จอมยุทธิ์ลือลั่นปฐพี - จอมยุทธิ์ลือลั่นปฐพี นิยาย จอมยุทธิ์ลือลั่นปฐพี : Dek-D.com - Writer

    จอมยุทธิ์ลือลั่นปฐพี

    ประมาณพุทธศตวรรษที่ 19 ชาวจีนใหญ่น้อยที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินใหญ่ ทำมาอาชีพประกอบการค้ามากมาย น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักจอมยุทธิ์ทั้งหลาย ( ผ่าตัด )

    ผู้เข้าชมรวม

    509

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    509

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    1
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  18 ธ.ค. 49 / 11:12 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ประมาณพุทธศตวรรษที่ 19 ชาวจีนใหญ่น้อยที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินใหญ่
      ทำมาอาชีพประกอบการค้ามากมาย น้อยคนนักที่จะไม่รู้จักเหล่าจอมยุทธิ์
      จอมยุทธิ์ทุก ๆ คน ล้วนมีวิชาเป็นของตนเอง จอมยุทธิ์ในสมัยนั้น ที่เด่นกว่าใคร
      มีอยู่ 8 จอมยุทธิ์ด้วยกันคือ
            1.  จอมยุทธิ์เวียร์ต้าร์ชิง
            2.  จอมยุทธิ์ตี๋ฟงฉือ
            3.  จอมยุทธิ์ไผ่มาเก๋า
            4.  จอมยุทธิ์เจนโสเปา
            5.  จอมยุทธิ์โอชิตะ
            6.  จอมยุทธิ์บอลฟงเหย
            7.  จอมยุทธิ์ดิวเตอหั่ว
            8.  จอมยุทธิ์อั้นหวั่งเปี้ยง

          ทั้ง 8 จอมยุทธิ์เหล่านี้ อยู่ต่างพรรคกัน
          พรรคกระยาจกประกอบไปด้วย ไผ่มาเก๋า อั้นหวั้งเปี้ยง เวียร์ต้าร์ชิง และโอชิตะ
          พรรคจิ้งเหลนเล่นไฟประกอบไปด้วย ตี๋ฟงฉือ เจนโสเปา บอลฟงเหย และดิวเตอหั่ว

        ทั้งสองพรรคไม่ค่อยกินเส้นกัน เพราะทั้งสองต้องการที่จะเป็นใหญ่ในยุทธภพ
      ทำให้ทั้งสองพรรคต้องประลองกำลังอยู่อย่างเสมอ

          " เชิญจิบน้ำชา...พร้อมกับหมั่นโถวก่อนสิครับท่าน " ดิวเต่อหั่วยกถาดซาลาเปาและน้ำชา
      มาเสิร์ฟให้ตี๋ฟงฉือที่นั่งไขว่ห้างอย่างสบาย บนบัลลังก์อันสง่างาม

           " เจนโสเปา ...เรื่องข่าวจากพรรคกะยาจกไปถึงไหนแล้ว" ตี๋ฟงฉือ ถามเจนโสเปาหลังจิบน้ำชา
           " เอ่อ..ตอนนี้ ข่าวคราวมันเงียบหงายไปครับท่าน " เจนโสเปานั่งท่าคุกเข้าอยู่ที่พื้นพรม หน้าบัลลังก์
           " แย่มาก...ข้าสั่งให้เจ้าไปสืบมัน แล้วทำไมเจ้าไม่ไปสืบฟะ"  ตี๋ฟงฉือเริ่มมีอารมณ์โกรธขึ้นมากะทันหัน
           " คือ...ว่า...พอดีข้าเกี๋ยวนางคนหนึ่งแล้วเอ่อ..."
           " เจ้านี่ชั่วมาก...เจ้ากล้าขัดขืนคำสั่งข้าได้ไง " ตี๋ฟงฉือพูดตัดบทแล้วก็ขว้างแก้วน้ำชาลงบนพื้น

      และแล้ว บอลฟงเหย ก็รีบวิ่งเข้ามาหาตี๋ฟงฉือ
           " ท่านตี๋ฟงฉือ ข่าวจากพรรคกระยาจกบอกว่า พร้อมที่จะประลองศึกแล้วครับท่าน " บอลฟงเหยพูด
           " ดีมาก...เราพร้อมแล้ว ออกลุยกันได้ "

