รวบรวมข้อมูลแฟนฟิคชั่นโยเกิร์ตติ้งของเฟียร์เรน่า [Yogurting]

ลำดับตอนที่ #13 : Yogurting 2 : Second Semester [Story 3/5] - แผนการร้ายของบลัดดี้ดั๊กกี้

โยเกิร์ตติ้งภาคสอง : เปิดภาคเรียนแห่งการผจญภัย [Yogurting 2 : Second Semester]

เนื้อเรื่องย่อส่วนที่ 3 [Story 3/5]



ในบทนี้จะย้อนกลับไปเขียนบรรยายเกี่ยวกับหนังสือการ์ตูนคอมมิคโยเกิร์ตติ้งในเล่ม 2 อีกครั้ง


ซึ่งเป็นเนื้อหาต่อจากตอนนี้

หลังจากที่แอนนา ไจน่า ซูจง และเกรย์ได้รับรู้ความจริงของการปรากฎตัวของเหล่าวู้ดเฮเลี่ยนนี้แล้ว และเป้าหมายของพวกเขาคือการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ต้นไม้โลกควมคุมแอนติคควีนที่มีพลังมหาศาลที่จะควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างในโรงเรียนได้ ซึ่งทำให้พวกแอนนาได้นึกสงสัยว่า ใครกันที่เป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ซึ่งในคอมมิคนั้นได้เฉลยไว้แล้วนั่นคือ...



บลัดดี้ดั๊กกี้ ผู้ที่เป็นประธานสมาคมครูและผู้ปกครองหรือประธาน PTA (Parent - Teacher Association) ที่คอยตามจิกกัดเหล่านักเรียนทั้งสองโรงเรียนตลอดเวลานั่นเอง ซึ่งจากการประชุมในบทที่แล้วที่เคยบอกไปทำให้ได้ใจความว่า 'สิ่งนั้น' ที่บลัดดี้ ดักกี้พูดถึงมาตลอดว่า สิ่งที่ทำให้ตัวเองมีอำนาจในการควบคุมและบงการทุกสิ่งทุกอย่างได้คือ 'สิ่งนั้น' ซึ่งก็คือ แอนติคควีน นั่นเอง 

จากในรูปนั้น บลัดดี้ดักกี้ กำลังโกรธสุดขีดนั่นก็เพราะการดำเนินการของพวกวู้ดเฮเลี่ยนนั้นล่าช้ามาก และยิ่งเวลาผ่านไปก็อาจทำให้พวกนักเรียนรู้ตัวและหันมาเป็นศัตรูอย่างเป็นทางการมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสภานักเรียนที่กำลังสืบค้นเรื่องพวกนี้อยู่ด้วย ก็ยิ่งเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับบลัดดี้ดั๊กกี้



บลัดดี้ดั๊กกี้ต้องใช้เงิน(ใต้โต๊ะ)ในการจัดการดำเนินการเหล่านั้นมาตลอดเพื่อให้ตนบรรลุแผนที่ตนวางไว้  แต่ต้องมาติดขัดเพราะเด็กสาวแห่งอาณาจักรโบราณ (ตอนนี้เองที่เราตั้งชื่อให้เธอแต่เดิมที่เรียกว่า แอนติคเกริ์ล ว่า แอนตี้ ผู้ที่ใช้พลังเพื่อต่อต้านอำนาจมหาศาลแห่งจักรกลโบราณ) ที่ใช้พลังในการควบคุมและผนึกพลังของแอนติคควีนที่หลับใหลอยู่ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เอง เหล่าวู้ดเฮเลี่ยนนั้นได้เชื่อมต่อกับแอนติคควีนแล้วก็ตามแต่ก็ไม่สามารถบังคับมันได้ตราบใดที่ยังมีเด็กสาวคนนั้นอยู่



แต่แล้ว... ชายปริศนาในชุดสีดำ (ในหนังสือการ์ตูนเรียกว่าบุรุษชุดดำหรือ แบล๊คแมน) ที่อยู่ข้างกายบลัดดี้ดั๊กกี้ก็ได้เสนอความคิดว่า ถ้าหากไม่สามารถควบคุมแอนติคควีนได้เพราะมีเด็กผู้หญิงคนนั้นอยู่ล่ะก็ .. ควบคุมเด็กผู้หญิงคนนั้นมันซะเลยหรือถ้ากำจัดเธอทิ้งได้ล่ะก็ยิ่งดี... และด้วยเส้นสายของบลัดดี้ดั๊กกี้ก็ต้องหาคนที่ลงมือจัดการเรื่องแบบนั้นได้อยู่แล้ว... ซึ่งนั่นทำให้บลัดดี้ดั๊กกี้ตัดสินใจรวมพล พันธมิตรที่จะเข้าร่วมในแผนการครั้งนี้ ได้แก่ แอลโทบัลซ์ (L Topalz)เจ้าของกิจการร้านค้าที่คอยสนับสนุนการทำงานของ PTA และเหล่านักเรียนที่ไม่ชอบคณะกรรมการการศึกษาสภานักเรียนที่จะสามารถชักจูงให้เป็นไปตามแผนของ PTA ได้ง่าย ซึ่งได้แก่พวกสภานักเรียนแห่งความมืด ... และหน้าที่ในการตามหาคนเหล่านั้นก็ขอให้ชายปริศนาในชุดดำเป็นคนจัดการ




