ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Conan x Code Blue FANFIC] Shiroi-Omami CHRISTMAS

    ลำดับตอนที่ #1 : part1 - การพบกันที่คาดไม่ถึง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.17K
      13
      18 ก.ค. 58

    SHIROI-OMAMI CHRISTMAS --------------- (WHITE-SWEET CHRISTMAS)

    Author: Saru-Kumi [24 DEC. 2009 2 JAN. 2010][EDITING 15 MAY. 2014]
    Rate   : Love Story/Drama/สืบสวนสอบสวน

                    บุคคลและเนื้อเรื่องบางส่วนเป็นส่วนหนึ่งจากการ์ตูนเรื่อง ยอดนักสืบจิ๋ว โคนันซึ่งเป็นลิขสิทธิ์ของ อ.โกโช อาโอยาม่า และซีรี่ส์เรื่อง Code Blue ซึ่งเป็นลิขสิทธิของสถานีโทรทัศน์NHK แต่เนื้อเรื่องต่อไปนี้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องจริง ในซีรี่ส์ หรือเรื่องในการ์ตูนแต่อย่างใด

    ~*~

     

    Part 1

    การพบกันที่คาดไม่ถึง

     

     

    บรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองเบกะยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนไม่แพ้ตอนเที่ยงวันที่ผ่านมา ต้นสนสูงใหญ่ซึ่งประดับด้วยไฟระยิบระยับ กล่องของขวัญ ของเล่น รวมทั้งดาวสีทองอร่ามที่วางประดับไว้บนจุดสูงสุดของต้นสนนั้น ตั้งอยู่กลางสวนสาธารณะห่างจากหอคอยโทโตะไม่มากนัก บริเวณโดยรอบสว่างไสวจากร้านค้าและของประดับต่างๆ ผู้คนจำนวนไม่น้อยทีเดียวที่มาเดินชมบรรยากาศยามค่ำคืนนี้และเฝ้ารอเวลานับถอยหลังเข้าสู่ช่วงปีใหม่

    หญิงสาวและชายหนุ่มเดินเกาะกลุ่มกันมา พวกเขามองเด็กๆหลายคนซึ่งพากันวิ่งไปขึ้นชิงช้าสววรค์ขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ถัดจากต้นคริสต์มาสต้นใหญ่ใจกลางสวนสาธารณะเบกะ

     

    แหม... ปีนี้ทำไมดูวุ่นวายกันจัง”  ชายร่างอ้วนท้วนในชุดสเวตเตอร์สีตุ่นกล่าวขึ้นเมื่อเห็นฝูงคนคลาคล่ำตรงหน้า

    จะว่าไปแล้ว ปีก่อนเกิดคดีฆาตกรรมที่หอคอยโทโตะสินะ เห็นว่าชิบะกับทาคางิต้องรับผิดชอบคดีอยู่จนกระทั่งผ่านคืนปีใหม่ไปเลยใช่มั้ยล่ะ” ชายร่างอ้วนมีอายุอีกคนตอบกลับ

    อย่าพูดอย่างงั้นสิครับท่านสารวัตร ผมกะว่าวันนี้จะเล่นให้คุ้มแทนปีก่อนด้วยนะ” ชายหนึ่งในคนที่ถูกอ้างชื่อพูดด้วยน้ำเสียงปนเสียดาย

    “แหมๆ ทาคางิคุง เล่นให้คุ้มกับที่ปีก่อนมิวาโกะต้องฉลองกับฉันแค่สองคนด้วยสิ คอยดูนะ ปีนี้ฉันต้องเอาของขวัญกลับบ้านให้ได้เลยคอยดูสิ ...นี่ๆ มิวะจังว่าไง!!

