คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [Past] Age of Losing (Thai :20% )
เอาไม้อ่านกันสนุกๆเน้ออ อย่าไปใส่ใจกับไอ้พวกภาษาเลยเนอะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
[Past : Age of Losing]
เคยไหม? กับความรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมา
. เป็นเพียงแค่ของปลอมที่ไม่สามารถเป็นของจริงได้ ต่อไห้พยายามบินมากแค่ไหน ยิ่งจะถูกแรงโน้มถ่วงของโลกนี้รังขาเอาไว้ ปีกที่ถูกทำด้วยน้ำตาเทียนไขจอมปลอมของ *อีคาร์รัสน่ะ
สุดท้าย
..พอใกล้ถึงพระอาทิตย์แล้วมันก็จะละลาย
. ไม่ว่าจะยังไงสุดท้าย
ก็เป็นได้แค่ สุนัขป่าที่คอยเฝ้ามองท้องฟ้าแล้วถามกับตัวเองว่า
.
“เมื่อไรขาสี่ข้างนี้ จะกลายเป็นปีกสีขาว แล้วบินขึ้นฟ้าไปโดยที่ไม่มีอะไรฉุดรั้งขาทั่งสองข้างเอาไว้” ..
เคยไหม? กับการ ถูกเรียกว่า ‘สินค้า’ ทั้งๆที่ไม่มีใครกำหนด ถูกสร้างขึ้นมาในฐานะสิ้นค้าที่ถูกผลิตขึ้นมาอย่างมากมายมหาศาล เป็นเพียงแค่อะไหล่นับร้อยนับพัน ที่สักวันหากไม่เจอตัวกลไก แล้วล่ะก็ ..
คงจะถูกทิ้ง
อย่างไร้ค่า
.
ถูกทำลายในเตาหลอมอย่างไร้ความปราณี
..
เคยรึเปล่า? รู้สึกว่า ตัวเองถูกทอดทิ้งตั่้งแต่ยังไม่ได้ลืมตา .ถูกตรีตราหน้า ว่า “แกมันก็แค่เศษสวะ” และไม่เคยได้รับความรักที่แท้จริง ...............................
ทุกอย่าง .เมื่อมี ‘เริ่มต้น’ ก็ต้องมี ‘จุดจบ’
แบบนั่นน่ะ ไม่เอาด้วยหรอก
ชีวิตที่ไร้สีฟ้าของท้องฟ้าแบบนั่นน่ะ มันไม่ต่างอะไรกับการถูกจองจำไว้ในกรงสีดำนั่นหรอกนะ .
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++
“นี้ พี่คามิล! พี่คามิลจะไม่ไปไหนใช่ไหม?”
เด็กหนุ่มตื่นจากภวังค์ ด้วยเสียงใสที่ขัดความคิดของเขาไว้ นี้ไม่ใช่ครั้งแรกอะไรหรอกนะ ที่เขาฝันกลางวันถึงอะไรเพี้ยนๆ แบบนี้ แค่ตัวเขาเองก็ยังไม่ชินกับมันเท่านั่นเอง และดูท่าทีว่าเขาจะชินกับมันยากซะด้วยน่ะสิ
“ถามอะไรของเธอน่ะ เอราน ? อยู่ๆก็ถามอะไรแปลกๆ ฉันจะไปที่ไหนได้กันล่ะ” เด็กหนุ่มว่าก่อนจะเอามือของเขาเคาะหัวเด็กสาวผมน้ำตาลบลอน์ข้างๆตัว มันเป็นปกติอยู่ทุกครั่งอยู่แล้วที่เด็กสาวคนนี้จะไม่ยอมนอนห้องตัวเองเพียงเพราะแค่ อยากนอนกับพี่ชายมากกว่า
