ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ประวัติพระมหากษัตริย์ไทย

    ลำดับตอนที่ #1 : รัชกาลที่ 1 แห่งราชจักรีวงศ์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.26K
      7
      10 ธ.ค. 49




    พระนาม


    พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช  
    พระนามเต็ม สมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี ศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิราชาธิบดินทร  ธรณินทราธิราชรัตนากาศภาศกรวงษ องค์ปรมาธิเบศร ตรีภูวเนตรนาถนายก ดิลกรัตนราชชาติอาชาวไศรย สมุทัยคโรมนต์ สกลจักรวาฬาธิเบนทร์ สุริเยนทราธิบดินทร หริหรินทราชาดาธิบดี ศรีสุวิบุลยคุณอัขณิฐ ฤทธิราเมศวรมหันต บรมธรรมิกราชาธิราช เดโชไชยพรหมเทพาดิเทพนฤบดินทร ภูมินทรปรมาธิเบศรไลกเชฐวิสุทธรัตนมงกุฏ ประเทศคตามหาพุทธางกูรบรมบพิตร พระพุทธเจ้าอยู่หัว คือ สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกย์ 
    พระนามย่อ  -
    พระนามเดิม ทองด้วง 
    พระราชสมภพ ที่นิวาสสถานภายในกำแพงพระนครศรีอยุธยา ตำบลป่าตอง 
    วันพุธ เดือน ๔ แรม ๕ ค่ำ เวลา ๓ ยาม ปีมะโรง อัฐศก จุลศักราช ๑๐๙๘   
    ตรงกับวันที่ ๓๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๒๗๙ ในรัชกาลของพระเจ้าอยู่หัวบรมโกษฐ์ 
    เป็นบุตรคนที่ ๔ ของสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก (พระนามเดิม "ทองดี" ดำรงบรรดาศักดิ์เป็น หลวงพินิจอักษร ตำแหน่งเสมียนตรา ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ) และพระอัครชายา (พระนามเดิม "หยก") 
    เสวยราชสมบัติ ปราบดาภิเษกขึ้นครองราชย์ เป็นพระเจ้าแผ่นดินแห่งกรุงสยาม 
    เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๓๒๕ (ตรงกับ วันเสาร์ เดือน ๕ แรม ๙ ค่ำ ปีขาล จัตราศก จุลศักราช ๑๑๔๔) ขณะมีพระชนมายุได้ ๔๕ พรรษา 
    พระราชโอรส-ราชธิดา รวมทั้งสิ้น ๔๒ พระองค์ 
    เสด็จสวรรคต เมื่อวันพฤหัสบดี เดือน ๙ แรม ๑๓ ค่ำ ปีมะเส็ง เอกศก จุลศักราช ๑๑๗๑ 
    ตรงกับวันที่ ๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๓๕๒  พระชนมพรรษา ๗๔ พรรษา 
    เสด็จดำรงสิริราชสมบัติได้ ๒๗ พรรษา  
    วัดประจำรัชกาล วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)

