถอะค่ะ โรสจะนอนสักงีบ”

    “งั้นฝันดีนะครับ”

    “ค่ะ จะฝันถึงพี่กรด้วย จุ๊บ” หญิงสาวส่งจุมพิตข้ามประเทศมาให้

    “โอ๊ย ทำไงดีวะ” กรพึมพำกับการแกปัญหาที่ยังตัน

    กรมองไปรอบๆเผื่อจะรู้สึกดีขึ้นบ้าง ทันใดนั้นเขาก็เห็นการเคลื่อนไหวตรงรั้ว

    ใครบางคนกำลังปีนออกไป กรมองรอบๆไม่มีใครอยู่อีกเลย เขาเลยวิ่งไปดู

    “นี่ เธอจะทำอะไรน่ะ ขโมยเหรอ” เขาเอ่ยถามบุคคลในชุดทะมัดทะแมง ดูไม่ออกว่าชายหรือหญิงกันแน่

    ใครคนนั้นตกใจนิดหน่อย แต่ไม่หันมามองเขา พยายามจะปีนข้ามไป เหลือขาอีกข้าง

    “อย่าหนีนะ ฉันจะให้คนในบ้านมาจับเธอ” กรขู่ออกไป พร้อมกับดึงขาเอาไว้

    “อ๊าย ปล่อยนะ ปล่อย ไอ้บ้า ไอ้ผีทะเล” หญิงสาวร้องกรี๊ดเบาๆ แล้วถีบเข้าที่ตัวเขาเต็มๆ แล้วก็ลงกำแพงไปได้

    “เฮ้ย” กรล้มลงกับพื้น ก่อนจะรีบวิ่งมาดูที่ประตู ก็ไม่เห็นแล้ว...

    “อะไรเหรอคะ” คนรับใช้วิ่งออกมาถาม

    “ฮะ..เปล่า” กรปดออกไป ก่อนจะเดินเข้าบ้านด้วยความงงๆ แต่ตอนนี้เขาคิดว่าเธอคงไม่ใช่ขโมยแน่ๆ

    กรเข้ามานั่งในโต๊ะอาหารที่จัดไว้สำหรับสี่คน โดยคนที่สี่....ยังไม่มา

    “นี่ แจ่ม ไปตามดาวซิ ทำไมแต่งตัวช้าจัง” คุณหญิงสั่งคนรับใช้

    คนรับใช้วิ่งปรู้ดขึ้นไปโดยเร็ว

    “ลูกคนนี้ สงสัยคงจะอายน่ะค่ะ หรือไม่ก็กลัวไม่สวย” คุณหญิงหัวเราะกลบความกังวล

    สักพัก คนรับใช้ก็วิ่งลงมาหน้าตาตื่น ดูท่าทางตกใจลนลาน

    “เป็นอะไรนังแจ่ม ทำท่าเหมือนเจอผี ลูกฉันล่ะ” คุณหญิงรีบถาม

    “คือ..”

    “อะไร พูดติดอ่างอยู่ได้”

    “ก็...หนูไม่กล้าพูด”

    “อะไรของแก บอกมาสิ จะอ้ำอึ้งอะไรอยู่”

    “หนูขอกระซิบได้มั้ยคะ”

    คุณหญิงมองหน้าคนรับใช้ แล้วหันมามองแขกทั้งสองคน ก่อนจะยิ้มแหยๆ ในใจเริ่มจะกลัวๆแล้ว

    “คนใช้บ้านนี้ก็แบบนี้ล่ะค่ะ ชอบทำอะไรแปลกๆ อ่ะมีอะไรก็กระซิบมา”

    แจ่มรีบไปข้างๆหูเจ้านาย แล้วรายงานอย่างเร็ว

    “คุณดาวหนีไปแล้วค่ะ ชุดที่เตรียมให้ก็โดนตัดขาดกระจุยเลย”

    “ฮะ” คุณหญิงญาดาร้องออกมาอย่างตกใจ

    “มีอะไรเหรอคะ” คุณขนิษฐาถามอย่างสงสัย

    “คือ...หนูดาว..เอ่อป่วยน่ะค่ะ คงจะมาตกลงเรื่องนั้นกันไม่ได้แล้ว” คุณหญิงรีบแก้สถานการณ์

