ลำดับตอนที่ #16
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : ความแตก
นับจากวันนั้นกริมจอว์ก็ออกไปพบกับอิจิโกะบ่อยขึ้นทุกที
ถึงจะมีส่วนดีเพียงเรื่องเดียวที่เค้าทำก็คือบอกว่าเค้าตะไปไหนแต่ไม่ได้บอกว่าไปทำอะไร
ร่างบางนั้นก็อนุญาตทุกครั้งโดยไม่ได้ซักถามแต่อย่างใดกริมจอว์เองก็ไม่กล้าพอที่จะบอกเหมือนกัน
ตอนนี้ไม่รู้ใจตัวเองจริงๆว่าเค้ารักอิจิโกะมากแค่ไหนหรือว่ารักจริงรึเปล่าก็ตอบไม่ได้
แต่เค้ารู้สึกดีทุกครั้งที่อยุ่กับอิจิโกะ รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
ความสัมพันธ์ของอารันคาร์และยมทูตพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
เด็กหนุ่มยอมรับกริมจอว์มากขึ้นจากที่เคยกลัวกลายเป็นคุยกันแบบปกติธรรมาดา
เรื่องที่เกิดขึ้นอุลคิโอร่าไม่ได้รับรู้อะไรทั้งนั้น
จนถึงตอนนี้กริมจอว์ก็ยังคงไม่เข้าใจตัวของเค้าเองว่าตกลงตัวเองกำลังจะทำอะไรกับชีวิตของคนสองคนนี้กันแน่
ถึงเค้าจะคิดว่าตัวเค้าชอบอิจิโกะแต่ก็ยังไม่อาจลืมอุลคิโอร่าไปได้เลย
ในสายตาของอิจิโกะก็คงจะเห็นกริมจอว์เป้นแค่เพื่อนเท่านั้น
แต่หนุ่มผมดำนั้นต่างกัน ร่างบางที่นอนข้างๆเค้าทุกตืนนั้นยังรักเค้าในฐานะของคนรัก
ที่ไม่มีวันเปลี่ยนไปเพราะความไว้เนื้อเชื่อใจที่มีให้กับกริมจอว์นั้นมากที่สุดในโลก
ถึงจะไม่อยากทำแต่กริมจอว์ก็ใช้ข้อนี้เพื่อปดบังคามจริงกับอุลคิโอร่า
และเค้าเองก็รู้สึกผิดอย่างมากเมื่อต้องทำให้คนที่รักเค้าเหมือนคนโง่แบบนี้
ถึงจะรู้สึกผิดแต่ก็ยังคงใช้วิธีนี้อยู่เพราะเค้าทนไม่ไหวจริงๆ
อารันคาร์ลำดับที่ 6 ตีความเรื่องนี้ได้เพียงอย่างเดียวก็คือเค้ากำลังจับปลา 2 มือ
" ข้าถามอะไรเจ้าอย่างนึงได้รึเปล่า อุลคิโอร่า " กริมจอว์เอ่ยปากออกมาในตอนที่เค้ากำลังนั่งมองร่างเล็กๆกำลังแต่งตัว
" เอาซิ ตอบได้ข้าก็จะตอบเจ้า " อุลคิโอร่าตอบรับในขณะที่มือขาวกำลังรูดซิปเสื้อคลุมขาว
" ถ้าเกิดข้านอกใจเจ้าขึ้นมาจะทำยังไง " ร่างสูงเอ่ยถามออกมาในที่สุดหลังจากที่คิดว่าจะลองถามมานาน
" ทำไมเจ้าต้องถามอะไรแบบนี้กับข้าด้วยเล่า " อุลคิโอร่าไม่ยอมตอบเรียวปากสวยแย้มิย้มเหมือนมันเป็นเรื่องตลก
" นี่ข้าซีเรียสนะ ตอบข้าเถอะ ขอร้อง " หนุ่มร่างสูงพูดเสียงเข้ม
บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเมื่อหนุ่มผมดำทำท่าทางครุ่นคิด
" ข้าคิดไม่ออกหรอกนะ " คำตอบนั้นทำให้กริมจอว์ตกใจแทบตายกับคำตอบง่ายๆแบบนี้
" เจ้าหมายความว่ายังไง " กริมจอว์ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับอุลคิโอร่า
ที่ยิ้มน้อยๆให้เค้าก่อนจะยกมือกร้านนั้นขึ้นมาประคองไว้ในมือเล็กๆของตัวเอง
" ที่ข้าคิดไม่ออกเพราะข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะทิ้งข้าไปน่ะซิ " อุลคิโอร่าบีบมือนั้นเบาๆก่อนจะเดินออกไปจากห้องทิ้งให้กริมจอว์อยู่คนเดียว
เจ้าของร่างสูงใหญ่เมื่อได้ยินคำที่หนุ่มร่างบางพูดก่อนจะออกไป
ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นกับเค้าก็คือความรู้สึกผิดในความงี่เง่าที่ไม่น่าให้อภยของตัวเค้าเอง
และต่อจากนั้นก็ตามาด้วยความคิดที่ว่าเค้าดีพอสำหรับคนอย่างอุลคิโอร่าอย่างนั้นเหรอ
คืนนี้เค้าก็ยังคงไปเดินเล่นกับคุโรซากิ อิจิโกะ
" กริมจอว์นายสบายดีรึเปล่า ดูไม่เลยนะ " เด็กหนุ่มอดถามขึ้นมาไม่ได้
เมื่อเห็นท่าทางของคนข้างๆเหมือนกำลังเศร้าและเหม่อลอยไปไกล