“ ถามกันไว้ก่อนไง! ถ้าพี่คามิลไปแล้วเอรานจะอยู่กับใครล่ะ?” เด็กสาวเริ่มกลิ้งตัวมาทับบนตัวเด็กหนุ่มก่อนจะจ้องหน้าพี่ชายของตนด้วยสีหน้าจับผิด
“อยู่กับพ่อไงถามมาได้ เธอนี้ยิ่งเริ่มปัญญาอ่อนขึ้นทุกวันแล้วนะ” เด็กหนุ่มขมวดคิ้วมองหน้าเด็กสาวตอบก่อนจะดันตัวน้องสาวตนเองออกจากตัว อาการแบบนี้ที่เขาเรียกว่า ’เขิน’สินะ
“ Nop! Daddy เนี่ยนะ ไม่เอาด้วยหรอก ..dad น่ะ ไม่เคยมีเวลาไห้เอรานเหมือนพี่คามิลเลยนะ”
“นั่นก็เพราะจริงๆแล้วฉันเองก็ไม่ได้มีเวลาให้เธอนักหรอก แค่เธอน่ะติดฉันง่อมแง่มต่างหากล่ะ” เด็กหนุ่มบ่นพลางหยิบเสื้อเชิ้ตสีขาวล้วนขึ้นมาใส่ไปพลางและมองตารางเรียนไปพลางก่อนจะเริ่มหยิบกระเป๋าออกมาจัดแบบจริงๆจังๆ
เด็กสาวลุกขึ้นออกจากเตียงก่อนจะวิ่งมากระโดดกอดคอพี่ชายตัวเองจนพี่ชายถึงกับเซกันเลยทีเดียว
‘คิดว่าตัวเองเบานักรึไงเนี่ย’ เด็กหนุ่มคิดในใจอย่างอดไม่ได้
“ Nah ..Liar I definitely know” เอรานกอดคอพี่ชายของเธอแน่นกอ่นจะเอาหน้ามุ่ยๆของเธอซุกกับแผ่นหลังของพี่ชาย
“ Huh? Know What? ” เด็กหนุ่มถาม
“ Know that you wouldn’t leave me alone , cause you love me! Aye! ” เด็กสาวผมบลอน์ยิ้มก่อนจะขยี้ผมสีน้ำตาลแดงเข้มของพี่ชายให้ยุ่งเหยิง
“ Hey! Stop! พอเลยๆ ” คามิลเอามือปัดไปปัดมาเหมือนเป็นสัญญาณ ประมานว่า ‘Piss off ‘เด็กสาวยิ้มแป้นก่อนจะปล่อยตัวลงกับพื้น
“เอรานมีDay off วันนี้อ่ะพี่คามิลไปเที่ยวเป็นเพื่อนหน่อยสิ?”
“จะบ้าเรอะไงฉันมีเรียนนะ แค่นี้ก็สายจะแย่อยู่แล้ว ไม่เห็นเวลารึไง” เด็กหนุ่มเจ้าของห้องชี้นาฬิกาที่แขวนอยู่บนห้องของตนแบบเซ็งๆ และหน่ายๆ กับความดื้อของน้องสาว ที่ถึงแม้เอาจริงๆตัวเองจะดื้อว่าก็เถอะนะ
12:37
ปกติตัวเขาก็ไม่คิดจะกระตือรือร้นไปเรียนอยู่แล้วซะด้วย แต่ถ้าไม่ติดว่าวันนี้เป็นวันสอบ ภาคปฏิบัติ ของทางมหาลัยที่จะกำหนดซะตาชีวิตของการเป็นตำรวจสากลของเขาน่ะ เขาเองคงจะยอมไปเที่ยวกับน้องแต่โดยดีแล้ว
“Naughty! ทำแบบนี้ระวังโดน *DTN นะพี่คามิล”
“ แค่ DTN น่ะฉันโดนจน Mrs. Elerbec หาที่จดประวัติ ไม่ได้แล้วล่ะมั่ง” คามิลหัวเราะออกมาเต็มเสียง แค่คิดถึงน่า *Dean ของเขาตอนรู้ว่าเขามาวันสอบสำคัญขนาดนี้สายก็ขำจะแย่อยู่แล้ว
“งั้นเมื่อไหร่พี่คามิลจะว่างล่ะ? ไหนบอกจะไม่ทิ้งเอรานไง?”