         ตี๋ฟงฉือสั่งจอมยุทธิ์ทั้ง 4 เดินมุ่งหน้าไปยังทุ่งหญ้าเพื่อเป็นที่ประลองระหว่างพรรคทั้งสองพรรค
      พอเดินมาถึงก็เห็น 4 จอมยุทธิ์ของพรรคกระยาจกยืนอยู่ในท่าสง่างามเรียบร้อยแล้ว
           " ไรฟะ ....อันพรรคจิ้งเหลนเล่นไฟ มีเหล่าจอมยุทธิ์เฮงซวย จะทำการสิ่งใดเจริญฟะ"   ไผ๋มาเก๋ารีบชิงพูดทันที
           " แล้วไซร้....ถึงจะไม่เจริญแต่อย่างน้อย พวกเราอยากประลองยุทธิ์กับพวกเจ้าฟะ "     ตี๋ฟงฉือโต้กลับไป
           " แน่นักเหรอ...เมื่อคราวก่อนนะ เจ้าเกือบสุญเสีย ดิวเต๋อหั่วไปแล้วนะ "                     เวียร์ต้าร์ชิงพูดเรื่องราวความหลัง
           " ก็พวกเจ้าเล่นโกงนี่นา ไอ้เวียร์ต้าร์ชิง ถ้าแน่นักก็อย่าใช้พิษเด่ะ "                            ดิวเต๋อหั่วโต้กลับไป
           " พวกข้าไม่สนใจเรื่องราวความหลังแล้ว .....วันนี้ต้องลุยอย่างเดียว ใครแพ้ถอยไป"     ไผ่มาเก๋าสั่งลูกพรรคลุย
           " พวกเรา....อย่ายอมแพ้  ไปอัดมันเลย "                                                            ตี๋ฟงฉือสั่งทัพลุย

         บัดนี้ลานประลองแห่งนี้กลายเป็นสนามรบของพวก จอมยุทธิ์ไปแล้ว จอมยุทธิ์ทั้งแปดใช้วิชายุทธิ์ที่เรียนมา
      ประลองฝีมือร่วมกัน ถล่มใส่อย่างไม่หยุดยั้ง และแล้วการต่อสู้ก็เป็นไปได้สักครู่หนึ่ง ตี๋ฟงฉือก็สั่งทุกคน
           " พวกเรา....ถอย "
          
         ดิวเต๋อหั่วได้ยินคำสั่งแล้วแบกตี๋ฟงฉือนี้ เพราะตอนนี้ ตี๋ฟงฉือติดพิษของเวียร์ต้าร์ชิงแล้ว และแล้ว ก็มาถึงยังใต้ร่มไม้
      แห่งหนึ่ง ดิวเตอหั่ววางร่างตี๋ฟงฉือย่างเบา ๆ ในขณะที่ตี๋ฟงฉือมีอาการไอและหน้าแดงอยู่
         " ท่านครับ...ตอนนี้ท่านอนยู่ในอาการติดพิษ "
         " เออ...น่า ข้ารู้แล้ว รีบถอนพิษให้สิฟะ จะให้ข้าตายไปได้อย่าไง "
         " ครับท่าน "

          ดิวเต๋อหั่วใช้ท่าขับพิษออกจากเลือด โดยใช้กับตี๋ฟงฉือ ทันทีที่ฝ่ามือของดิวเต๋อหั่วกระทบกับหลังของตี๋ฟงฉือ ทำให้
      ตี๋ฟงฉือกระอักออกมาเป็นเลือด
          " บอลฟงเหย เจนโสเปา ช่วยข้าหน่อย ลำพังข้าคนเดียวขับพิษไม่ไหวหรอก "
          " เออน่า รู้แล้ว "
          " ก็รีบทำซิฟะ "
          เจนโสเปาและบอลฟงเหยวางกระบี่ลงข้าง และช่วยขับพิษออก อาการของตี๋ฟงฉือเริ่มดีขึ้น แต่ต้องนอนพักสักครู่

