ผู้เข้าชมรวม
1,304
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ข้อสังเกตลักษณะของภาษาบาลี มีดังนี้
1. พยัญชนะ ภาษาบาลีมี 33 รูป สันสกฤตมี 35 รูป (เพิ่ม ศ ษ) คือ
|
แถวที่ 1 |
แถวที่ 2 |
แถวที่ 3 |
แถวที่ 4 |
แถวที่ 5 |
วรรค กะ |
ก |
ข |
ค |
ฆ |
ง |
เศษวรรค |
ย ร ล ว ส ห ฬ อ |
ภาษาบาลีมีหลักเกณฑ์การใช้ตัวสะกด ตัวตามที่แน่นอนคือ พยัญชนะที่ จะเป็นตัวสะกดได้ คือ พยัญชนะในแถวที่ 1, 3 และ 5 เท่านั้น โดยมีหลัก เกณฑ์ดังนี้
ก . พยัญชนะแถวที่ 1 สะกด พยัญชนะแถวที่ 1 หรือ 2 เป็นตัวตาม เช่น วักกะ (ไต) ปัจจัย อัตตา อักขระ อิจฉา สมุฏฐาน หัตถ์ บุปผา ฯลฯ
ข. พยัญชนะแถวที่ 3 สะกด พยัญชนะแถวที่ 1 หรือ 2 เป็นตัวตาม เช่น อัคคี สมัชชา สัพพัญญู พยัคฆ์ อัชฌาสัย ยุทธ์ อัพภาส (คำซ้ำ) ฯลฯ
ค . พยัญชนะแถวที่ 5 สะกด พยัญชนะทุกตัวในวรรคเดียวกันเป็นตัวตามได้ เช่น สังกร สังขาร สังคม สงฆ์ กัญญา เบญจะ สัญชาติ สัณฐาน ภัณฑ์ ขันธ์ วันทา สนธิ ฯลฯ
ง . ถ้าตัวสะกดอยู่ในเศษวรรค เช่น ย ล ส จะใช้ตัวสะกดตัวตามตัวเดียวกัน เช่น อัยยิกา (ย่า , ยาย) ปัยยิกา (ย่าทวด , ยายทวด) อัยยะ (ผู้เป็นเจ้า , ผู้เป็นใหญ่) บัลลังก์ มัลลิกา (ดอกมะลิ) อัสสุชล มัสสุ (หนวด) ประภัสสร ฯลฯ
2.สระ ภาษาบาลีมีสระ 8 รูป คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ ( สันสกฤต มี 14 รูป โดยเพิ่ม ไอ เอา ฤ ฤา ฦ ฦา )
ข้อแตกต่างระหว่าง ภาษาบาลี และ สันสกฤต สรุปได้ดังนี้
ภาษาบาลี |
ภาษาสันสกฤต | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|
ข้อสังเกต คำที่มาจากภาษาบาลี สันสกฤต จะแตกต่างจากคำที่มาจากภาษาอื่นๆ คือ “ ว ” กับ “ พ ” สามารถใช้แทนที่กันได้โดยความหมายไม่เปลี่ยนแปลง เช่น สุวรรณ สุพรรณ , รวี รพี , วัชรา พัชรา , วร พร , วนิดา พนิดา , วิสุทธิ์ พิสุทธิ์ , มาณว มาณพ ฯลฯ
ชนิดของคำในภาษาบาลี |
ถ้าแบ่งตามลักษณะการแจกรูป มี 3 ชนิด
1. ศัพท์ที่ต้องแจกด้วยวิภัตติ์นาม ได้แก่
ก. นามนาม (noun)
ข. สัพพนาม (pronoun)
ค. คุณนาม (adjective)
ง.กริยากิตก์ (participle) บางชนิด
3 กลุ่มแรกเรียกว่า นามศัพท์ (nominal stem)
2. ศัพท์ที่ต้องแจกด้วยวิภัตติ์อาขยาต เรียกว่า กริยาอาขยาต โดยปกติได้แก่กริยาแท้ (finite verb) ในประโยค แจกจากธาตุ (root)
3. ศัพท์ที่ไม่ต้องแจกวิภัตติ์ เรียกว่า อัพยยศัพท์ (indeclinable) ได้แก่
ก. อุปสรรค (prefix)
ข. ปัจจัย (suffix)
ค. นิบาต (particl)
ง. กริยากิตก์บางชนิด
ประโยคในภาษาบาลีี |
อาจประกอบด้วยกริยาตัวเดียวเวลาแปลต้องเติมสรรพนามที่เหมาะสมกับบุรุษและพจน์ของกริยา แต่โดยปกติโครงสร้างประโยคภาษาบาลีคือ
ประธาน + กรรม + กริยา (SOV)
เสียงในภาษาสันสกฤต
อักษรโฆษะ (surd) 13 ตัว ได้แก่