" เปล่านี่ไม่มีอะไร " ร่างสูงปฏเศธอย่างใจลอยไม่มองแม้กระทั่งหน้าคนถาม
" ชั้นไม่เชื่อหรอกน่า เล่าให้ชั้นฟังก็ได้นี่นาเราเป็นเพื่อนไม่ใช่เหรอ "
คำว่าเพื่อนมันกระทบเข้าไปในโสตประสาทรับรู้ของอารันคาร์หนุ่ม
ความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวอุลคิโอร่าดูเหมือนจะหายไปหมด
เมื่อกริมจอว์หยุดเดินกระทันหนัก็เป็นธรรมดาที่เด็กหนุ่มม.ปลายก็ต้องหยุดยืนมองคนที่หยุดเดิน
อิจิโกะขมวดคิ้วอย่างสงสัยกับท่าทางแปลกๆของกริมจอว์ในวันนี้
" เพื่อนอย่างนั้นเหรอ " หนุ่มชุดคลุมขาวเอ่ยถามเบาๆ
คนถูกถามก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย " ใช่ไง นายเป็นเพื่อนชั้น....... "
" ข้าไม่ต้องการความเป็นเพื่อนจากเจ้า !! "
อารันคาร์หนุ่มโพลงขึ้นมากลบเสียงพูดของอิจิโกะจนหมดสิ้น
มือแกร่งคว้าข้อมือเล็กของอิจิโกะมาบีบไว้อย่างแรงไม่ยอมปล่อย
" นี่นายจะทำอะไร ชั้นเจ็บนะกริมจอว์ "เด็กหนุ่มร้องครวญพยายามจะสะบัดมือออกจากการเกาะกุม
แต่เค้าก็สู้แรงของกริมจอว์ไม่ได้เลยซักนิดเดียว
ดวงตาสีน้ำตาลจ้องสบกับตาสี้นั้นเริ่มฉายประกายของความกลัวออกมา
อิจิโกะคิดอย่างไม่สบายใจอย่างโมโหตัวเค้าเองที่ยอมไปเป็นเพื่อนกับศัตรูตรงนห้า
" ข้าชอบเจ้าอิจิโกะ " กริมจอว์เอ่ยประโยคนั้นออกมาจากปากในที่สุด
แขนข้างที่ยังว่างอยู่ดึงอิจิโกะมาโอบเอวไว้หลวมๆ
คำสารภาพที่ไม่รู้ว่ามันมาจากอารมณืชั่ววูบหรือเปล่าหรือว่าจะมาจากความรู้สึกจริงๆในใจ
และกริมจอว์ก็แน่ใจว่าเป็นในกรณีแรกเพราะเค้าบอกว่า " ชอบ "
ไม่ได้บอกว่า " รัก "
แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วตอนนี้เพราะมันหลุดปากออกไปแล้ว รอเพียงแต่คำตอบจากอิจิโกะเท่านั้นเอง
เด็กหนุ่มถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูกไปเลยเมื่อกริมจอว์มาทำแบบนี้กับเค้า
หนุ่มผมสีส้มไม่รูว่าจะทำยังไงดีอารันคาร์เป็นเพื่อนกับยมทูตก็ดูไม่สู้ดีเท่าไหร่อยู่แล้ว
แต่นี่อารันคาร์ลำดับสูงถึงลำดับที่ 6 กลับมาแอบชอบศัตรูนั้นยิ่งแล้วใหญ่
" นะ......นายจะบ้ารึยังไงกัน ชั้นเป็นยมทูตนายเป็นอารันคาร์ไม่มีทางหรอกน่า !! "
อิจิโกะตวาดลั่นและพยายามดันตัวออกห่างจากคนที่กำลังโอบเอวเค้าเอาไว้
แต่ร่างสูงนั้นก็กลับยิ่งโอบรัดแน่นขึนไปอีก ถ้าไม่ยอมปฏิเสธหรือว่าตอบรับเค้าไม่ปล่อยแน่นอน
" เจ้ารู้สึกยังไงกับข้าอิจิโกะ ตอบข้ามา " หนุ่มผมฟ้าเค้นคำตอบ
ร่างบางหลบสายตาที่มองมที่เค้าอย่างเฝ้ารอ
ตอนนี้เด็กหนุ่มรู้สึกลำบากใจยิ่งกว่าครั้งที่เค้าต้องไปเดินเป็นเพื่อนกริมจอว์ครั้งแรกซะอีก
" ไม่รู้!! ปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้ ! " อิจิโกะไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี คิดออกเพียงสิ่งเดียวคือต้องหนีไปให้ไกลเท่านั้น
" ข้าไม่ให้เจ้ากลับไปหรอกถ้าเจ้าไม่พูดกับข้าให้รู้เรื่องก็อย่าหวังว่าข้าจะปล่อย "
กริมจอว์ยังไม่ยอมยังคงดึงดันจะรอฟังคำตอบของอิจิโกะ
" ไปให้พ้น !! " อิจโกะใชแรงทั้งหมดที่มีดันตัวออกจากอ้อมแขนนั้น
อั่ก!!!............................
กำปั้นนั้นถูกชกออกไปสุดแรงที่มีไปยังใบหน้าของร่างสูงอย่างแรงจนหนุ่มผมฟ้าหน้าหัน
เด็กหนุ่มมองกริมจอว์ที่ลูบแก้มที่เขียวช้ำเบาๆก่อนที่ขาจะขยับ
และออกวิ่งโดยที่ไม่หันกลับมามองเลย ......นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย .......