    “ป่วยหรือหายตัวไปกันแน่ครับ” กรที่พอจะเข้าใจเรื่องพูดพึมพำ

    “ว่าไงนะจ๊ะ” คุณหญิงหันไปหาว่าที่เขย

    “เปล่าครับ ไม่มีอะไร”

    “งั้น เราทานกันเสร็จแล้ว ขอพี่กับตากรไปเยี่ยมหนูดาวนะจ๊ะ” คุณขนิษฐาเสนอขึ้น

    “อย่าเลยค่ะ ลูกดาวไม่ชอบให้ใครเห็นตอนโทรมๆน่ะค่ะ ไว้โอกาสหน้าแล้วกันนะคะ งานวันเกิดท่านรองนายกฯวันมะรืนไงคะ คงได้มีโอกาสพูดคุยกัน”

    “ค่ะ งั้น ก็ทานกันเถอะนะคะ อาหารน่าทานทั้งนั้นเลย”

    “เชิญเลยค่ะ ตากรทานเยอะๆนะจ๊ะ” คุณหญิงยิ้มสู้ ทั้งๆที่ในใจทั้งแค้นทั้งอึ้งกับการกระทำของลูกสาวตัวดี

    ...

    ดาวนั่งรถแท็กซี่ไปหาเคนที่คอนโด ด้วยอาการไม่พอใจอย่างยิ่ง

    ทั้งเรื่องที่จะโดนจับแต่งกับใครไม่รู้ ยังไม่พอ พอจะหนียังไม่รู้โดนไอ้บ้าที่ไหนมาดึงขาไว้ แต่ก็ยังดีที่เธอได้ถีบหัวแก้แค้นไปแล้ว...

    ดาวจ่ายค่ารถแท็กซี่ เมื่อมาถึงคอนโดที่คุ้นเคย...

    “แกล้งกันอีกรึไง” ดาวบ่นพึมพำ เมื่อทั้งกดออดทั้งเคาะ แฟนหนุ่มก็ไม่มาเปิดประตู

    ดาวเลยตัดสินใจไขกุญแจเข้าไปเองอีกครั้ง

    แล้วก็พบแต่ความว่างเปล่า เธอเดินหาทั่วทุกส่วน ก็ไม่เจอเลย จนเธอชักจะโมโหแบบไม่มีสาเหตุ

    “อะไรกัน ไหนบอกเมื่อยไม่มีแรง...” ดาวพึมพำแล้วหยิบโทรศัพท์มากดหา

    “ปิดเครื่อง อ๊าย อะไรเนี่ย บ้าที่สุด” ดาวแทบจะขว้างมือถือทิ้ง

    “โทรหายัยแอนดีกว่า...” ดาวเปลี่ยนใจไปโทรหาเพื่อนสาวคนสนิท แต่ผลลัพธ์ออกมาเหมือนกัน

    “อะไรเนี่ย ไปไหนกันหมด ไปเที่ยวคนเดียวก็ได้”

    ...

    ดาวนั่งรถไปลงที่ผับใจกลางเมือง ซึ่งเป็นที่ที่เธอมาเป็นประจำ ไม่ว่าจะมากับเพื่อนหรือแฟน

    ดาวเดินดุ่มๆเข้าไปแบบไม่สนใจใคร แต่สายตาเธอต้องสะดุดตากับคู่ที่เดินสวนเธอไป...

    ดาวหันกลับไปมอง ก็หายออกจากร้านไปแล้ว เธอเลยวิ่งตามออกไปดูก็ไม่เจอแล้ว

    “คงบ้าไปเอง เคนกับยัยแอนจะมาด้วยกันได้ไงเนอะ” ดาวพูดกับตัวเอง

    “ขอไวน์แดงขวดค่ะ” ดาวนั่งลงที่บาร์ก่อนจะสั่งเครื่องดื่มกับพนักงาน

    พอได้มา เธอก็ดื่มแบบไม่สนใจว่าจะเมาหรือไม่....