        ทางด้านของพรรคกระยาจก ที่มีไผ่มาเก๋าเป็นหัวหน้าพรรค นั่งบนบัลลังก์ของพรรคกระยาจกอย่างสบาย โดยมีอั้น
      หวั่งเปี้ยงถือพัดทองคอยพัดให้ มีเวียร์ต้าร์ชิงเป็นอัศวินดำนั่งข้าง ๆ บัลลังก์และมีโอชิตะเป็นผู้บีบนวดให้เวียร์ต้าร์ชิง
           " นี่อั้นหวั่งเปี้ยง พัดดี ๆ หน่อยได้ไหม เนี่ยถูกหัวข้าเป็นครั้งที่สิบแล้วนะเนี่ย " ไผ๋มาเก๋าพูดขึ้น หลังจากโดนพัดทองเบิร์ดเข้าที่หัว
           " ขอประทานโทษครับท่าน " อั้นหวั่งเปี้ยงพูดอย่างนอบน้อม
           " เออ.ส่วนเวียร์ต้าร์ชิง รายงานผลการประลองยุทธิ์มาสิ " ไผ่มาเก๋าพูดขึ้นหลังจากดูดซิการ์แล้วพ่นออกมา
           " อันพรรคกระยาจกประกอบด้วยเหล่า 4 จอมยุทธิ์ ทุกคนไม่ได้บาดเจ็บอะไร ยกเว้นข้า เจ้าโอชิตะมันมาบีบข้า จนข้า
      เข็ดไปทั้งตัวแล้ว " เวียร์ต้าร์ชิงเปิดกรุเก่า ๆ พร้อมอ่านเพื่อรายงานต่อไผ่มาเก๋า
           " ข้าบีบให้แล้ว เจ้าเอาการใดอีก " โอชิตะประท้วง
           " สามหาวนัก...รู้ไหมเจ้าเข้ามาที่นี้ได้อย่างไร เจ้าเรียนรู้วิชาได้อย่างไร คำตอบนั่นก็คือข้า ข้ามีบุญคุณต่อเจ้า เจ้ายังไม่
      กตัญญูต่อข้าอีกเหรอ "  เวียร์ต้าร์ชิงตะคอกใส่โอชิตะ
           " ข้า....มิอาจลบหลุ๋ท่าน เพียงแต่ว่า ข้ารำคาญที่พระนางของข้าเดินทางไปสู่ทวีปอื่นทำให้ข้าคิดถึง "
           " คิดถึงพระนางเหรอ....55555....ข้าก็มีพระนางเหมือนกับเจ้านั่นแหละ เพียงแต่ว่า พระนางของข้ามีรูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์"
           " แหวะ....อ้วนอย่างกะหมูตอนนั่นเหรอ "
           "  หน่อยแหนะ...เจ้าบังอาจลบหลุ่ว่าที่พระนางของข้าเหรอ .......เจ้าด่าพ่อด่าแม่ข้าได้ แต่อย่ามาด่าพระนางของข้า"
           " แล้วทำไมฟะ....ข้าจะด่า........E....E....E...."   ( ขอเซ็นเซอร์ )
      ทั้งคู่เริ่มต่อปากต่อคำกันอย่างไม่หยุดยั่งทำให้ไผ่มาเก๋าเห็นแล้วก็เกิดรู้สึกโกรธ จึงตะคอกไปว่า
           " หยุดได้ไหม "  ทั้งสองคนก็หยุดไป แล้วหันหน้ามาหาไผ่มาเก๋าที่ยืนขึ้นอยู่หน้าบัลลังก์
           " เจ้าสองคนเป็นอะไรฟะ อยู่ใกล้กันเหมือนกับขมิ้นกับปูน อยู่ใกล้กันต้องทะเลาะทุกที "
           และแล้ว ไผ่มาเก๋า ก็ต่อว่าทั้งคน

          " มีพระราชสาสน์มาจากพรรคจิ้งเหลนเล่นไฟขอรับ " ขุนนางผู้หนึ่งพูดขึ้น เมื่อเดินมาถึงแล้วทำความเคารพต่อไผ่มาเก๋า
      ไผ๋มาเก๋าหยิบพระราชสาสน์ขึ้นมาแล้วอ่านสีกครู่ จึงขย้ำแล้วฝากให้อั้นหวั่งเปี้ยงทิ้ง
           " หน่อยแหน่ะ...ไอ้ตี้ฟงฉือ มันหายจากอาการเป็นพิษแล้ว มันจะมาท้าเราสู้อีกเหรอเนี่ย มันยังไม่หลาบจำอีก " ไผ่มาเก๋าพูดขึ้น
      หลังจากทิ้งซิการ์โดนหัวอั้นหวั่งเปี้ยง ในขณะที่อั้นหวั่งเปี้ยงเอามือกุมหัวอยู่
           " โอชิตะ เวียร์ต้าร์ชิง อั้นหวั่งเปี้ยง .....ออกรบ"
           " ครับ "   จอมยุทธิ์ทั้ง 3 คนพูดพร้อมกัน