“ I never Promise that I’ll never leave you ..” คามิลตอบแบบหนายๆ แต่พอเขาหันมามองหน้าน้องสาวของตนที่ทำแก้มป่องหน้ามุ่ยเต็มที่ เขาก็แอบใจอ่อนอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
“Ok Fine I promise”
“ Really ? Pinky Promise then” เอรานยื่นนิ้วก้อยเล็กๆของเธอออกมา การกระทำแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กอายุไม่กี่ขวบเลยจริงไหม? เด็กหนุ่มมองแบบเบื่อๆก่อนจะเอานิ้วก้อยของเขาออกมาเช่นกัน
“Did you ever Grown Up?”
“ Stop moaning! บนเป็นคนแก่อยู่ได้น่า ..”
“Okeeey , no need to shout ”
เด็กสาวยิ้มตอบคำพูดของพี่ชายก่อนที่เธอจะเอานิ้วก้อยของเธอไปเกี่ยวกับนิ้วก้อยของเขา
.”สัญญานะ ต่อไปห้ามทิ้งเอรานนะ พี่คามิลต้องอยู่กับเอรานตลอดไปเลยล่ะ ”
เด็กหนุ่มแอบเผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย ถึงยังไงเขาก็ยังรักน้องสาว ต่อไห้แม้
..เขากับเธอจะมีอะไรต่างกันเยอะมาก็เถอะนะ
“ This Promise will never broken , I promise “ เด็กหนุ่มยิ้มตอบช้าๆ เรียกรอยยิ้มของน้องสาวของเขาได้อย่างดี เอรานกระโดดกอดพี่ชายแน่น คามิลตกใจเล็กน้อยแต่อย่างน้อยเขาก็กอดตอบด้วยมือที่สั่นเทา .. เขาไม่เคยแน่ใจว่าความรู้สึกที่เขามีต่อเธอเป็นเช่นไร ..
เกลียดชัง สงสาร อิจฉา ...รัก ทุกอย่างมันถูกอัดแน่นอยู่ในอก
“เอรานรักพี่คามิลนะ! You’re the best ! You’re the only person I really really reaaaaally love in this life”
“ Me too .” เด็กหนุ่มตอบเบาๆ พยายามไม่ไห้เด็กสาวรู้สึกถึงน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาจากตาสีทองของเขา
ทำไม ..เขาถึงเจ็บทุกครั่งที่เธอบอกรักเขานะ?
He will not be there to find out .
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Bang! Bang! Bang!
สิ้นเสียงปากกระบอกปืนลั่นลง ทั้งห้องโถงกว้างถูกเติมเต็มไปด้วยเสียเงียบสงัดเหมือนป่าช้าทันที ทุกสายตาจ้องมองไปยังเพียงเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลแดงเข้มเจ้าของปากระบอกปืนนั่นเพียงที่เดียว
‘ *What a show off ‘
‘How can he did that?’
‘Woe woe clam down man’
เสียงกระซิบกระซาบของเหล่าผู้เข้าร่วมการสอบเรียกความสนใจของผู้ถือปืนอยู่ได้ไม่น้อย สำหรับเขาแล้วการยิงเป่าขยับมันก็แค่ของง่ายๆเท่านั่นเองถ้าเทียบกับการ ต้องยิงพวกจานบิน หรือลูกโปง ซึ่งเขาเองก็ยังทำไม่ได้ดีนักหรอกนะ ตั้งแต่ที่เขาเคยเข้าสายตำรวจมา คนที่สามารถยิงเข้าได้ 10/10 น่ะมีแค่คนเดียวเท่านั่น แล้วไอ้หมอนั่นก็
Bang! Bang! Bang! Bang! Bang! Bang! Bang! Bang! Bang! Bang!
