ลำดับตอนที่ #18
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : "บลูม บ็อกซ์" กล่องพลังงานมหัศจรรย์
"บลูม บ็อกซ์" กล่องพลังงานมหัศจรรย์
กระแส "พลังงานทางเลือก" กำลังเป็นสิ่งที่ทุกประเทศให้ความสำคัญ แต่ที่ผ่านมาเรายังไม่เห็นภาพชัดเจนของนวัตกรรมใหม่ๆ
ล่าสุด บริษัท บลูม เอนเนอร์จี้ ได้เปิดตัว "เครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ" ที่มีชื่อว่า "บลูมบ็อกซ์ เอนเนอร์จี้ เซิร์ฟเวอร์"
หรือเรียกสั้นๆ ว่า "บลูมบ็อกซ์"
ผู้พัฒนาอ้างว่า เจ้ากล่องพลังงานชนิดนี้จะให้พลังงานสะอาด และมีประสิทธิภาพดีกว่าการใช้เซลล์แสงอาทิตย์เสียอีก
นายเค. อาร์. ศรีธา ผู้ก่อตั้งบลูม เอนเนอร์จี้ ซึ่งเคยเป็นอดีตนักวิทยาศาสตร์ของสำนักงานอวกาศสหรัฐ (นาซ่า) ให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการ "ซิกซ์ตี้ มินิทส์" ของสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เดิมทีเคยร่วมพัฒนาแหล่งกำเนิดพลังงานขนาดจิ๋วเพื่อใช้ในภารกิจสำรวจดาวอังคาร ต่อมาจึงนำแนวคิดมาปรับปรุง จนกลายเป็นบลูมบ็อกซ์ในที่สุด!
สำหรับระบบการทำงานนั้นอาศัยกระบวนการไฟฟ้าเคมี แปลงอากาศกับแหล่งเชื้อเพลิงต่างๆ เช่น ไฮโดรเจน โพรเพน หรือก๊าซธรรมชาติจำพวกไฮโดรคาร์บอน เพื่อสร้างเป็นพลังงานไฟฟ้า
ที่สำคัญ คือ เซลล์พลังงานที่ใช้เป็นตัวกลางในการเกิดปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมีนั้น แต่ละแผ่นทำขึ้นมาจากทรายธรรมดา ก่อนนำไปผ่านกระบวนการจนกลายเป็นแผ่นเซรามิกบางๆ และถูกเคลือบด้วยสารชนิดพิเศษไว้ทั้งสองด้าน
จากนั้นจึงนำแผ่นเซลล์หลายๆ แผ่นมารวมกันเป็นระบบขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นตู้ขนาดเท่ารถยนต์คันเล็กๆ ซึ่งให้กำลังไฟฟ้าถึง 100 กิโลวัตต์
ส่วนของเสียจากกระบวนการก็คือ น้ำกับคาร์บอนไดออกไซด์ ที่คิดว่าในอนาคตควรจะต้องมีการพัฒนาตรงจุดนี้เพิ่มเติม แต่สนนราคาก็ไม่ใช่ของถูกๆ เพราะต้องจ่ายกันถึง 7-8 แสนดอลลาร์ต่อ 1 เครื่องเลยทีเดียว
ปัจจุบัน บริษัทใหญ่ๆ ของโลกที่ได้สั่งซื้อและทำการติดตั้งใช้งานแล้ว อาทิ กูเกิ้ล (สั่งซื้อเป็นเจ้าแรก), โคคา-โคล่า, วอลมาร์ท, สตาร์บัคส์, เฟดเอ็กซ์, อีเบย์ เป็นต้น
เป้าหมายต่อไปของศรีธามุ่งไปที่การพัฒนาให้เหมาะสมกับการใช้ประโยชน์ตามบ้านเรือน และลดต้นทุนการผลิตให้ถูกลง
คงต้องตามดูกันต่อไปว่าระบบบลูมบ็อกซ์จะมีปัญหาอะไรบ้างในการใช้งานระยะยาว อีกทั้งราคาที่สูงนี้จะสามารถลดลงได้จนกระตุ้นให้ชาวบ้านกล้าซื้อไปใช้หรือไม่