             ณ. ลานประลองยุทธิ์ที่เดิม พรรคกระยาจกเดินทางมาถึงลานประลอนเห็นพรรคจิ้งเหลนเล่นไฟยืนอยู่ก่อนแล้ว
           " ไรฟะ....มีปัญหาอะไรอีกฟะ ยังไม่หลาบอีกเหรอ "  ไผ่พูดขึ้นเมื่อทุกคนอยู่ในความเงียบ
           "  ข้ามาทวงบุญคุณที่พวกเจ้าปล่อยพิษเล่นงานข้า "   ตี๋ฟงฉือพูดเสียงหล่อ
           "  ใช่...วันนี้ พวกเจ้าต้องโดนเหมือนอย่างข้าบ้าง "     เจนโสเปาพูดขึ้นหลังจากตี๋ฟงฉือพูดจบ
           "  ไม่ไหวก็ต้องสู้ ไม่สู้ก็ต้องไม่ถอย ไม่ถอก็ต้องหนี "  ดิวเต๋อหั่วพูดขึ้น หลังจากนั้นโดนตี๋ฟงฉือเบิร์ดหัว 1 ที
           "  ไม่ลองไม่รู้ ลองดูสักตั้งหนึ่งเถอะ "                     โอชิตะตะโกนออกไป

                =================================================
                ||||||||||||||||||    ติงต๋อง  ติงต๋อง    ........ติงต๋อง ต้งต๋อง ||||||||||||||||||
                =================================================

          เสียงออดของโณงเรียนดังขึ้น จอมยุทธิ์ทุกคนที่พร้อมจะประจัญบานการต่อสู้ก็หยุดลงชะงักเมื่อได้ยินเสียงนี้
         และก็เดินไปหยิบกระเป๋าที่กองเอาไว้ที่เสาต้นหนึ่งใกล้ ๆ สถานที่เล่น ณ. ที่นี้นี่เอง
              " โธ่เอ๋ย.....หมดเวลาอีกแล้ว "                           ตี๋พูดขึ้น ขณะที่มีใบหน้าแดงและเต็มไปด้วยเหงื่อ
              "  เพิ่งพักไปได้นิดเดียวเอง มันเร็วเหลือเกิน"         เวียร์พูดขึ้น ขณะที่ค้นหากระเป๋าอยู่
              "  ต่อไปเรียนวิชาอะไรวะ....ไอ้อั้น"                     ไผ่พูดขึ้นพร้อมสะพายกระเป๋าใบเก๋
              "  ก็เออ...คณิต วิทย์ แล้วก็ไทย."                       อั้นพูดขึ้นหลังจากหยิบกระเป๋าให้เพื่อน ๆ
              "  วิชาน่าเบื่อชิบเลย "                                      โอพูดขึ้นหลังจากได้รับกระเป๋าจากอั้น
              "  เออ...นี่บอล พรุ่งนี้เอาลูกตะกร้อมาด้วย"           เจนพูดขึ้นเมื่อหยิบกระเป๋าเสร็จแล้ว
              " เออ..น่า ไม่ลืมหรอกน่า "                                บอลพูดหลังจากที่เอามือจัดเสื้อที่อยู่นอกกางเกง
              และแล้วทั้ง 7 คนก็เดินไปเป็นกลุ่ม เพื่อเดินไปยังอาคารที่จะเรียนต่อไป อ้าวและอีกคนหนึ่งละ
        
                 " เฮ....รอด้วยคนสิ "         ดิวตะโกนขึ้นหลังจากเห็นกลุ่ม ๆ เดินไปกันหมดแล้ว ทิ้งไว้ให้อยู่คนเดียว..

            

      !!!!     เป็นไงครับ !!!!  นี่แหละ เพื่อน ๆ ของผมที่คบกันมา 3 ปี เป็นได้ทั้งเพื่อนเล่น และเพื่อนกิน
      ...............    ในตอนนี้ คุณทราบไหมว่า ผมชื่ออะไร...............

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×