อิจิโกะคิดอย่างสับสน ไม่เข้าใจว่านี่มันเรื่องอะไรกันที่เรื่องแบบนี้จะมาเกิดกับเค้า
ทางด้านกริมจอว์ที่ถูกอิจิโกะทิ้งเอาไว้ก็มองตามไปในขณะที่อิจิโกะกำลังวิ่งหนีโดยไม่คิดที่จะตาม
ก่อนที่ตัวเค้าเองจะกลับไปเหมือนกัน กลับไปนั่งคิดถึงความผิดพลาดของตัวเค้าเองที่พูดอะไรบ้าๆออกไป
เมื่อกลับมาถึงที่ห้องภาระความเดือดร้อนทั้งหมดก็อยู่กับอุลคิโอร่า
ที่ต้องมานั่งดูแลทำแผลให้กับกริมจอว์ที่โดนอิจิโกะชกมา
" ไปต่อยกับพวกมนุษย์สวะมารึยังไงกริมจอว์ เจ้านี่จริงๆเลยให้ตายเถอะ "ร่างบางบ่นเสียงจขุ่นเคือง
มือสวยเอาน้ำแข็งที่อุตส่าไปเอามาจากโลกมนุษย์ประคบตอนที่เค้าเห็นว่ากริมจอว์หน้าเขียวกลับมา
" เออ ถูกพวกมนุษย์ต่อยมา "ร่างสูงตอบตามความจริงไม่ได้โกหกอะไรเลย
เพราะว่าเค้าถูกมนุษย์ต่อยหน้ามาจริงๆ
หนุ่มผิวซีดสายหัวเบาๆอย่างระอาใจในตัวคนตรงหน้า ชอบหาเรื่องเจ็บตัวจริงๆ
จากเหตุการณ์ในคืนที่ผ่านมาทำให้กริมจอว์ไม่อยากไปพบหน้าอิจิโกะขึ้นมายังไงไม่รู้
ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับคำตอบของยมทูตหนุ่มคนนั้น
เค้าไม่รู้ว่าจะทำยังไงถ้าอิจิโกะตอบรับเค้า
ไม่รู้ว่าจำยังไงเมื่อถูกปฏิเสธ
หนุ่มผมสีฟ้านั่งคิดอย่างเศร้าใจในขณะที่อุลคิโอร่ากำลังจัดที่นอนอยู่
........ถ้าอิจิโกะไม่ตอบรับเราแล้วเราจะได้กลับมารักอุลคิโอร่าคนเดียวอีกหรือเปล่านะ
หรือว่าจะสติแตกไปเลยจนลืมไปว่าเรายังมีคนที่รักเรามากอยู่...........
ระหว่างีท่นั่งคิดเค้าก็ยิ้มตอบให้กับร่างบางีท่หันมายิ้มให้เค้าอย่างอารมณ์ดี
ทั้งๆที่หนุ่มผมฟ้านั้นรู้สึกกับตัวเองแต่เพียงว่ารู้สึกแย่กับตัวเองเป็นที่สุด
ทางด้านอิจิโกะเองหลังจากที่กริมจอว์มาบอกว่าขอบเค้า เด็กหนุ่มก็กลายเป็นเห่มอลยอขึ้นมา
" คุโรซากิคุง.........คุโรซากิคู้ง!!....... "
" อะ....อะไรเหรออิโนะอุเอะ "
หนุ่มผมสีส้มสะดุ้งเฮือกเมื่ออิโนะอุเอะ โอริฮิเมะตะโกนส่หูเค้าเพื่อเรียก
สติกลับมาอยุ่กับปัจจบันอีกครั้งด้วยความตกใจแทบจะตกเก้าอี้
" เป็นอะไรไปน่ะคุโรซากิคุงหมู่นี้ดูเหม่อๆนะ " เด็กสาวผมยามถามด้วยความเป็นห่วงเหมือนเดิม
"ปะ...เปล่านี่ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย " อิจิโกะแก้ตัวโดยอัตโนมัติเพื่อไม่ให้คนอื่นเป็นห่วง
" งั้น.......เหรอ " โอริฮิเมะไม่ได้เซ้าซี้อะไรโดยตอบรับเด็กหนุ่มทั้งๆที่รู้ว่าเค้าโกหก
ก่อนที่เธอจะกลับไปที่นั่งของเธอที่มีทัตสึกิยืนพิงโต๊ะรออยู่ สาวผมสั้นเองก้รู้สึกเหมือนเพื่อนของเธอว่าอิจิโกะไม่เหมือนเดิม
.......ชั้นรู้สึกยังไงกับนายกันแน่นะกริมจอว์........เด็กหนุ่มเท้าคางมองออกไปนอนกหน้าต่าง
พลางคิดทบทวนถึงเรื่องของหนุ่มผมฟ้าอารันคาร์คนนั้น
ครั้งแรกนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่น่าจดจำเอาซะเลย กริมจอว์ทำร้ายเค้าและทำร้ายเพื่อนเค้าจนเจ็บปางตาย
แต่พอไม่กี่วันหลังจากนั้นทำไมหมอนั่นถึงได้มาเดินตามเค้าแถมยังไม่ทำอะไรเค้าเลยอีกซึ่งตอนนี้เค้ารู้แล้วว่าทำไม
และตอนเจอกันครั้งล่าสุดก็มาบอกว่าชอบเค้าอีก ดูจกาท่าทางแล้วจริงจังมากเสียด้วย
อิจิโกะไม่รู้ว่าทำไมเค้าถึงยอมทำความรู้จักกับคน คนนั้นตั้งแต่แรกทั้งๆที่เป็นศัตรูกัน
จนถึงเวลานี้เด็กหนุ่มก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตนเองเลยซักนิดเดียว
เค้าไม่ได้เกลียดอะไรอารันคาร์ตนนั้นเลยกลับดีใจเสียด้วยซ้ำที่กริมจอว์มาบอกเค้าแบบนั้น
ถ้าเกิดเค้าตอบรับไปอิจิโกะจะต้องไปอยุ่ฝ่ายเดียวกับอารันคาร์หรือเปล่าก็ไม่รู้
เด็กหนุ่มไม่อยากจะไปอยุ่กับพวกคนเลวๆแบบนั้นถึงในสายตาของเค้าจะมีบกเว้นไว้คนนึงก็ตามที
ไม่ว่าจะทบทวนความรู้สึกของตัวเองกี่ครั้งก็ยังไม่มั่นใจ
" นี่คารินจังพี่อิจิเค้าเป็นอะไรไปเหรอดูเหม่อๆมาหลายวันแล้วนะ "
ยูซึหันไปถามฝาแฝดที่นั่งกินข้าวอยู่ข้างๆหางตามองอยู่ที่พี่ชาย
อิจิโกะกำลังเขี่ยอาหารเย็นในชามอย่างใจลอย ทั้งๆที่กินไปได้แค่นิดเดียวเท่านั้นเอง
" อิ่มแล้วครับ " เด็กหนุ่มเก็บจานที่ยังเหลืออยู่อีกเพียบแล้วเดินขึ้นชั้นบน
โดยมีสายตาที่มองตามไปอย่างสงสัยและเป็นห่วงของคนในครอบครัว
" ไม่รู้ซิ ยูซึ " คารินยักไหล่ปฏเสธก่อนจะหันไปสนใจข้าวของตัวเองอีกครั้ง
" แต่ป๋ารู้นะ ยูซึ !! " หัวหน้าครอบครัวโพล่งขึ้นจนลั่นบ้าน
" จริงเหรอค้า~~ งั้นพี่เค้าเป็นอะไรง่ะ " ลูกสาวคนเล็กถามด้วยความกระตือรือร้น
" ดูท่าทางแล้วลูกชายคนเดียวของป๋าคงจะไปแอบชอบสาวและหาวิธีบอกไม่ได้เป็นแน่แท้ "
อิชชินเดาไปโน่นแต่ก็พอจะใกล้เคียงความจริงไม่มากก็น้อยแต่ก็ทำให้ยูซึเริ่มคิดจริงจัง
" มัวไปได้จริงๆให้ตายซิ "คารินพึมพำอย่างระอากับคนในบ้าน ไม่ว่าจะยังไงก็อารมณ์ดีได้ตลอดเลย
อิจิโกะเปิดประตูเข้าไปในห้องของตัวเองที่ตอนนี้มืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไรเลย
" ข้ารอเจ้าอยู่นานแล้ว อิจิโกะ "
เจ้าของห้องรับหันไปมองที่มาของเสียงที่พูดขึ้นมาทันทีที่เด็กหนุ่มเปิดไฟ
อารันคาร์หนุ่มร่างสูงนั่งอยู่บนเตียงเล็กของอิจิโกะ
" กริมจอว์ "หนุ่มร่างบางเอ่ยเรียกชื่อผู้มาเยือนเบาๆ
" ใช่ข้าเอง ข้ามาฟังคำตอบ " เมื่อพบหน้ากันก็เจอประโยคถามหาคำตอบอย่างรวดเร็ว
เด็กหนุ่มเงียบกริบไม่รู้ว่าจะตอบอะไรออกไปดี
" ว่าไง ! " กริมจอว์เริ่มเสียงเข้มขึ้นมาลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าไปใกล้อิจิโกะ
" คะ....คือว่าชั้น.........ชั้น "ร่างบางอ้ำอึ้ง
" ตอบมาเร็วๆเข้า !! "แขนแกร่งจับข้อมือเล็กเอาไว้แน่นและดันจนไปติดกำแพง
" นะ....นายจะทำบ้าอะไรเนี่ย ! " อิจิโกะร้องอย่างตกใจ กริมจอวืที่น่ากลัวเหมือนครั้งแรกที่เจอกันกลับมาอีกแล้ว
ที่อารันคาร์หนุ่มรีบร้อนแบบนี้ไม่ใช่เพราะอะไรก็คือว่าแอบหนึอุลคิโอร่าออกมา
ถ้าคน คนนั้นถามมาล่ะก็ได้เรื่องแน่ๆ
" ชั้นก็ชอ............. "
" กริมจอว์ "
เด็กหนุ่มผมสีส้มที่กำลังจะตอบก็ต้องหยุดวะงักไปเมื่อได้ยินเสียงอีกเสียงหนึ่งที่มาจากทางหน้าต่าง
กริมจอว์เองก็ตกใจไม่แพ้กันร่างสูงรีบปล่อยมือิจิโกะ
หนุ่มผิวซีดยืนกำหมัดแน่นดวงตาคู่สวยจ้องมองมายังภาพอันร้ายกาจที่สุดเบื้องหน้า
" ทำ.....ทำไม....เจ้าถึง.........ทำกับข้าแบบนี้ " อุลคิโอร่าพูดเสียงสั่น
" ข้าเกลียดเจ้า !! " ร่างเล็กๆนั้นตะโกนลั่นก่อนจะรีบวิ่งออกไป
" เดี๋ยวก่อน อุลคิโอร่า!! " หนุ่ผมฟ้าร้องแต่ใครที่ไหนจะไปฟัง
ทำอะไรอีกไม่ได้ทั้งนั้นนอกจากวิ่งตามออกไป
อิจิโกะได้แต่ยืนนิ่งงันรู้สึกสะท้านไปทั้งร่าง รู้สึกเจ็บใจอย่างบอกไม่ถูก ............นี่มัน...หมายความว่ายังไงกัน..........
.............................
