ลำดับตอนที่ #52
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #52 : เครื่องบินยุคใหม่ กิน"น้ำมัน"น้อยลง70%
เครื่องบินยุคใหม่ กิน"น้ำมัน"น้อยลง70%
เครื่องบินโดยสารยุคปัจจุบันนี้ ถ้ามองดูจากลักษณะโครงสร้าง ตำแหน่งการวางเครื่องยนต์ การออกแบบ ฯลฯ นั้น
กล่าวได้ว่า มีหน้าตา-แนวคิดแทบไม่ต่างจากเครื่องบินโดยสารตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา
ผลลัพธ์ที่ตามมา ก็คือ
อัตราการเผาผลาญ "น้ำมันเชื้อเพลิง" ของเครื่องบินเหล่านี้จึงยัง "สิ้นเปลือง" เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง
ล่าสุด สำนักงานบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา (นาซ่า) จึงมอบเงินงบประมาณก้อนแรก 2.1 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 67.2 ล้านบาท
ให้คณะผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศ ยานของ "สถาบันเทคโนโลยีแห่งรัฐเมสซาชูเส็ตต์" (เอ็มไอที) คิดค้น-ออกแบบเครื่องบินโดยสารยุคใหม่ ซึ่งกินเชื้อเพลิงน้อยลง
เพราะนอกจากจะช่วยลดการใช้น้ำมันแล้ว
ยังช่วยลดการปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศซ้ำเติมวิกฤต "โลกร้อน" ให้รุนแรงหนักขึ้นไปอีก
เบื้องต้น "เอ็ด ไกรต์เซอร์" ศาสตราจารย์แห่งเอ็มไอที ผู้ดูแลโครงการนี้ เปิดเผยว่า คณะทำงานได้ออกแบบเครื่องบินโดยสารยุคใหม่ออกมาแล้ว 2 ลำ ภายใต้ชื่อรหัสโครงการ "เอ็น+3"
ลำแรก มีชื่อรุ่นว่า "ดี-ดับเบิลบับเบิ้ล" ขนาด 180 ที่นั่ง สร้างขึ้นเพื่อใช้แทนเครื่องบินโดยสาร "โบอิ้ง 737" สำหรับเส้นทางบินในประเทศ
อีกลำ คือ "เอช-ไฮบริด วิงก์ บอดี้" ขนาด 350 ที่นั่ง ตั้งเป้าเอาไว้บินแทนที่เครื่อง "โบอิ้ง 777" ซึ่งบินเส้นทางระหว่างประเทศ
จุดเด่นชัดเจนของเครื่องในตระกูลดี กับ เอช ดังกล่าวนั้นอยู่ตรงที่ทางเอ็มไอทีได้ย้ายเครื่องยนต์ไอพ่นออกจาก "ปีก" ไปอยู่บริเวณส่วนท้ายของตัวเครื่อง
ส่วน "ลำตัวเครื่องบิน" หรือพูดง่ายๆ ก็หมายถึง "ห้องโดยสาร" นั้นจะขยายพื้นที่ใหญ่ขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับเครื่องบินโบอิ้งปัจจุบัน มองดูเหมือนเอาฟองอากาศสองฟองมาเชื่อมต่อกัน
ภายใต้แนวคิดนี้เครื่องจะบินช้าลง แต่สิ่งที่ตามมาคือจะช่วยลดอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงลงไป 50-70 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ เมื่อตัวเครื่องใหญ่ขึ้น ก็เท่ากับว่า ไม่ต้องมาเสียเวลารอผู้โดยสารค่อยๆ เดินเบียดเสียดทยอยขึ้นเครื่องบิน เพราะทางเดินกว้างสะดวกสบาย ช่วยชดเชยเวลาการบินที่ช้าลง