    ดาวดื่มไปมากพอสมควร จนกระทั่งมีผู้ชายสองคนมานั่งประกบเธอ

    “น้องสาว.....ทานคนเดียวไม่เหงาหรือจ๊ะ” ผู้ชายเคราแพะพูดกับเธอ

    “ไม่เหงาค่ะ อยากอยู่เงียบๆ คงฟังเข้าใจนะคะ”

    “เอ๊ะ พูดด้วยดีๆนะครับ”

    “ใครอยากพูดด้วยมิทราบ”

    “วอนซะแล้ว...อย่าทำปากเก่งนักเลย”

    “เฮ้ย จะมากไปแล้วนะ” ดาวลุกขึ้นวีนใส่

    “พูดเสียงดังแบบนี้ จะโก่งค่าตัวรึไง”

    “มีเรื่องอะไรกันครับ” พนักงานเข้ามาเคลียร์ พวกนั้นเลยล่าถอยไป

    “เฮอะ...ซวยชะมัด ทำไมเจอแต่เรื่องบ้าๆนะ” ดาวบ่นพึมพำ ก่อนจะรีบเรียกแท็กซี่ไปส่งที่บ้าน

    ...

    ดาวกลับมาบ้านโดยที่ลืมเรื่องที่หนีออกไปโดยสิ้นเชิง แต่พอเห็นหน้าของแม่ ความทรงจำทั้งหมดก็ไหลกลับเข้ามาโดยอัตโนมัติ

    “ไปไหนมา” คุณหญิงญาดาถามเสียงแข็ง หน้าตาถมึงทึงด้วยความโกรธ

    “หนูขอตัวนะคะ ง่วง”

    “ไม่ได้ แกจะไปไหนไม่ได้” คุณหญิงจับแขนลูกสาวเอาไว้

    “ปล่อยนะคะแม่”

    “ทำไมฉันจับแกไว้ไม่ได้เลยรึไง”

    “ทำไมแม่ชอบบังคับหนูคะ”

    “แม่คิดแต่จะให้แกได้สิ่งดีๆ”

    “โดยการหาสามีให้ลูกหรือคะ”

    “แกน่ะมันปีกกล้าขาแข็ง ฉันหาคนดีๆมาให้ แกก็ชิ่งหนีออกจากบ้าน ไม่คิดถึงจิตใจฉันบ้างเลยเหรอ ฉันแทบจะแก้ตัวไม่ได้ ดีนะที่เขาไม่รู้ ถ้ารู้..แกเคยคิดมั้ยว่าฉันจะเสียหน้าแค่ไหน”

    “แล้วแม่รู้บ้างมั้ยคะ ว่าหนูจะรู้สึกยังไง”

    “ดาว...แม่หวังดีนะลูก”

    “แต่หนูมีแฟนแล้ว แม่ก็รู้นี่คะ หนูมีเคน”

    “เคน...ไอ้ตากล้องจนๆนั่นเหรอ”

    “หนูยอมอยู่กับเขาค่ะ หนูไม่ได้อยากร่ำรวยซักนิด”

    “เรื่องนั้นไว้ก่อน แล้วนี่ล่ะ ชุด แกตัดจนขาดหมด แกทำลงไปได้ยังไง” คุณหญิงชูชุดขาดวิ่นให้ลูกสาวดู

    “เท่าไหร่ล่ะคะ หนูจะจ่ายให้แม่”

    “อย่ามาพูดจาแบบนี้นะดาว ลูกรู้มั้ย ว่านี่เป็นคำขอของคุณปู่ แกจะทำให้ท่านได้สบายใจได้มั้ย แกอยากให้คุณปู่อาการทรุดลงอีกเหรอ”

    “คุณปู่...” ดาวอึ้งไป เมื่อรู้ถึงความจริงข้อนี้

    “ยังไงหนูก็ไม่แต่งค่ะ ใครไม่รู้ หนูก็ไม่รู้จัก”

    “ไม่รู้จักเหรอ รู้จักสิ ก็ตากรที่ลูกยังเคยเล่นด้วยกับพี่เขาเลยตอนเด็กๆ”

    “ไอ้เด็กบ้าที่ชอบแกล้งหนู คนนั้นใช่มั้ยคะ นั่นล่ะหนูยิ่งเกลียด”

    “ดาว ก็หนูไม่ใช่เหรอ ที่ไปแกล้งเขาก่อน” ผู้เป็นแม่รื้อฟื้นความทรงจำให้ลูก

    “ใช่สิคะ หนูมันแย่นี่ อะไรก็หนูผิด งั้นก็อย่ายกคนอย่างหนูให้ผู้ชายแสนดีอย่างนั้นเลยค่ะ” ดาวเดินกระแทกเท้าขึ้นบันไดไป โดยไม่สนใจผู้เป็นแม่อีก

    “โอ๊ย ฉันจะเป็นลม” คุณหญิงส่ายหัวไปมาอย่างเอือมระอา

    ...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×