    “เล่นเป็นเด็กๆไปได้น่ะ ยูมิ” หญิงสาวที่ถูกถามทำหน้าแหยใส่เพื่อนสาวของตน

    “แหม พูดเป็นเล่นไปคุณซาโต้ แถวนี้มีเด็กน้อยคนนึงสัญญาว่าจะไปเล่นยิงเป้าเอาตุ๊กตาไปฝาก เธอคนนั้น ด้วยนี่เนอะ ...คุณชิราโทริ

    “นี่ ชิบะ คำว่าเด็กของนายน่ะหมายความว่ายังไง แถมไอ้ เธอคนนั้น นี่... อยากให้ผมยื่นเรื่องปลดประจำการใช่มั้ยครับ!

    ชายผู้ถูกเรียก ชิราโทริ เมื่อโดนพาดพิงก็หน้าแดงด้วยความอาย ทุกคนที่หันไปมองเมื่อเห็นใบหน้าที่หาได้ยากของเขาจึงมอบเสียงหัวเราะให้อย่างยินดี

     

     คืนก่อนปีใหม่นี้ตำรวจในกองสืบสวนที่ 1 ชักชวนกันว่าจะมาเที่ยวงาน Beiga New Year Fair ซึ่งปีนี้จัดเป็นปีที่2ทั้งกอง แต่คำชักชวนแบบนี้ย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แน่นอนผลลัพท์ที่ออกมาก็กลายเป็นว่าต่างคนต่ากลับไปเที่ยวและฉลองงานปีใหม่กับครอบครัว  จะเหลือก็แต่นายตำรวจผู้โดดเดี่ยว หรือคนที่นิยมพาครอบครัวไปเที่ยวด้วยกันทุกที่อย่างสารวัตรเมงูเระและลูกน้องของเขา : ซาโต้ ทาคางิ ยูมิ ชิบะ และชิราโทริ เท่านั้น

    “นี่ สารวัตรเมงูเระคะ ที่ว่าจะพามาพบใครนี่ ...ใครเหรอคะ” ยูมิถามขึ้น

    “เอาน่า เดี๋ยวก็รู้เองแหละ” สารวัตรตอบด้วยสีหน้าระรื่นท่ามกลางสีหน้างุนงงของทุกคน “ที่สำคัญ ไม่ใช่เวลางานแท้ๆ  เรียกฉัน สารวัตร เนี่ย รู้สึกเหมือนกลายเป็นหัวหน้าแก๊งค์พาหนุ่มสาวโฉดมาเดินหาเรื่องคนอื่นอะไรประมาณนั้นเลยนะ...”

                “เดี๋ยวสิครับสารวัตร! ไม่มีอันธพาลที่ไหนเรียกหัวหน้าว่าสารวัตรหรอกนะ!” ชิบะแย้ง        “ฉันหมายถึงว่า มันทำให้ฉันดูเป็นคนแก่ไปน่ะสิ”

     

                เกิดความเงียบชั่วขณะในวงของเหล่าตำรวจนครบาล           

                “งะ...งั้นเหรอครับ งั้นให้เรียกว่า รุ่นพี่ ดีมั้ยครับ ดูเป็นที่น่าเคารพของน้องๆอะไรประมาณนั้นน่ะ ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ” ทาคางิกล่าวขึ้นเพื่อทำลายความเงียบในระหว่างการสนทนาพร้อมกับเดิมชมงาน

                “เฮ่ย ทาคางิ ดูหนุ่มเกินไปมั้ง เรียกง่ายๆอย่าง คุณเมงูเระ จะดีกว่ามั้ง” ชิบะเถียง

                “เล่นอะไรกันไม่เข้าท่าเลย ให้ความเคารพกันหน่อยสิ นี่หัวหน้างานของเรานะ”

                ซาโต้ผู้เถรตรงและนอบน้อมในความอาวุโส(เกินไป) ตัดบทสนทนาของสองหนุ่มเข้าอย่างจัง นั่นทำให้ทุกคนแม้กระทั่งสารวัตรเองก็หันมามองเธออย่างตกตะลึงและทำสีหน้าแบบที่มีอักษรเขียนบนหน้าว่า เธอเห็นฉันแก่ขนาดนั้นเชียว?