ถึงจะมีส่วนดีเพียงเรื่องเดียวที่เค้าทำก็คือบอกว่าเค้าตะไปไหนแต่ไม่ได้บอกว่าไปทำอะไร
ร่างบางนั้นก็อนุญาตทุกครั้งโดยไม่ได้ซักถามแต่อย่างใดกริมจอว์เองก็ไม่กล้าพอที่จะบอกเหมือนกัน
ตอนนี้ไม่รู้ใจตัวเองจริงๆว่าเค้ารักอิจิโกะมากแค่ไหนหรือว่ารักจริงรึเปล่าก็ตอบไม่ได้
แต่เค้ารู้สึกดีทุกครั้งที่อยุ่กับอิจิโกะ รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
ความสัมพันธ์ของอารันคาร์และยมทูตพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
เด็กหนุ่มยอมรับกริมจอว์มากขึ้นจากที่เคยกลัวกลายเป็นคุยกันแบบปกติธรรมาดา
เรื่องที่เกิดขึ้นอุลคิโอร่าไม่ได้รับรู้อะไรทั้งนั้น
จนถึงตอนนี้กริมจอว์ก็ยังคงไม่เข้าใจตัวของเค้าเองว่าตกลงตัวเองกำลังจะทำอะไรกับชีวิตของคนสองคนนี้กันแน่
ถึงเค้าจะคิดว่าตัวเค้าชอบอิจิโกะแต่ก็ยังไม่อาจลืมอุลคิโอร่าไปได้เลย
ในสายตาของอิจิโกะก็คงจะเห็นกริมจอว์เป้นแค่เพื่อนเท่านั้น
แต่หนุ่มผมดำนั้นต่างกัน ร่างบางที่นอนข้างๆเค้าทุกตืนนั้นยังรักเค้าในฐานะของคนรัก
ที่ไม่มีวันเปลี่ยนไปเพราะความไว้เนื้อเชื่อใจที่มีให้กับกริมจอว์นั้นมากที่สุดในโลก
ถึงจะไม่อยากทำแต่กริมจอว์ก็ใช้ข้อนี้เพื่อปดบังคามจริงกับอุลคิโอร่า
และเค้าเองก็รู้สึกผิดอย่างมากเมื่อต้องทำให้คนที่รักเค้าเหมือนคนโง่แบบนี้
ถึงจะรู้สึกผิดแต่ก็ยังคงใช้วิธีนี้อยู่เพราะเค้าทนไม่ไหวจริงๆ
อารันคาร์ลำดับที่ 6 ตีความเรื่องนี้ได้เพียงอย่างเดียวก็คือเค้ากำลังจับปลา 2 มือ
" ข้าถามอะไรเจ้าอย่างนึงได้รึเปล่า อุลคิโอร่า " กริมจอว์เอ่ยปากออกมาในตอนที่เค้ากำลังนั่งมองร่างเล็กๆกำลังแต่งตัว
" เอาซิ ตอบได้ข้าก็จะตอบเจ้า " อุลคิโอร่าตอบรับในขณะที่มือขาวกำลังรูดซิปเสื้อคลุมขาว
" ถ้าเกิดข้านอกใจเจ้าขึ้นมาจะทำยังไง " ร่างสูงเอ่ยถามออกมาในที่สุดหลังจากที่คิดว่าจะลองถามมานาน
" ทำไมเจ้าต้องถามอะไรแบบนี้กับข้าด้วยเล่า " อุลคิโอร่าไม่ยอมตอบเรียวปากสวยแย้มิย้มเหมือนมันเป็นเรื่องตลก
" นี่ข้าซีเรียสนะ ตอบข้าเถอะ ขอร้อง " หนุ่มร่างสูงพูดเสียงเข้ม
บรรยากาศตึงเครียดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเมื่อหนุ่มผมดำทำท่าทางครุ่นคิด
" ข้าคิดไม่ออกหรอกนะ " คำตอบนั้นทำให้กริมจอว์ตกใจแทบตายกับคำตอบง่ายๆแบบนี้
" เจ้าหมายความว่ายังไง " กริมจอว์ลุกขึ้นเผชิญหน้ากับอุลคิโอร่า
ที่ยิ้มน้อยๆให้เค้าก่อนจะยกมือกร้านนั้นขึ้นมาประคองไว้ในมือเล็กๆของตัวเอง
" ที่ข้าคิดไม่ออกเพราะข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะทิ้งข้าไปน่ะซิ " อุลคิโอร่าบีบมือนั้นเบาๆก่อนจะเดินออกไปจากห้องทิ้งให้กริมจอว์อยู่คนเดียว
เจ้าของร่างสูงใหญ่เมื่อได้ยินคำที่หนุ่มร่างบางพูดก่อนจะออกไป
ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นกับเค้าก็คือความรู้สึกผิดในความงี่เง่าที่ไม่น่าให้อภยของตัวเค้าเอง
และต่อจากนั้นก็ตามาด้วยความคิดที่ว่าเค้าดีพอสำหรับคนอย่างอุลคิโอร่าอย่างนั้นเหรอ
คืนนี้เค้าก็ยังคงไปเดินเล่นกับคุโรซากิ อิจิโกะ
" กริมจอว์นายสบายดีรึเปล่า ดูไม่เลยนะ " เด็กหนุ่มอดถามขึ้นมาไม่ได้
เมื่อเห็นท่าทางของคนข้างๆเหมือนกำลังเศร้าและเหม่อลอยไปไกล