ตัดกลับไปที่โรงเรียนสาธิตจันทรานั้นได้มีเหตุการเผชิญหน้ากันครั้งสำคัญระดับสหัสวรรษ ระหว่างชินโซฮยอน รองประธานสภานักเรียนสาธิตจันทรา กับ เชาริน ประธานใหญ่แห่งชมรมวิจัยจิตวิญญาณแห่งสาธิตจันทรา ซึ่งทั้งสองเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานานแล้วเนื่องจากชมรมวิจัยจิตวิญญาณมักจะชอบสร้างเรื่องให้เกิดความวุ่นวายภายในโรงเรียน (ส่วนมากเกิดจากคุระตะ ผู้เป็นรองประธานนั่นแหละ)  ส่วนสภาคณะกรรมการนักเรียนก็ต้องคอยปราบปรามกันมาโดยตลอด



ทั้งสองคนได้มีปากเสียงกันและฉะกันทางคำพูดซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตใจของทั้งสองฝ่ายอย่างรุนแรง และจบลงด้วยการที่ ชินโซฮยอนได้ทำลายยันต์ คุระตะที่มอบให้เธอเป็นของขวัญซะเละไม่เป็นชิ้นดี ทำให้คุระตะเสียใจร้องไห้แงๆและหนีไป ถือเป็นการฉีกหน้าเชาริน ที่มีลูกน้องขี้แยอย่างคุระตะเป็นอันมาก




และไม่นานนักเชารินที่กำลังหงุดหงิดสุดขีดก็ได้เดินจากไป และได้เจอกับแอลโทบัลซ์ซึ่งเป็นเป้าหมายของบลัดดี้ดักกี้พอดิบพอดี ซึ่งเขากำลังมีความสุขจากการนับเงินจำนวนมหาศาลที่ได้จากการค้าขายอาวุธและเครื่องดื่ม(นม)ในช่วงที่เกิดเหตุการณ์ EVP 



เชารินจึงตัดสินใจแกล้งเข้าไปจ้ะเอ๋ แอลโทบัลซ์จากข้างหลังซึ่งทำให้แอลโทบัลซ์ตกใจ และที่ร้ายยิ่งกว่าคือคนๆนั้นเป็นเชารินที่แอลโทบัลซ์รู้จักกันมาก่อนหน้านั้นเป็นการส่วนตัวทำให้เขาไม่พอใจมากที่ต้องมาเจอผู้หญิงคนนี้  อีกทั้งเชารินยังมาขอนมจากแอลโทบัลซ์กินฟรีเหมือนอย่างเคยโดยอ้างว่าไม่ได้เอาเงินมาซึ่งเป็นถือว่าเป็นการขูดรีดขูดเนื้ออย่างร้ายกาจ (ทำเอาป้าเพนกวิ้นยังตกใจเลย) แต่แอลโทบัลซ์ก็ยอมทำตามเพราะเนื่องจาก เชารินเป็นคนกุมความลับที่น่าอายของแอลโทบัลซ์ไว้ทำให้สามารถสั่งให้เขาทำตามคำสั่งเธอได้ตลอด ซึ่งความลับนั้นคือ...

เหตุการณ์ที่เขาเป็นคนทำลูกชายของตัวเองหายไปเมื่อ 15 ปีก่อน...





หลังจากนั้นไม่นาน ชายปริศนาชุดดำก็ปรากฎต่อหน้าแอลโทบัลซ์พร้อมกับยื่นจดหมายให้ไปประชุมในแผนการของบลัดดี้ดักกี้ และในที่ประชุมนั้นเชารินก็ได้ติดตามเขาเข้าไปด้วยซึ่งทำให้แอลโทบัลซ์ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดใจมากขึ้นไปอีกเพราะคิดว่าจะหนีเชารินพ้นแล้วแท้ๆ ซึ่งนั่นทำให้เขารู้ว่าเชารินนั้นเป็นหนึ่งในสภานักเรียนแห่งความมืดโรงเรียนสาธิตจันทรานั่นเอง ซึ่งในการประชุมครั้งนั้นบลัดดี้ดักกี้สงสัยว่าทำไมพวกสภานักเรียนแห่งความมืดของเอสทีว่าไม่มาด้วย ซึ่งแบล๊คแมนก็ได้บอกไปว่า เพราะพวกนั้นมัวแต่...