‘นั่นประไร ’
ทั้งห้องการทดสอบเงียบสงัดยิ่งไปกว่าเดิมเมื่อเป้าจานบินสิบนัดถูกสอยร่วงหมดอย่างไร้ข้อผิดผาด เจ้าของปากกระบอกปืน Desert Eagle อันงามจับปากระบอกปืนมาเป่าควันทิ้งตามปกติก่อนจะเริ่มรีโหลดกระสุนใหม่
“*What a shot” เด็กหนุ่มหันไปแซวเพื่อนซี้ของตนผู้ถือกระบอกปืนอย่างเสียไม่ได้ มันน่าแซวไหมล่ะ? สำหรับคนที่ได้ชื่อว่าถ้าเรื่องปืนแล้วเขาเก่งที่สุดในกลุ่มนักเรียนน่ะ
“ Not really interested me ” เด็กหนุ่มผมดำตอบแบบไม่สนใจเท่าไหร่ เพราะสำหรับตัวเขาที่ซ้อมปืนไม่ขาดทุกวัน เอาแค่การสอบนี้มันก็เหมือนการซ้อมอีกครั่งหนึ่งเท่านั่นเอง
“ เหอะ สำหรับ คุณชาย เจสเปอร์ เจร์ อาร์ ราเมลโล เรื่องปืนมันก็ของง่ายๆไม่เหมือนการตามจีบ จาร์นา วอลท์เฟลด์ สินะ” คามิลยังคงไม่เลิกแซวเพื่อนหนุ่มต่อไป สำหรับเรื่องนี้ ตัวเจสเองน่าจะชินได้แล้วแท้ๆแต่สำหรับหนุ่มขรึมแบบเขา ไอ้การเอาเรื่องแบบนี้มาพูดต่อหน้าสาธารณ มันก็ไม่ต่างกับการเอาเรื่องส่วนตัวสุดๆมาเผานั่นและ
“Shut your F*ck up”
“Nahh for your information ทุกคนเขารู้กันหมดแล้วล่ะครับคุญชาย” เด็กหนุ่มผมน้ำตาลแดงยิ้มหยอกเล็กน้อย เสียงขึ้นลำกล้องข้างๆตัวเด็กหนุ่มผมน้ำตาลเป็นสัญญาณ ได้ดีว่าเพื่อนของเขาจะทำอะไรต่อไป คุณชายเจสเปอร์ถอนหายใจเล็กน้อยอย่างหน่ายๆก่อนจะหันปากกระบอกปืนมาทางคามิลเพื่อขู่เล็กน้อย พร้อมสีหน้าประมานว่า ‘ไอ้เพื่อนตัวดีคนนี้มันไม่อยากมีปากไว้เพื่อดื่มเหล้าแล้วสินะ’
“ Woe Woe! Don’t kill me bro!”
“ You know me camill , I will “
“Bravo! Excellent!!!!!!!”
การสนทนาของทั่งสองถูกขัดด้วยเสียงของ Professor McClerwrite ผู้คุมสอบภาคสนามครั่งนี้ เอาจริงๆแล้วตัว ศ.จ.เองก็รู้ดีอยู่แก่ใจว่า เมื่อสองคนนี้มาทำสอบห้องเดียวกัน จะต้องมีปากเสียงตามมากับเสียงกระสุนปืนอยู่ตลอดไป
“ขอบคุณครับ ศจ.” เจสเปอร์เอ่ยปากอย่างสุภาพก่อนจะเอาข้อศอกกระทุ้งท้องคามิลเล็กน้อยเป็นสัญญาณให้อีกคนข้างๆเอ่ยอะไรบ้าง
“อ่อก ! อ่ะ เอ่อ ขอบคุณครับ.”