                “อ...เอ๋ ทำไมทุกคนมองฉันแบบนั้นล่ะ ...ถะ....ถ้างั้นนะ คือท่านสารวัตรก็อายุน้อยกว่าพ่อของฉันอยู่หน่อย ...ถ้างั้นเรียกว่า น้า ดีกว่า ...ดีมั้ยคะ น้าเมงูเระ

                ซาโต้ยิ้มแหยๆให้สารวัตรของตน ก่อนที่จะสังเกตเห็นสีหน้าเบื่อหน่ายของผู้เป็นหัวหน้า เขาถอนหายใจก่อนพูดลอยๆไร้อารมณ์ “อย่างงั้น ถ้าเห็นฉันเป็นคนแก่ขนาดนั้น ...เรียกสารวัตรเถอะ”

                ซาโต้ได้แก่ก้มหัวให้เมงูเระพลางพูด ขอโทษด้วยค่ะๆๆ หลายครั้งจนกลายเป็นภาพที่น่าขำ ทุกคนจึงหัวเราะขึ้นอีกครั้ง ไออุ่นจากเสียงหัวเราะทำให้เมงูเระยิ้มและเอามือวางบนบ่าก่อนจะหัวเราะบ้าง

     

                “อ๊ะ...คุณคะ ขอโทษทีค่ะ พอดีว่าฉันติดธุระ ก็เลยมาช้าไปหน่อย ต้องขอโทษด้วยนะคะ

                เสียงของหญิงสาวมีอายุคนหนึ่งแทรกเสียงหัวเราะของทุกคน เธอเดินเข้ามาในกลุ่มและมายืนอยู่ข้างๆสารวัตร ถึงเธอจะมีอายุแล้ว แต่หน้าตาก็สะสวยดูอ่อนกว่าวัยมาก เมื่อทุกคนได้ยลโฉมเธออย่างคร่าวๆแล้ว สารวัตรก็กล่าวแนะนำภรรยาของตนอย่างเป็นทางการ

                “นี่ภรรยาฉัน มิโดริ  ที่เคยพูดถึงบ่อยๆไง ....เออนี่ มิโดริ นี่ลูกน้องฉัน ทาคางิ ซาโต้ ชิบะ ชิราโทริ แล้วก็คนที่ฝ่ายจราจร ชื่อยูมิ วันนี้ฉันพาพวกเขามาเที่ยวด้วยกันนะ คนเยอะๆสนุกกว่า จริงไหม”

            “ต้องฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ ดิฉันมิโดริค่ะ ขอบคุณที่ร่วมงานกับสามีดิฉันนะคะ”

                มิโดริ ภรรยาผู้เรียบร้อยและเพียบพร้อม ค้อมตัวให้เหล่าลูกน้องที่อายุน้อยกว่าตน นั่นทำให้ทุกคนเลิกลั่กและทำตัวไม่ถูกกับความเรียบร้อยนี้เลยทีเดียว

                ในระหว่างที่สารวัตรของตนพูดคุยกับภรรยา ลูกน้องจึงได้โอกาสเปิดวงนินทาเจ้านายอย่างที่ทำอยู่บ่อยๆ               

                “ไม่น่าเชื่อนะ ว่าสารวัตรจะมีแฟนสวยขนาดนี้”

                “เรียบร้อยมากเลย เรียบร้อยมากๆ อายตัวเองจริงๆ”

            ต...แต่ว่า อย่างงี้รู้สึกว่าจะยังไม่มีลูกนะ

                “ไม่น่าเชื่ออ่ะ ได้ยินมาว่าเจอกันตอนที่เธอไปเป็นนกต่อให้ แล้วก็เป็นแฟนกันใช่มั้ย”

                “ใช่แน่ๆ คุณโมริเคยเล่าให้ฉันฟังด้วยนะ

                 

                “เอ้า ไปกันเถอะทุกคน ...ทุกคน?”