เราต้องพอกหน้าทำตัวให้สวยๆเข้าไว้ แล้วก็...พี่รักน้องทุกคนนะ จุ้บๆ...ซึ่งเสียงตอบรับก็มีแต่พวกชะนีติ่ง...



ซึ่งแน่นอนว่า พวกนั้นทำตัวติงต๊องไร้สาระเกินกว่าจะเอามาร่วมในแผนการครั้งสำคัญจึงตัดบทเอาเสียดื้อๆเลย....

(และในภาคหลังจากนั้นมันก็คงไม่โผล่ออกมามีบทอีก)

บลัดดี้ดักกี้ เลยตัดสินใจประชุมกันแค่นี้เลย ซึ่งเขาได้บอกเล่าที่มาและแผนการที่จะใช้ว่า เขาจะใช้พลังกลไกของวิทยาการโบราณในการปฏิรูปการศึกษาของโรงเรียนที่ทำให้เกิดนักเรียนที่มีประสิทธิภาพสูง



**เนื่องจากข้อความในคอมมิคนี้มีความกำกวมมากทำให้ไม่สามารถแปลได้อย่างทุกต้องและน่าสับสนมากยิ่งขึ้น** จึงขอข้ามไปและมีข้อสรุปคือ 

บลัดดี้ดักกี้ต้องการปรึกษาหารือเกี่ยวกับแผนที่จะใช้ครอบงำและควบคุมเด็กสาวแห่งอาณาจักรโบราณคนนั้น ซึ่งเชารินได้เสนอว่าเธอมีแผนการที่จะควบคุมเด็กผู้หญิงคนนั้น...



แผนการที่ว่านั้นต้องใช้สิ่งๆหนึ่ง ซึ่งสิ่งนั้นคือ....





ตัดกลับไปทางด้านพวกแอนนาที่โรงเรียนเอสทีว่า ซึ่งในตอนนั้นพวกแอนนาได้รับรู้แล้วว่า..คนที่จ้างวานพวกวู้ดเฮเลี่ยนก็คือพวก PTA นั่นเอง และได้ฟังเรื่องของเด็กสาวแห่งอาณาจักรโบราณต่อจากนั้นว่า ถึงแม้ว่าพลังของเธอจะผนึกกำลังของแอนติคควีนได้ แต่พลังของแอนติคควีนนั้นร้ายกาจมาก พลังบางส่วนของแอนติคควีนนั้นได้หลุดออกมาจากการควบคุมเป็นจำนวนหนึ่งและกำลังสะสมเป็นพลังงานมหาศาลที่ก่อให้เกิดความรู้สึกกดดัน ซึ่งโยชิมารุบอกว่าพลังงานของแอนติคควีนในตอนนี้ที่รู้สึกได้กำลังก่อตัวขึ้นและหลอมรวมกับพลังงานบางอย่างซึ่งเป็นพลังงานความมืดที่ชั่วร้ายมาก ซึ่งทันทีที่กล่าวถึงเรื่องนั้น พวกเกรย์ก็ได้นึกถึงสถานที่ที่หนึ่งที่มีแรงกดดันมหาศาลเช่นนั้น



ที่แห่งนั้นก็คือ โรงเรียนสาธิตจันทรานั่นเอง .. ซึ่งพลังงานเหล่านั้นอาจจะส่งผลกระทบกับเด็กสาวคนนี้ก็ได้ บางทีถ้าไปกำจัดต้นตอของพลังงานมหาศาลเหล่านั้นก็อาจจะทำให้เด็กสาวคนนี้หลุดจากการจองจำก็ได้ ซึ่งหลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวเหล่านี้ พวกเกรย์จึงตัดสินใจที่จะช่วยเหลือเด็กสาวคนนั้นจึงมุ่งหน้าเพื่อไปหาต้นตอของพลังงานนั้นที่โรงเรียนสาธิตจันทรา และได้เข้าไปในเขตสุสานด้านหลังโรงเรียน ยิ่งลึกเข้าไปเรื่อยๆ พวกเขาก็ยิ่งรู้สึกถึงความกดดันจากพลังงานที่ร้ายกาจเหล่านั้น แต่ก่อนที่จะไปถึงที่นั่นพวกเขาได้พบกับ...