“ฉันคิดว่ามันสมกับการอดนอนมาดูพวกเธอจริงๆนะ เด็กรุ่นใหม่ที่ ได้ชื่อว่าเป็น NSW Police student น่ะน้อยนักนะ ฉันว่าจากคะแนนโดยร่วมทั่งปีนี้ พวกเธอคงผ่านการเข้ารับกรมตำรวจสากลจริงอย่างไม่ต้องสงสัย”
“ Hell Yea-----“
“Ah Nah แต่พวกเธอเองก็ต้องรอดูผลการไห้คะแนนทาง กรมตำรวจอยู่เหมือนกันนะ กว่าผลจะออกเองก็ต้องใช้เวลา เอาเป็นว่าตอนนี้ Junior อย่างพวกเธอว่าง ไปจนถึง การประกาศผลเลือนระดับล่ะนะ “
“รับทราบครับ” ทั่งสองตอบอย่างพร้อมเพรียงก่อนจะหันมามองหน้ากันเองแล้วยักคิ้วใส่กันแบบรู้ใจ
‘แบบนี้คืนนี้ต้องฉลอง ’ เด็กหนุ่มคิดในใจพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
แปะๆๆๆ
อยู่ๆเสียงปรบมือก็ดังขึ้นหยุดการสนทาทั่งหมดไว้ค่เพียงเท่านั่น เจ้าของเสียงปรบมือ เดินตรงมายังสองเด็กหนุ่มก่อนจะยิ้มไห้ด้วยรอยยิ้มเกรียนๆ
“Good boy เก่งดีนี้ พวกเธอสองคนน่ะ” ชายร่างสูงเอ่ยพร้อมรอยยิ้มที่มุมปากของเขา ชายวัยกลางคนคนนี้ดูถ้าจะไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแล้วน่ะสิ ยิ่งด้วยชุดตำรวจเต็มยศแบบนี้
แถมดูเต็มยศผู้หมวด ซะด้วยสิ
“ฉันไม่คิดว่าจะได้เจอเด็กฝึกหัดแบบพวกเธอ จับปืนได้นิ่งขนาดนั่นหรอกนะ” ผู้ที่ถูกสันนิธานว่าเป็นผู้หมวดเอ่ยอย่างชื่นชม สำหรับเขาแล้วการได้เห็นเด็กหนุ่มมีไฟในการเป็นตำรวจแบบนี้มันดูน่าชื่นชมจริงๆ
“ สำหรับผม ผมก็แค่ใช้มือเหมือนทุกวันครับ” เจสเอ่ยก่อนจะโค้งรับไห้เพื่อแสดงความเคารพ ต่างกับคามิลที่โค้งช้าๆโดยที่ยังมองหน้าบุคคลที่สี่คนนี้อยู่
“ hahaha สงสัยพวกเธอคงจะเป็นมือปืนที่ดีในอนาคตจริงๆสินะ เอาเถอะ ไม่ต้องเคารพอะไรขนาดนั่นก็ได้ ฉันชื่อ Matthew Mclaver Commander ของกรมตำรวจสากลภาค U.K Welcome to our mission” ชายหนุ่มวัยกลางคนเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงขี้เล่นแฝงความหน้าเขรงขามเล็กน้อย สีหน้าของความผิดพลาดถูกแสดงออกผ่านสายตาของทั้งเล็กน้อยเมื่อผู้ชายที่อย่างข้างหน้านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ Sergeant หรือ Inspector แต่เป็น Commander ต่างหากล่ะ
“ มะ มาเองเลยเหรอครับ .เพื่อแค่ดูการสอบครั่งนี้” นักเรียนตำรวจผมน้ำตาลแดงเจ้าเก่าแถมด้วยน้ำเสียงที่ดูเล็กลงไปเลยหลังจากได้รู้ถึงยศของอีกฝ่าย
“If the Commander don’t know how constable use the gun , how could I can called myself as a Leader” Quoteที่ถูกพูดออกมาเรียกความศรัทรา แรงกล้าจากเหล่านักเรียนได้อย่างดี............
โดยเฉพาะนักเรียนสองคนที่ได้เจอในระยะเผาขนด้วยนั่นสินะ ..
“ C’mon boys let go have some drink” ว่าไม่ทันจบเมททิวว์ก็คว้าคอเสื้อของสองหนุ่มออกไปจากบริเวณนั่นอย่างไร้ร่องรอยเหล่ากลุ่มนักเรียนพวกที่ดูเหตุการ์ณนั่นได้แต่มองอย่างสงสัยและไม่เข้าใจถึงเหตุการืณที่เกินขึ่น
‘ ฉันจะโดนอะไรเนี่ย ’
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ยังไม่ได้แก้คำผิดนะฮะ
ความคิดเห็น