1. พยัญชนะตัวที่ 1, 2 ของแต่ละวรรค
2. พยัญชนะอูษมัน (sibilant) ได้แก่ ś, sÚ, s
อักษรโฆษะ (sonant) ได้แก่
1. สระทั้งหมด
2. พยัญชนะตัวที่ 3, 4, 5 ของแต่ละวรรค
3. y, r, l, v, h, ( lÚ )
เครื่องหมายแทนเสียง: mÚ มีเสียงโฆษะ hÚ มีเสียงอโฆษะ
พยางค์
1. พยางค์คุรุ (heavy syllable) ได้แก่พยางค์ที่มีคุณสมบัติตามข้อก. หรือ ข.
ก. มีสระเสียงยาว หรือสระ e, āi, o, āu
ข. มีสระเสียงสั้นแต่มีพยัญชนะซ้อนหรือพยัญชนะสังโยค
(samฺyuktavyañjana) ตามหลัง
2. พยางค์ลฆุ (light syllable) ได้แก่พยางค์ที่มีสระเสียงสั้นและไม่มีพยัญชนะสังโยคตามหลัง (มีพยัญชนะตามหลังตัวเดียวได้)
สระ 3 ขั้นในภาษาสันสกฤต
ขั้นปกติ (zero grade) a ā i ī u ū rÚ ŕÚ lÚ
l l \ / \ / \ / l
ขั้นคุณ (gunฺa) a ā e o ar al
\ / l l l l
ขั้นพฤทธิ (vrÚddhi) ā āi āu ār āl
ประโยคในภาษาสันสกฤต
อาจประกอบด้วยกริยาตัวเดียวเวลาแปลต้องเติมสรรพนามที่เหมาะสมกับบุรุษและพจน์ของกริยา แต่โดยปกติโครงสร้างประโยคภาษาสันสกฤตคือ
ประธาน + กรรม + กริยา (SOV) เหมือนกับในภาษาบาลี
การแจกวิภัตติ์(วิภักติ์)อาขยาต(Conjugation of Verbs)
มีวิธีสร้างคล้ายคลึงกับในภาษาบาลี และต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆ เหมือนกับในภาษาบาลี แต่ต่างกันเล็กน้อย
1. กาล (tense) [และมาลา (mood)]ในภาษาสันสกฤตแบ่งกาลเป็นระบบใหญ่ๆ เหมือนภาษาบาลี คือ ปรัตยุตบันกาล (present system) อดีตกาล (past system) และอนาคตกาล (future system) แต่ละระบบแจกได้หลายแบบเช่นกัน
2. วาจก (voice) ในภาษาสันสกฤตแบ่งอย่างกว้างๆ เป็น 3 แบบ ได้แก่ประโยคกรรตฤ (active) ประโยคกรรม (passive) และประโยค ภาวะ (impersonal passive) แต่ละชนิดแบ่งย่อยออกไปอีกได้ตามรูปกริยา
3. พจน์ ในภาษาสันสกฤตมี 3 พจน์ ได้แก่ เอกพจน์ หรือเอกวจนะ (singular) ทวิพจน์ หรือ ทวิวจนะ (dual) และพหูพจน์ หรือพหุวจนะ (plural)
4. บรุษมี 3 บรุษ ได้แก่ ประถมบุรุษ (third person) มัธยมบุรุษ (second person) และ อุดมบุรุษ (first person)
การแจกกริยาปรัตยุตบันกาล วรรตมานาวิภักติ์ ปรัสไมบท (Present Indicative Active)
ชุดวิภัตติ์ (วิภักติ์) อาขยาตเป็นดังนี้
|
Singular |
Dual |
Plural |
first person |
mi |
vas |
mas |
second person |
si |
thas |
tha |
third person |
ti |
tas |
anti |
ธาตุในภาษาสันสกฤตมีทั้งหมด 10 หมวด
หมวดที่ 1 หมวด ภู (ภวาทิคณะ) (bhū-class / Unaccented a-class)
หมวดที่ 2 หมวด อทÚ (อทาทิคณะ) (ad-class / Root Class)
หมวดที่ 3 หมวด หุ (หวาทิคณะ) (hu-class / Reduplicative Class)
หมวดที่ 4 หมวด ทีวÚ (ทีวาทิคณะ) (Unaccented ya-class)
หมวดที่ 5 หมวด สุ (สวาทิคณะ) (su-class / nu-class)