    ตราประจำรัชกาล  

    เหตุการณ์สำคัญ

    พ.ศ.๒๓๒๕ 
    • ขึ้นครองราชย์ สถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ 
    • ตั้งพิธียกเสาหลักเมืองพระนครใหม่ ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันอาทิตย์ ที่ ๒๑ เมษายน ตรงกับ เดือน ๖ ขึ้น ๑๐ ค่ำ เวลาย่ำรุ่งแล้ว ๔๕ นาที 
      พระราชทานนามพระนครใหม่ว่า "กรุงเทพมหานคร บวรรัตนโกสินทร์ มหินทรายุทธยามหาดิลกภพนพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์ อุดมราชนิเวศน์มหาสถานอมรพิมารอวตารสถิต สักกะทัตติยะวิษณุกรรมประสิทธิ์" (ต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงแปลงสร้อยพระนามพระนครจาก "บวรรัตนโกสินทร์" เป็น "อมรรัตนโกสินทร์")
    • องเชียงสือ (ญวน) เชื้อสายราชวงศ์เหวียน กษัตริย์ญวนพ่ายแพ้ต่อกบฏไกเซินที่เข้ายึดไซ่ง่อนได้ ขอเข้าพึ่งพระบรมโพธิสมภาร 
    • นักองค์เอง (เขมร) ขอเข้าพึ่งพระบรมโพธิสมภาร
    • โปรดให้อาลักษณ์คัดนิทานอิหร่านราชธรรม
    พ.ศ.๒๓๒๖
    • กำหนดระเบียบการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
    • ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องอุณรุท
    พ.ศ.๒๓๒๗
    • โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร จากหอพระแก้วในพระราชวังเดิม แห่ข้ามมาประดิษฐาน ณ พระอุโบสถในพระราชวังใหม่ ทรงพระราชทานนามพระอารามว่า "วัดพระศรีรัตนศาสดาราม" ใช้เป็นที่ประชุมในพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา
    • สงครามเก้าทัพ พระเจ้าปดุง กษัตริย์พม่าทรงกรีธาทัพเข้ามาตีเมืองไทยตั้งแต่เหนือ จดใต้ รวม ๙ ทัพ  กองทัพไทยตีกองทัพพม่าแตกพ่ายยับเยินไปทุกทัพ 
    พ.ศ.๒๓๒๘
    • โปรดให้ตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมบูรณ์แบบ อย่างโบราณราชประเพณี ณ พระที่นั่งอมรินทราภิเษกมหาปราสาท  โปรดให้สร้างขึ้นด้วยไม้ทั้งองค์ หลังคาคาดด้วยดีบุก โดยถ่ายแบบจากพระที่นั่งสรรเพชญปราสาทในพระนครศรีอยุธยา 
    พ.ศ.๒๓๒๙
    • สงครามรบพม่าที่ท่าดินแดง
    • ทรงพระราชนิพนธ์ นิราศรบพม่าท่าดินแดง
    • กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท ทรงนำทัพไปรับทัพพม่าที่เข้ามาทางใต้ แต่เมื่อกองทัพไปถึงพม่าพากันถอยหนีไปแล้ว  เวลานั้นพอดีกับเจ้าเมืองตานีคิดแข็งเมือง จึงทรงยกทัพไปตีเมืองตานีได้เช่นเดิม และนำปืนใหญ่ประจำเมืองขึ้นมาน้อมเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเชษฐาธิราช 
    • โปรตุเกสขอเข้ามาเจริญพระราชไมตรี
    • อังกฤษเช่าเกาะปีนัง จากพระยาไทรบุรี
    พ.ศ.๒๓๓๐
    • องเชียงสือเขียนหนังสือขอถวายบังคมลา ลอบหนีไปกู้บ้านเมืองได้สำเร็จ ตั้งตัวเองเป็นพระเจ้าเวียตนามญาลอง 
    • เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบัญชาการทัพ ตีค่ายปีกกาของพม่า ที่จะเป็นทางเดินทัพไปยังเมืองทวาย  และตีค่ายปีกกาแตกภายในวันเดียว 
    พ.ศ.๒๓๓๑
    • โปรดเกล้าฯ ให้อาราธนาพระสงฆ์ชั้นพระราชาคณะและราชบัณฑิตทั้งหลาย ประชุมทำสังคายนาพระไตรปิฎกขึ้นที่วัดนิพพานาราม ใช้เวลา ๕ เดือน แล้วเสร็จในปี พ.ศ.๒๓๓๒       แล้วโปรดให้จารึกลงลานไว้เป็นพระไตรปิฎกฉบับหลวง ปิดทองทึบทั้งใบปกหน้าและหลังกรอบ เรียกว่า พระไตรปิฎกฉบับทอง ให้เก็บรักษาไว้ที่หอพระมนเทียรธรรม ในวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่อมาเกิดเพลิงไหม้หอพระมนเทียรธรรม แต่มิทันไหม้พระไตรปิฎกเพราะอัญเชิญออกมาทัน จึงโปรดให้สร้างพระมณฑปขึ้นเป็นที่เก็บพระไตรปิฎกแทน ส่วนหอพระมนเทียรธรรมนั้น โปรดให้สร้างขึ้นใหม่ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระมณฑป 
    พ.ศ.๒๓๓๒
    • เกิดอสนีบาตตกต้องที่หน้ามุขเด็จ เพลิงลุกลามไหม้พระที่นั่งอมรินทราภิเษกมหาปราสาท เสียหายเกือบทั้งองค์ จึงโปรดให้รื้อลง แล้วสร้างพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทขึ้นแทน 
    พ.ศ.๒๓๓๓
    • องเชียงสือกู้บ้านเมืองสำเร็จ จัดต้นไม้เงิน ต้นไม้ทองมาถวาย
    พ.ศ.๒๓๓๗
    • ทรงอภิเษกให้นักองค์เอง เป็น สมเด็จพระนารายณ์รามาธิบดี ไปครองกรุงกัมพูชา
    พ.ศ.๒๓๓๘
    • ชำระพระราชพงศาวดาร
    • โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระมหาพิชัยราชรถ สำหรับอัญเชิญพระอัฐิสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก ซึ่งต่อมาใช้เป็นพระราชรถอัญเชิญพระบรมศพพระมหากษัตริย์ไปยังทุ่งพระเมรุ 
    • มีช้างเผือกเชือกแรกมาสู่พระบารมี ได้รับพระราชทานนามว่า พระอินทรไอยราคชาชาติฉัททันต์ พิศผิวพรรณเผือกราตรี ศรียอดตองตากแห้ง วิศณุแกล้งรังรักษ์ มงคลลักษณเลิศฟ้า 
    พ.ศ.๒๓๓๙
    • งานสมโภชพระบรมอัฐิสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก
    พ.ศ.๒๓๔๐
    • ทรงพระราชนิพนธ์บทละคร เรื่อง รามเกียรติ์
    พ.ศ.๒๓๔๒
    • โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเวชยันตราชรถ
    พ.ศ.๒๓๔๔
    พ.ศ.๒๓๔๕
    • ราชาภิเษกพระเจ้าเวียตนามญาลอง (องเชียงสือ)
    พ.ศ.๒๓๔๗
    • โปรดเกล้าฯ ให้นักปราชญ์ราชบัณฑิต ประชุมชำระพระราชกำหนดบทอัยการบรรดามีอยู่ในหอหลวง ที่ตกทอดมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา จัดประมวลหมวดหมู่ให้ถูกต้องยุติธรรม พร้อมกับเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรรวม ๓ ฉบับ ให้เก็บรักษาไว้ที่ห้องเครื่องฉบับหนึ่ง ที่หอหลวงฉบับหนึ่ง และที่ศาลหลวงสำหรับลูกขุนฉบับหนึ่ง โดยประทับตราพระราชสีห์ ตราพระคชสีห์ ตราบัวแก้ว เป็นสำคัญทุกฉบับ  กฎหมายฉบับนี้จึงเรียกว่า  "กฎหมายตราสามดวง" 
    พ.ศ.๒๓๔๙
    • ทรงอภิเษกให้ นักองค์จันทร์ เป็น สมเด็จพระอุทัยราชา ครองกรุงกัมพูชา
    พ.ศ.๒๓๕๐
    • เริ่มสร้างวัดสุทัศน์เทพวราราม
    พ.ศ.๒๓๕๒
    • เสด็จสวรรคต
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×