โครงการ "เอ็น+3" ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นและยังต้องใช้เวลาอีก 25 ปีกว่าจะสมบูรณ์แบบ แต่ถือเป็นการ "วางแผน" เพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับอุตสาหกรรมการบิน
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
|
กล่าวได้ว่า มีหน้าตา-แนวคิดแทบไม่ต่างจากเครื่องบินโดยสารตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา
ผลลัพธ์ที่ตามมา ก็คือ
อัตราการเผาผลาญ "น้ำมันเชื้อเพลิง" ของเครื่องบินเหล่านี้จึงยัง "สิ้นเปลือง" เหมือนเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง
ล่าสุด สำนักงานบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา (นาซ่า) จึงมอบเงินงบประมาณก้อนแรก 2.1 ล้านเหรียญ หรือราวๆ 67.2 ล้านบาท
ให้คณะผู้เชี่ยวชาญด้านอากาศ ยานของ "สถาบันเทคโนโลยีแห่งรัฐเมสซาชูเส็ตต์" (เอ็มไอที) คิดค้น-ออกแบบเครื่องบินโดยสารยุคใหม่ ซึ่งกินเชื้อเพลิงน้อยลง
|
เพราะนอกจากจะช่วยลดการใช้น้ำมันแล้ว
ยังช่วยลดการปล่อยมลพิษสู่ชั้นบรรยากาศซ้ำเติมวิกฤต "โลกร้อน" ให้รุนแรงหนักขึ้นไปอีก
เบื้องต้น "เอ็ด ไกรต์เซอร์" ศาสตราจารย์แห่งเอ็มไอที ผู้ดูแลโครงการนี้ เปิดเผยว่า คณะทำงานได้ออกแบบเครื่องบินโดยสารยุคใหม่ออกมาแล้ว 2 ลำ ภายใต้ชื่อรหัสโครงการ "เอ็น+3"
ลำแรก มีชื่อรุ่นว่า "ดี-ดับเบิลบับเบิ้ล" ขนาด 180 ที่นั่ง สร้างขึ้นเพื่อใช้แทนเครื่องบินโดยสาร "โบอิ้ง 737" สำหรับเส้นทางบินในประเทศ
อีกลำ คือ "เอช-ไฮบริด วิงก์ บอดี้" ขนาด 350 ที่นั่ง ตั้งเป้าเอาไว้บินแทนที่เครื่อง "โบอิ้ง 777" ซึ่งบินเส้นทางระหว่างประเทศ
จุดเด่นชัดเจนของเครื่องในตระกูลดี กับ เอช ดังกล่าวนั้นอยู่ตรงที่ทางเอ็มไอทีได้ย้ายเครื่องยนต์ไอพ่นออกจาก "ปีก" ไปอยู่บริเวณส่วนท้ายของตัวเครื่อง
ส่วน "ลำตัวเครื่องบิน" หรือพูดง่ายๆ ก็หมายถึง "ห้องโดยสาร" นั้นจะขยายพื้นที่ใหญ่ขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับเครื่องบินโบอิ้งปัจจุบัน มองดูเหมือนเอาฟองอากาศสองฟองมาเชื่อมต่อกัน
ภายใต้แนวคิดนี้เครื่องจะบินช้าลง แต่สิ่งที่ตามมาคือจะช่วยลดอัตราการเผาผลาญเชื้อเพลิงลงไป 50-70 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ เมื่อตัวเครื่องใหญ่ขึ้น ก็เท่ากับว่า ไม่ต้องมาเสียเวลารอผู้โดยสารค่อยๆ เดินเบียดเสียดทยอยขึ้นเครื่องบิน เพราะทางเดินกว้างสะดวกสบาย ช่วยชดเชยเวลาการบินที่ช้าลง
โครงการ "เอ็น+3" ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นและยังต้องใช้เวลาอีก 25 ปีกว่าจะสมบูรณ์แบบ แต่ถือเป็นการ "วางแผน" เพื่ออนาคตที่ดีกว่าสำหรับอุตสาหกรรมการบิน
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น