หมวดที่ 6 หมวด ตุทÚ (ตุทาทิคณะ) (tud-class / Accented á-class)
หมวดที่ 7 หมวด รุธÚ (รุธาทิคณะ) (rudh-class / Nasal Class)
หมวดที่ 8 หมวด ตนÚ (ตนาทิคณะ) (tan-class / o-class)
หมวดที่ 9 หมวด กÚรี (กรยาทิคณะ) (krī-class / nā-class)
หมวดที่ 10 หมวด จุรÚ (จุราทิคณะ) (cur-class / áya-class)
การแจกธาตุหมวดที่ 1 (bhū-class / Unaccented a-class) |
การแจกธาตุหมวดที่ 1 (bhū-class / Unaccented a-class)
วิกรณ์คือ -a- มีขั้นตอนคือ
1. ลงคุณให้แก่ธาตุ (เปลี่ยนสระของธาตุให้เป็นขั้นคุณ)
ก. ขั้นคุณของ a เป็น a
ข. ถ้าธาตุเป็นพยางค์คุรุที่ลงท้ายด้วยพยัญชนะ สระไม่เปลี่ยน
2. ลงวิกรณปรัตยัย (vikaranÚapratyaya) หรือวิกรณ์ จะได้เค้ากริยา
ปัจจุบันกาล (present verbal stem)
3. แจกวิภัตติ์อาขยาต (personal ending) เหมือนภาษาบาลี
√jīv มีชีวิตอยู่ |
jīv- |
jīv + a- |
jīva + ti |
jīvati |
√nind ตำหนิ |
nind- |
nind + a- |
ninda + ti |
nindati |
√budh รู้ |
bodh- |
bodh + a- |
bodha + ti |
bodhati |
√vad พูด |
vad- |
vad + a- |
vada + ti |
vadati |
√smrÚ ระลึกถึง |
smar- |
smar + a- |
smara + ti |
smarati |
ตัวอย่าง √pac หุงต้ม
|
Singular |
Dual |
Plural |
first person |
pacāmi |
pacāvas |
pacāmas |
second person |
pacasi |
pacathas |
pacatha |
third person |
pacati |
pacatas |
pacanti |
1. เมื่อลงคุณให้แก่ธาตุแล้ว ได้สระ e / o ไม่มีพยัญชนะตาม ก่อนลงวิกรณ์ให้เปลี่ยน e > ay, o > av
√ji ชนะ |
je- |
jay + a- |
jaya + ti |
jayati |
√dru วิ่ง |
dro- |
drav + a- |
drava + ti |
dravati |
√nī นำ |
ne- |
nay + a- |
naya + ti |
nayati |
√bhū กลายเป็น |
bho- |
bhav + a- |
bhava + ti |
bhavati |
2. ธาตุที่ไม่แจกตามกฎ
√gam ไป |
gacch- |
gacch + a- |
gaccha + ti |
gacchati |
√guh ซ่อน |
gūh- |
gūh + a- |
gūha + ti |
gūhati |
√yam จัดให้ |
yacch- |
yacch + a- |
yaccha + ti |
yacchati |
√sad นั่ง |
sīd- |
sīd + a- |
sīda + ti |
sīdati |
3. ธาตุที่มีการซ้อนพยางค์ (reduplication)
√pā ดื่ม |
pib- |
pib + a- |
piba + ti |
pibati |
| |
√sthā ยืน |
tisÚtÚh- |
tisÚtÚh + a- |
tisÚtÚha + ti |
tisÚtÚhati |
| |
|
การแจกธาตุหมวดที่ 6 (tud-class / Accented á-class) | |||||
วิกรณ์คือ -á- มี accent (แต่ไม่ต้องเขียน accent)
1. ธาตุทั่วไปไม่ต้องลงคุณเหมือนหมวด 1 แต่ลงวิกรณ์แล้วแจกวิภัตติ์ ได้เลย
√krฺsฺ ไถ |
krÚsÚ - |
krÚsÚ + a- |
krÚsÚa + ti |
krÚsÚati |
√ksฺip ขว้าง |
ksþip- |
ksþip + a- |
ksþipa + ti |
ksþipati |
√diś ชี้ |
diś- |
diś + a- |
diśa + ti |