" เปล่านี่ไม่มีอะไร " ร่างสูงปฏเศธอย่างใจลอยไม่มองแม้กระทั่งหน้าคนถาม
" ชั้นไม่เชื่อหรอกน่า เล่าให้ชั้นฟังก็ได้นี่นาเราเป็นเพื่อนไม่ใช่เหรอ "
คำว่าเพื่อนมันกระทบเข้าไปในโสตประสาทรับรู้ของอารันคาร์หนุ่ม
ความรู้สึกนึกคิดเกี่ยวอุลคิโอร่าดูเหมือนจะหายไปหมด
เมื่อกริมจอว์หยุดเดินกระทันหนัก็เป็นธรรมดาที่เด็กหนุ่มม.ปลายก็ต้องหยุดยืนมองคนที่หยุดเดิน
อิจิโกะขมวดคิ้วอย่างสงสัยกับท่าทางแปลกๆของกริมจอว์ในวันนี้
" เพื่อนอย่างนั้นเหรอ " หนุ่มชุดคลุมขาวเอ่ยถามเบาๆ
คนถูกถามก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย " ใช่ไง นายเป็นเพื่อนชั้น....... "
" ข้าไม่ต้องการความเป็นเพื่อนจากเจ้า !! "
อารันคาร์หนุ่มโพลงขึ้นมากลบเสียงพูดของอิจิโกะจนหมดสิ้น
มือแกร่งคว้าข้อมือเล็กของอิจิโกะมาบีบไว้อย่างแรงไม่ยอมปล่อย
" นี่นายจะทำอะไร ชั้นเจ็บนะกริมจอว์ "เด็กหนุ่มร้องครวญพยายามจะสะบัดมือออกจากการเกาะกุม
แต่เค้าก็สู้แรงของกริมจอว์ไม่ได้เลยซักนิดเดียว
ดวงตาสีน้ำตาลจ้องสบกับตาสี้นั้นเริ่มฉายประกายของความกลัวออกมา
อิจิโกะคิดอย่างไม่สบายใจอย่างโมโหตัวเค้าเองที่ยอมไปเป็นเพื่อนกับศัตรูตรงนห้า
" ข้าชอบเจ้าอิจิโกะ " กริมจอว์เอ่ยประโยคนั้นออกมาจากปากในที่สุด
แขนข้างที่ยังว่างอยู่ดึงอิจิโกะมาโอบเอวไว้หลวมๆ
คำสารภาพที่ไม่รู้ว่ามันมาจากอารมณืชั่ววูบหรือเปล่าหรือว่าจะมาจากความรู้สึกจริงๆในใจ
และกริมจอว์ก็แน่ใจว่าเป็นในกรณีแรกเพราะเค้าบอกว่า " ชอบ "
ไม่ได้บอกว่า " รัก "
แต่ก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้วตอนนี้เพราะมันหลุดปากออกไปแล้ว รอเพียงแต่คำตอบจากอิจิโกะเท่านั้นเอง
เด็กหนุ่มถึงกับอึ้งทำอะไรไม่ถูกไปเลยเมื่อกริมจอว์มาทำแบบนี้กับเค้า
หนุ่มผมสีส้มไม่รูว่าจะทำยังไงดีอารันคาร์เป็นเพื่อนกับยมทูตก็ดูไม่สู้ดีเท่าไหร่อยู่แล้ว
แต่นี่อารันคาร์ลำดับสูงถึงลำดับที่ 6 กลับมาแอบชอบศัตรูนั้นยิ่งแล้วใหญ่
" นะ......นายจะบ้ารึยังไงกัน ชั้นเป็นยมทูตนายเป็นอารันคาร์ไม่มีทางหรอกน่า !! "
อิจิโกะตวาดลั่นและพยายามดันตัวออกห่างจากคนที่กำลังโอบเอวเค้าเอาไว้
แต่ร่างสูงนั้นก็กลับยิ่งโอบรัดแน่นขึนไปอีก ถ้าไม่ยอมปฏิเสธหรือว่าตอบรับเค้าไม่ปล่อยแน่นอน
" เจ้ารู้สึกยังไงกับข้าอิจิโกะ ตอบข้ามา " หนุ่มผมฟ้าเค้นคำตอบ
ร่างบางหลบสายตาที่มองมที่เค้าอย่างเฝ้ารอ
ตอนนี้เด็กหนุ่มรู้สึกลำบากใจยิ่งกว่าครั้งที่เค้าต้องไปเดินเป็นเพื่อนกริมจอว์ครั้งแรกซะอีก
" ไม่รู้!! ปล่อยชั้นเดี๋ยวนี้ ! " อิจิโกะไม่รู้ว่าจะตอบอะไรดี คิดออกเพียงสิ่งเดียวคือต้องหนีไปให้ไกลเท่านั้น
" ข้าไม่ให้เจ้ากลับไปหรอกถ้าเจ้าไม่พูดกับข้าให้รู้เรื่องก็อย่าหวังว่าข้าจะปล่อย "
กริมจอว์ยังไม่ยอมยังคงดึงดันจะรอฟังคำตอบของอิจิโกะ
" ไปให้พ้น !! " อิจโกะใชแรงทั้งหมดที่มีดันตัวออกจากอ้อมแขนนั้น
อั่ก!!!............................
กำปั้นนั้นถูกชกออกไปสุดแรงที่มีไปยังใบหน้าของร่างสูงอย่างแรงจนหนุ่มผมฟ้าหน้าหัน
เด็กหนุ่มมองกริมจอว์ที่ลูบแก้มที่เขียวช้ำเบาๆก่อนที่ขาจะขยับ
และออกวิ่งโดยที่ไม่หันกลับมามองเลย ......นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย .......