เชาริน ประธานชมรมวิจัยจิตวิญญาณนั่นเอง...และได้มีการสนทนากันเล็กน้อยว่า ต่างฝ่ายต่างมาทำอะไรกันที่นี่ แล้วเชารินก็สั่งให้พวกเกรย์ไสหัวออกไป แต่พวกเกรย์ไม่อาจจะทำตามคำสั่งของเชารินได้ เพราะเขาต้องการที่จะมาตรวจสอบถึงพลังงานความชั่วร้ายนั้น ทำให้เชารินไม่พอใจมาก เธอจึงสั่งพวกมอนสเตอร์โครงกระดูกสุนัขที่ชื่อซีโร่เซเว่น (07) ที่ถูกปลุกเสกขึ้นมาเอง โจมตีพวกเกรย์ทันที



เกรย์สามารถปราบมอนสเตอร์ทั้งหมดลงได้อย่างง่ายดาย โดยการโจมตีด้วยหมัดจาร์ลินโบลวเพียงครั้งเดียว (ในหนังสือมั่วไม่ใช่ แกมเบิลแฮนด์สักหน่อย)



แต่เชารินยังไม่คิดตัดใจที่จะไล่พวกเกรย์ออกไป เธอจึงเรียกนักเรียนที่ดูท่าทางประหลาดที่เป็นเด็กหนุ่มผมสีเทาจำนวนหลายสิบคนที่มีหน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบออกมา ซึ่งคนๆนี้ก็คือ นักเรียน A ที่ปรากฎตัวใน Episode นั่นเอง





ศัตรูหน้าใหม่ที่ปรากฎตัวขึ้นสร้างความลำบากให้กับพวกเกรย์เป็นอย่างมากเพราะเจ้าพวกนี้ค่อนข้างแข็งแกร่งผิดมนุษย์ แถมยังมีจำนวนมากด้วย



พวกเกรย์ไม่สามารถต่อสู้กับพวกนักเรียน A จำนวนมากได้และกำลังจะพ่ายแพ้  ทันใดนั้นก็มีคนออกมาห้ามปรามการต่อสู้ที่เกิดขึ้น ซึ่งคนๆนั้นก็คือบาทหลวงเบอร์มองต์



บาทหลวงเบอร์มองต์ได้ตวาดใส่เชารินที่ใช้พลังต้องห้ามปลุกเสกมอนสเตอร์ในโรงเรียน (เฉพาะแค่มอนสเตอร์โครงกระดูกหมา) ซึ่งเชารินก็น้อมรับอย่างว่าง่าย แล้วก็ดีดนิ้วสั่งให้พวกนักเรียน A หายตัวไปให้หมด (อย่างน่ามหัศจรรย์)  แต่ถึงอย่างนั้นบาทหลวงเบอร์มองต์ก็ไม่อาจจะห้ามปรามเชารินไม่ให้ไปใน 'สถานที่แห่งนั้น' ได้ และยังเตือนเชารินว่า ห้ามไปยุ่งเกี่ยวกับ 'พลังต้องห้าม' เด็ดขาด แต่เชารินก็ไม่ฟัง ซึ่งบางทีบาทหลวงเบอร์มองต์ก็ไม่สามารถห้ามปรามเชารินได้อาจจะเป็นเพราะมีเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับ 'พลังต้องห้าม' ในอดีตของเขาเอง




ซึ่งหลังจากที่เชารินได้จากไป พวกเกรย์จึงตัดสินใจที่จะสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องของพลังที่ชั่วร้ายที่ว่านั้นซึ่งพลังเหล่านั้นเป็นต้นต่อที่ก่อให้เกิดการรวบรวมพลังของแอนติคควีน 


ทางด้านเชารินที่ได้เดินเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่งในสุสาน...ที่แห่งนั้นเธอได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่ง



ซึ่งเราเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครจาก EP นี้




บาทหลวงเบอร์มองต์ได้ตัดสินใจที่จะเล่าเรื่องราวต่างๆให้ฟัง...

พลังที่รวมกันและรบกวนการหลับใหลของเด็กสาวแห่งอาณาจักรโบราณ

ต้นต่อของพลังชั่วร้ายที่เกิดขึ้นในโรงเรียนสาธิตจันทราแห่งนี้...



สิ่งๆนั้นคือ...


ปีศาจจิ้งจอกพันปี (Thousand Fox)



*เนื้อหาช่วงต่อไป จะเป็นเนื้อเรื่องในส่วนของมุมมองผู้เล่นที่รับบทบาทเป็นนักเรียนทั่วไปที่เผชิญเนื้อเรื่องราวภาคต่อของโรงเรียนเอสทีว่า*

เครดิตภาพส่วนใหญ่จาก  http://peke.ojaru.jp