diśati |
√viś เข้าไป |
viś- |
viś + a- |
viśa + ti |
viśati |
√srฺj ปล่อยไป |
srþj- |
srþj + a- |
srþja + ti |
srþjati |
√sprฺś แตะ |
sprþś - |
sprÚś + a- |
sprþśa + ti |
sprþśati |
2. ธาตุที่ลงท้ายด้วย rฺ บางตัว เปลี่ยน rฺ เป็น ir
√krฺ กระจาย |
kir- |
kir + a- |
kira + ti |
kirati |
3. ธาตุที่ลงท้ายด้วย i, u, ū อาจแทรก y / v ตามลำดับ
√ksฺI พักอยู่ |
ksþi- |
ksþi + a- |
ksþiya + ti |
ksþiyati |
√dhū สั่น |
dhu- |
dhu + a- |
dhuva + ti |
dhuvati * |
√su ไป |
su- |
su + a- |
|
suvati |
หมายเหตุ: √dhū อาจแจกเป็น dhunoti ตามแบบหมวดที่ 5 ก็ได้
4.ธาตุหลายตัวที่ลงท้ายด้วยพยัญชนะต้องแทรกอนุนาสิก
ลงหน้าพยัญชนะท้ายธาตุ
√krþt ตัด |
krþnt- |
krþnt + a- |
krþnta + ti |
krþntati |
| |
√muc ปล่อย |
muñc- |
muñc + a- |
muñca + ti |
muñcati |
| |
√lip ฉาบทา |
limp- |
limp + a- |
limpa + ti |
limpati |
| |
√sic ประพรม |
siñc- |
siñc + a- |
siñca + ti |
siñcati |
| |
|
การแจกธาตุหมวดที่ 4 (dīv-class / Unaccented ya-class) | |||||
วิกรณ์คือ -ya- มีวิธีสร้างคือ root + ya + ending
1. ธาตุทั่วไปไม่เปลี่ยนรูป ลงวิกรณ์ได้เลย
√kup โกรธ |
kup- |
kup + ya- |
kupya + ti |
kupyati |
√naś พินาศ |
naś- |
naś + ya- |
naśya + ti |
naśyati |
2.ธาตุบางธาตุนักไวยากรณ์ตะวันตกกับนักไวยากรณ์อินเดียเรียกไม่ตรงกัน
√gā / gāi ร้องเพลง |
gā- |
gā + ya- |
|
gāyati |
√dhā / dhye ดูดนม |
dha- |
dha + ya- |
dhaya + ti |
dhayati |
√hū, hvā / hve เรียก |
hva- |
hva + ya- |
hvaya + ti |
hvayati |
3. ธาตุบางธาตุใช้แจกเพียงบางกาล เช่น √drฺś และ √paś เห็น, มองดู ในระบบปัจจุบันกาลแจกด้วย √paś แต่อนาคตกาลและอดีตกาลบางรูปแจก ด้วย √drฺś
√paś เห็น |
paś- |
paś + ya- |
paśya + ti |
paśyati |
4. ธาตุที่ลงท้ายด้วย am และเสียงอื่นบางเสียงยืด a เป็น ā ก่อนลงวิกรณ์
√tam เสียใจ |
tām- |
tām + ya- |
tāmya + ti |
tāmyati |
√bhram วนเวียน |
bhrām- |
bhrām + ya- |
bhrāmya + ti |
bhrāmyati |
√mad มึนเมา |
mād- |
mād + ya- |
mādya + ti |
mādyati |
5. ธาตุหมวดที่ 1 บางธาตุได้แนวเทียบจากข้อ 4 ข้างต้นด้วย
√kram ก้าว |
krām- |
krām + a- |
krāma + ti |
krāmati |
ā√cam ล้าง |
ācām- |
ācām + a- |
ācāma + ti |
ācāmati |
6.ธาตุยกเว้นที่เปลี่ยนสระกลางจาก ya เป็น i
√vyadh แทง |
vidh- |
vidh + ya- |
vidhya + ti |
vidhyati |
| |
|
การแจกธาตุหมวดที่ 10 (cur-class / áya-class) และกริยาที่สัมพันธ์กัน | |||||
ในภาษาสันสกฤต มีกริยาศัพท์ 3 ประเภทที่แจกเหมือนกัน
1. ธาตุหมวดที่ 10