อิจิโกะคิดอย่างสับสน ไม่เข้าใจว่านี่มันเรื่องอะไรกันที่เรื่องแบบนี้จะมาเกิดกับเค้า
ทางด้านกริมจอว์ที่ถูกอิจิโกะทิ้งเอาไว้ก็มองตามไปในขณะที่อิจิโกะกำลังวิ่งหนีโดยไม่คิดที่จะตาม
ก่อนที่ตัวเค้าเองจะกลับไปเหมือนกัน กลับไปนั่งคิดถึงความผิดพลาดของตัวเค้าเองที่พูดอะไรบ้าๆออกไป
เมื่อกลับมาถึงที่ห้องภาระความเดือดร้อนทั้งหมดก็อยู่กับอุลคิโอร่า
ที่ต้องมานั่งดูแลทำแผลให้กับกริมจอว์ที่โดนอิจิโกะชกมา
" ไปต่อยกับพวกมนุษย์สวะมารึยังไงกริมจอว์ เจ้านี่จริงๆเลยให้ตายเถอะ "ร่างบางบ่นเสียงจขุ่นเคือง
มือสวยเอาน้ำแข็งที่อุตส่าไปเอามาจากโลกมนุษย์ประคบตอนที่เค้าเห็นว่ากริมจอว์หน้าเขียวกลับมา
" เออ ถูกพวกมนุษย์ต่อยมา "ร่างสูงตอบตามความจริงไม่ได้โกหกอะไรเลย
เพราะว่าเค้าถูกมนุษย์ต่อยหน้ามาจริงๆ
หนุ่มผิวซีดสายหัวเบาๆอย่างระอาใจในตัวคนตรงหน้า ชอบหาเรื่องเจ็บตัวจริงๆ
จากเหตุการณ์ในคืนที่ผ่านมาทำให้กริมจอว์ไม่อยากไปพบหน้าอิจิโกะขึ้นมายังไงไม่รู้
ไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับคำตอบของยมทูตหนุ่มคนนั้น
เค้าไม่รู้ว่าจะทำยังไงถ้าอิจิโกะตอบรับเค้า
ไม่รู้ว่าจำยังไงเมื่อถูกปฏิเสธ
หนุ่มผมสีฟ้านั่งคิดอย่างเศร้าใจในขณะที่อุลคิโอร่ากำลังจัดที่นอนอยู่
........ถ้าอิจิโกะไม่ตอบรับเราแล้วเราจะได้กลับมารักอุลคิโอร่าคนเดียวอีกหรือเปล่านะ
หรือว่าจะสติแตกไปเลยจนลืมไปว่าเรายังมีคนที่รักเรามากอยู่...........
ระหว่างีท่นั่งคิดเค้าก็ยิ้มตอบให้กับร่างบางีท่หันมายิ้มให้เค้าอย่างอารมณ์ดี
ทั้งๆที่หนุ่มผมฟ้านั้นรู้สึกกับตัวเองแต่เพียงว่ารู้สึกแย่กับตัวเองเป็นที่สุด
ทางด้านอิจิโกะเองหลังจากที่กริมจอว์มาบอกว่าขอบเค้า เด็กหนุ่มก็กลายเป็นเห่มอลยอขึ้นมา
" คุโรซากิคุง.........คุโรซากิคู้ง!!....... "
" อะ....อะไรเหรออิโนะอุเอะ "
หนุ่มผมสีส้มสะดุ้งเฮือกเมื่ออิโนะอุเอะ โอริฮิเมะตะโกนส่หูเค้าเพื่อเรียก
สติกลับมาอยุ่กับปัจจบันอีกครั้งด้วยความตกใจแทบจะตกเก้าอี้
" เป็นอะไรไปน่ะคุโรซากิคุงหมู่นี้ดูเหม่อๆนะ " เด็กสาวผมยามถามด้วยความเป็นห่วงเหมือนเดิม
"ปะ...เปล่านี่ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย " อิจิโกะแก้ตัวโดยอัตโนมัติเพื่อไม่ให้คนอื่นเป็นห่วง
" งั้น.......เหรอ " โอริฮิเมะไม่ได้เซ้าซี้อะไรโดยตอบรับเด็กหนุ่มทั้งๆที่รู้ว่าเค้าโกหก
ก่อนที่เธอจะกลับไปที่นั่งของเธอที่มีทัตสึกิยืนพิงโต๊ะรออยู่ สาวผมสั้นเองก้รู้สึกเหมือนเพื่อนของเธอว่าอิจิโกะไม่เหมือนเดิม
.......ชั้นรู้สึกยังไงกับนายกันแน่นะกริมจอว์........เด็กหนุ่มเท้าคางมองออกไปนอนกหน้าต่าง
พลางคิดทบทวนถึงเรื่องของหนุ่มผมฟ้าอารันคาร์คนนั้น
ครั้งแรกนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่น่าจดจำเอาซะเลย กริมจอว์ทำร้ายเค้าและทำร้ายเพื่อนเค้าจนเจ็บปางตาย
แต่พอไม่กี่วันหลังจากนั้นทำไมหมอนั่นถึงได้มาเดินตามเค้าแถมยังไม่ทำอะไรเค้าเลยอีกซึ่งตอนนี้เค้ารู้แล้วว่าทำไม
และตอนเจอกันครั้งล่าสุดก็มาบอกว่าชอบเค้าอีก ดูจกาท่าทางแล้วจริงจังมากเสียด้วย
อิจิโกะไม่รู้ว่าทำไมเค้าถึงยอมทำความรู้จักกับคน คนนั้นตั้งแต่แรกทั้งๆที่เป็นศัตรูกัน
จนถึงเวลานี้เด็กหนุ่มก็ยังไม่เข้าใจความรู้สึกของตนเองเลยซักนิดเดียว