เส้นทางการแสวงหา "พลังงานสีเขียว" แม้ดูจะเป็นทิศทางหลักของโลกอนาคต แต่ยังมีจุดอ่อนตรงเรื่องราคาแพงนั่นเอง
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
 |
ล่าสุด บริษัท บลูม เอนเนอร์จี้ ได้เปิดตัว "เครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติ" ที่มีชื่อว่า "บลูมบ็อกซ์ เอนเนอร์จี้ เซิร์ฟเวอร์"
หรือเรียกสั้นๆ ว่า "บลูมบ็อกซ์"
ผู้พัฒนาอ้างว่า เจ้ากล่องพลังงานชนิดนี้จะให้พลังงานสะอาด และมีประสิทธิภาพดีกว่าการใช้เซลล์แสงอาทิตย์เสียอีก
นายเค. อาร์. ศรีธา ผู้ก่อตั้งบลูม เอนเนอร์จี้ ซึ่งเคยเป็นอดีตนักวิทยาศาสตร์ของสำนักงานอวกาศสหรัฐ (นาซ่า) ให้สัมภาษณ์ไว้ในรายการ "ซิกซ์ตี้ มินิทส์" ของสหรัฐ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เดิมทีเคยร่วมพัฒนาแหล่งกำเนิดพลังงานขนาดจิ๋วเพื่อใช้ในภารกิจสำรวจดาวอังคาร ต่อมาจึงนำแนวคิดมาปรับปรุง จนกลายเป็นบลูมบ็อกซ์ในที่สุด!
สำหรับระบบการทำงานนั้นอาศัยกระบวนการไฟฟ้าเคมี แปลงอากาศกับแหล่งเชื้อเพลิงต่างๆ เช่น ไฮโดรเจน โพรเพน หรือก๊าซธรรมชาติจำพวกไฮโดรคาร์บอน เพื่อสร้างเป็นพลังงานไฟฟ้า
ที่สำคัญ คือ เซลล์พลังงานที่ใช้เป็นตัวกลางในการเกิดปฏิกิริยาไฟฟ้าเคมีนั้น แต่ละแผ่นทำขึ้นมาจากทรายธรรมดา ก่อนนำไปผ่านกระบวนการจนกลายเป็นแผ่นเซรามิกบางๆ และถูกเคลือบด้วยสารชนิดพิเศษไว้ทั้งสองด้าน
จากนั้นจึงนำแผ่นเซลล์หลายๆ แผ่นมารวมกันเป็นระบบขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นตู้ขนาดเท่ารถยนต์คันเล็กๆ ซึ่งให้กำลังไฟฟ้าถึง 100 กิโลวัตต์
ส่วนของเสียจากกระบวนการก็คือ น้ำกับคาร์บอนไดออกไซด์ ที่คิดว่าในอนาคตควรจะต้องมีการพัฒนาตรงจุดนี้เพิ่มเติม แต่สนนราคาก็ไม่ใช่ของถูกๆ เพราะต้องจ่ายกันถึง 7-8 แสนดอลลาร์ต่อ 1 เครื่องเลยทีเดียว
ปัจจุบัน บริษัทใหญ่ๆ ของโลกที่ได้สั่งซื้อและทำการติดตั้งใช้งานแล้ว อาทิ กูเกิ้ล (สั่งซื้อเป็นเจ้าแรก), โคคา-โคล่า, วอลมาร์ท, สตาร์บัคส์, เฟดเอ็กซ์, อีเบย์ เป็นต้น
เป้าหมายต่อไปของศรีธามุ่งไปที่การพัฒนาให้เหมาะสมกับการใช้ประโยชน์ตามบ้านเรือน และลดต้นทุนการผลิตให้ถูกลง
คงต้องตามดูกันต่อไปว่าระบบบลูมบ็อกซ์จะมีปัญหาอะไรบ้างในการใช้งานระยะยาว อีกทั้งราคาที่สูงนี้จะสามารถลดลงได้จนกระตุ้นให้ชาวบ้านกล้าซื้อไปใช้หรือไม่
เส้นทางการแสวงหา "พลังงานสีเขียว" แม้ดูจะเป็นทิศทางหลักของโลกอนาคต แต่ยังมีจุดอ่อนตรงเรื่องราคาแพงนั่นเอง
ที่มา ข่าวสดออนไลน์
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น