2. กริยาการีตหรือกริยาเหตุกัตตุวาจก (Causative Verb)
3. กริยานามธาตุ (Denominative Verb)
กริยาเหล่านี้ลง -aya- ปัจจัย (ถ้าเป็นหมวดที่ 10 เรียกว่าวิกรณ์นอกนั้น ไม่เรียก) อาจมี accent หรือไม่มีตรงกันก็ไม่สำคัญ
|
เปลี่ยนสระของธาตุให้เป็นขั้นคุณหรือพฤทธิ แล้วลง -aya- ปัจจัย ส่วนการเปลี่ยนสระต้นธาตุ กลางธาตุ หรือท้ายธาตุมีหลักคือ 1.ธาตุมีตัวสะกด มีสระ i, u, rฺ หน้าตัวสะกด สระดังกล่าวเปลี่ยนเป็นขั้นคุณ
2. ธาตุมีตัวสะกด แต่สระข้างหน้าเป็นเสียงยาว คงเดิม
3. ธาตุลงท้ายด้วยสระ ไม่มีตัวสะกด เปลี่ยนสระเป็นขั้นพฤทธิ
หมายเหตุ: √bhī ไม่ใช่หมวดที่ 10 แต่บางครั้งแจกเหมือนหมวดที่ 10 4. สระ a ต้นหรือกลางธาตุบางทีคงเดิม บางทียืดออก
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
ใช้เมื่อประธานของประโยคสั่งหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำกริยา แปลว่า ยัง
ให้
(ทำ)
เทียบภาษาอังกฤษ to make somebody do something / to cause somebody to do something หรือไม่ก็เปลี่ยนความหมายของธาตุจาก อกรรม (Intransitive) เป็นสกรรม (Transitive)
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
ได้แก่กริยาที่ดัดแปลงมาจากนามศัพท์ คือนำนามศัพท์มาแจกเป็นกริยา
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
การแจกวิภัตติ์ (วิภักติ์) นาม (Declension of Nouns) |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในการแจกต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆ เหมือนกับในภาษาบาลี แต่ต่างกันบ้าง
สันสกฤตมี 3 ลิงค์ได้แก่ ปุลลิงค์ (masculine) สตรีลิงค์ (feminine) และ นปุงสกลิงค์ (neuter)
และมี 3 พจน์ได้แก่ เอกพจน์หรือเอกวจนะ(singular)ทวิพจน์หรือทวิวจนะ(dual) และพหูพจน์ หรือพหุวจนะ (plural)
ส่วนการันต์ของนามศัพท์ สันสกฤตมีได้ทั้งสระการันต์และพยัญชนะการันต์
การแจกนามนาม อ-การันต์ ปุลลิงค์ |
ตัวอย่าง deva เทวะ
|
Singular |
Dual |
Plural | ||
วิภัตติ์ที่ 1 |
devas |
devāu |
devās | ||
วิภัตติ์ที่ 2 |
devam |
devāu |
devān | ||
วิภัตติ์ที่ 3 |
devena |
devābhyam |
devāis | ||
วิภัตติ์ที่ 4 |
devasya |
devābhyam |
devebhyas | ||
วิภัตติ์ที่ 5 |
devāt |
devābhyam |
devebhyas | ||
วิภัตติ์ที่ 6 |
devasya |
devayos |
devānām | ||
วิภัตติ์ที่ 7 |
deve |
devayos |
devesÚu | ||
อาลปนะ |
deva |
devāu |
devās | ||
|
การแจกวิภัตติ์ อ-การันต์ นปุงสกลิงค์ |
| |||
ตัวอย่าง phala ผลไม้
|
Singular |
Dual |
Plural |
| |
วิภัตติ์ที่ 1 |
phalam |
phale |
phalāni |
| |
วิภัตติ์ที่ 2 |
phalam |
phale |
phalāni |
| |
วิภัตติ์ที่ 3-7 (oblique cases) เหมือนปุลลิงค์ |