เค้าไม่ได้เกลียดอะไรอารันคาร์ตนนั้นเลยกลับดีใจเสียด้วยซ้ำที่กริมจอว์มาบอกเค้าแบบนั้น
ถ้าเกิดเค้าตอบรับไปอิจิโกะจะต้องไปอยุ่ฝ่ายเดียวกับอารันคาร์หรือเปล่าก็ไม่รู้
เด็กหนุ่มไม่อยากจะไปอยุ่กับพวกคนเลวๆแบบนั้นถึงในสายตาของเค้าจะมีบกเว้นไว้คนนึงก็ตามที
ไม่ว่าจะทบทวนความรู้สึกของตัวเองกี่ครั้งก็ยังไม่มั่นใจ
" นี่คารินจังพี่อิจิเค้าเป็นอะไรไปเหรอดูเหม่อๆมาหลายวันแล้วนะ "
ยูซึหันไปถามฝาแฝดที่นั่งกินข้าวอยู่ข้างๆหางตามองอยู่ที่พี่ชาย
อิจิโกะกำลังเขี่ยอาหารเย็นในชามอย่างใจลอย ทั้งๆที่กินไปได้แค่นิดเดียวเท่านั้นเอง
" อิ่มแล้วครับ " เด็กหนุ่มเก็บจานที่ยังเหลืออยู่อีกเพียบแล้วเดินขึ้นชั้นบน
โดยมีสายตาที่มองตามไปอย่างสงสัยและเป็นห่วงของคนในครอบครัว
" ไม่รู้ซิ ยูซึ " คารินยักไหล่ปฏเสธก่อนจะหันไปสนใจข้าวของตัวเองอีกครั้ง
" แต่ป๋ารู้นะ ยูซึ !! " หัวหน้าครอบครัวโพล่งขึ้นจนลั่นบ้าน
" จริงเหรอค้า~~ งั้นพี่เค้าเป็นอะไรง่ะ " ลูกสาวคนเล็กถามด้วยความกระตือรือร้น
" ดูท่าทางแล้วลูกชายคนเดียวของป๋าคงจะไปแอบชอบสาวและหาวิธีบอกไม่ได้เป็นแน่แท้ "
อิชชินเดาไปโน่นแต่ก็พอจะใกล้เคียงความจริงไม่มากก็น้อยแต่ก็ทำให้ยูซึเริ่มคิดจริงจัง
" มัวไปได้จริงๆให้ตายซิ "คารินพึมพำอย่างระอากับคนในบ้าน ไม่ว่าจะยังไงก็อารมณ์ดีได้ตลอดเลย
อิจิโกะเปิดประตูเข้าไปในห้องของตัวเองที่ตอนนี้มืดสนิทจนมองไม่เห็นอะไรเลย
" ข้ารอเจ้าอยู่นานแล้ว อิจิโกะ "
เจ้าของห้องรับหันไปมองที่มาของเสียงที่พูดขึ้นมาทันทีที่เด็กหนุ่มเปิดไฟ
อารันคาร์หนุ่มร่างสูงนั่งอยู่บนเตียงเล็กของอิจิโกะ
" กริมจอว์ "หนุ่มร่างบางเอ่ยเรียกชื่อผู้มาเยือนเบาๆ
" ใช่ข้าเอง ข้ามาฟังคำตอบ " เมื่อพบหน้ากันก็เจอประโยคถามหาคำตอบอย่างรวดเร็ว
เด็กหนุ่มเงียบกริบไม่รู้ว่าจะตอบอะไรออกไปดี
" ว่าไง ! " กริมจอว์เริ่มเสียงเข้มขึ้นมาลุกขึ้นจากเตียงเดินเข้าไปใกล้อิจิโกะ
" คะ....คือว่าชั้น.........ชั้น "ร่างบางอ้ำอึ้ง
" ตอบมาเร็วๆเข้า !! "แขนแกร่งจับข้อมือเล็กเอาไว้แน่นและดันจนไปติดกำแพง
" นะ....นายจะทำบ้าอะไรเนี่ย ! " อิจิโกะร้องอย่างตกใจ กริมจอวืที่น่ากลัวเหมือนครั้งแรกที่เจอกันกลับมาอีกแล้ว
ที่อารันคาร์หนุ่มรีบร้อนแบบนี้ไม่ใช่เพราะอะไรก็คือว่าแอบหนึอุลคิโอร่าออกมา
ถ้าคน คนนั้นถามมาล่ะก็ได้เรื่องแน่ๆ
" ชั้นก็ชอ............. "
" กริมจอว์ "
เด็กหนุ่มผมสีส้มที่กำลังจะตอบก็ต้องหยุดวะงักไปเมื่อได้ยินเสียงอีกเสียงหนึ่งที่มาจากทางหน้าต่าง
กริมจอว์เองก็ตกใจไม่แพ้กันร่างสูงรีบปล่อยมือิจิโกะ
หนุ่มผิวซีดยืนกำหมัดแน่นดวงตาคู่สวยจ้องมองมายังภาพอันร้ายกาจที่สุดเบื้องหน้า
" ทำ.....ทำไม....เจ้าถึง.........ทำกับข้าแบบนี้ " อุลคิโอร่าพูดเสียงสั่น
" ข้าเกลียดเจ้า !! " ร่างเล็กๆนั้นตะโกนลั่นก่อนจะรีบวิ่งออกไป
" เดี๋ยวก่อน อุลคิโอร่า!! " หนุ่ผมฟ้าร้องแต่ใครที่ไหนจะไปฟัง
ทำอะไรอีกไม่ได้ทั้งนั้นนอกจากวิ่งตามออกไป
อิจิโกะได้แต่ยืนนิ่งงันรู้สึกสะท้านไปทั้งร่าง รู้สึกเจ็บใจอย่างบอกไม่ถูก ............นี่มัน...หมายความว่ายังไงกัน..........
.............................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น