| ||||
อาลปนะ |
phala |
phale |
phalāni |
| |
|
การแจกนามนาม อิ-การันต์ ปุลลิงค์ | ||||
ตัวอย่าง agni ไฟ
|
Singular |
Dual |
Plural |
| |
วิภัตติ์ที่ 1 |
agnis |
agnī |
agnayas |
| |
วิภัตติ์ที่ 2 |
agnim |
agnī |
agnīn |
| |
วิภัตติ์ที่ 3 |
agninā |
agnibhyām |
agnibhis |
| |
วิภัตติ์ที่ 4 |
agnaye |
agnibhyām |
agnibhyas |
| |
วิภัตติ์ที่ 5 |
agnes |
agnibhyām |
agnibhyas |
| |
วิภัตติ์ที่ 6 |
agnes |
agnyos |
agnīnām |
| |
วิภัตติ์ที่ 7 |
agnāu |
agnyos |
agnisþu |
| |
อาลปนะ |
agne |
agnī |
agnayas |
| |
|
การแจกนามนาม อิ-การันต์ นปุงสกลิงค์ | ||||
ตัวอย่าง vāri น้ำ
|
Singular |
Dual |
Plural |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วิภัตติ์ที่ 1 |
vāri |
vārinþī |
vārīnฺi |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วิภัตติ์ที่ 2 |
vāri |
vārinþī |
vārīnฺi |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วิภัตติ์ที่ 3 |
vārinþā |
vāribhyām |
vāribhis |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วิภัตติ์ที่ 4 |
vārinþe |
vāribhyām |
vāribhyas |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วิภัตติ์ที่ 5 |
vārinþas |
vāribhyām |
vāribhyas |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วิภัตติ์ที่ 6 |
vārinþas |
vārinþos |
vārīnþām |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
วิภัตติ์ที่ 7 |
vārinþi |
vārinþos |
vārisþu |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
อาลปนะ |
vāri / vāre |
vārinþī |
vārīnþi |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
ตัวอย่าง bhānu ดวงตะวัน
| |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
การแจกนามนาม อุ-การันต์ นปุงสกลิงค์ |
| ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตัวอย่าง madhu น้ำผึ้ง
|
Singular |
Dual |
Plural |
วิภัตติ์ที่ 1 |
madhu |
madhunī |
madhūni |
วิภัตติ์ที่ 2 |
madhu |
madhunī |
madhūni |
วิภัตติ์ที่ 3 |
madhunā |
madhubhyām |
madhubhis |
วิภัตติ์ที่ 4 |
madhune |
madhubhyām |
madhubhyas |
วิภัตติ์ที่ 5 |
madhunas |
madhubhyām |
madhubhyas |
วิภัตติ์ที่ 6 |
madhunas |
madhunos |
madhūnām |
วิภัตติ์ที่ 7 |
madhuni |
madhunos |
madhusþu |
อาลปนะ |
madhu / madho |
madhunī |
madhūni |
ผลงานอื่นๆ ของ Nattanee_Charoenlarpkul ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Nattanee_Charoenlarpkul
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้
ความคิดเห็น