                ท่านสารวัตรกับภรรยาผู้ตกเป็นเป้าหมายนินทาได้แต่มองกลุ่มตำรวจเหล่านั้น และหันมามองหน้ากันอย่างงงๆ

     

    ~*~

                หลังจากนั้น สารวัตร ภรรยาของเขา และเหล่าลูกน้อง ใช้เวลากับการเดินแวะซื้ออาหารตามร้านแผงลอยที่ตั้งขายรอบๆสวนสาธารณะซึ่งเป็นบริเวณจัดงานปีใหม่ แน่นอนว่าสำหรับเรื่องอาหารแล้ว แกนนำต้องหนีก็ไม่พ้น ชิบะ แต่คนที่อาสาออกเงินซื้ออาหารทั้งหมดกลับเเป็นสารวัตรเมงูเระซึ่งอาวุโสที่สุดอยู่ดี ทั้งๆที่เหล่าลูกน้องบอกปัดด้วยความเกรงใจไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จนกระทั่งถึงจุดอิ่มตัวของการทานอาหาร สารวัตรผู้ออกเงินทั้งหมดขอปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำ และทิ้งให้ภรรยากับลูกน้องของตนยืนรออยู่ตรงนั้น

     

                “อ๊า!! เกนตะคุง!! ดูสิ ที่ช้อนขาดแล้วเห็นมั้ย เราต้องแบ่งเงินไปเล่นอย่างอื่นด้วยนะ

                “อะไรกันน่ะ! ก็ฉันอยากช้อนปลาทองนี่นา!! ตรงนี้มีแต่ปลาตัวเล็กๆ ไม่เห็นจะสวยเลย

     

                เสียงอันคุ้นเคยดังไปถึงกลุ่มตำรวจ เมื่อมองไปไม่ไกลนัก พวกเขาก็เห็นเด็กๆ5คนที่ทั้งน้ำเสียงและหน้าตาคุ้นเคย กับหญิงสาวอีก3คนกำลังยืนอยู่หน้าร้านช้อนปลา ...โดยเฉพาะเด็กชายใส่แว่นที่ยืนทำหน้าเซ็งๆมองเพื่อนทั้ง3ของเขา กับหญิงสาวม.ปลายหน้าตาคุ้นเคยอีกคน ซาโต้ที่รู้จักหน้าตาของพวกเขาดีจึงเดินเข้าไปทักทาย

     

                 “อ้าว! รันจัง โคนันคุงด้วย อ๊ะ แล้วก็โซโนโกะจัง กับเด็กๆด้วย มาเที่ยวงานกันเหรอจ๊ะ

                เด็กสาวผู้ถูกเรียกหันมาทางต้นเสียงและตอบกลับด้วยความตกใจ “อ๊ะ! สวัสดีค่ะผู้หมวดซาโต้ พอดีว่าโซโนโกะเธอบ่นอยากมาเที่ยวด้วยกันน่ะค่ะ

                “เหรอ แปลกจัง ปกติคุณโมริต้องตามมาด้วยทุกครั้งสิ เขาไปไหนซะล่ะ”

                “พ่อเขาก็แบบนี้ล่ะค่ะ แย่จริงๆ ปีใหม่แท้ๆดันหนีไปเล่นไพ่นกกระจอกกับเพื่อนซะได้ หนูถึงมาเที่ยวเล่นกันโซโนโกะได้ยังไงล่ะคะ!” เด็กสาวมีท่าทีโมโหเล็กน้อยเมื่อเธอพูดถึงโมริ โคโกโร่ พ่อของเด็กสาว “...จริงสิ พวกโคนันคุงก็พาคุณครูที่โรงเรียนมาด้วยใช่มั้ย”

                “ฮะ!! พวกอายูมิบอกว่าคุณครูอยู่บ้านคนเดียว ก็เลยพามาเที่ยวด้วยน่ะฮะ!!

                ซาโต้สงสัยเกิดความสงสัยเล็กน้อย แต่ไม่ทันที่จะได้ถาม ทั้งเพื่อนตำรวจและเด็กๆก็เดินเข้ามาทักทายคั่นบทสนทนาของเธอกับ โมริ รัน และ เอโดงาวะ โคนัน เด็กที่เธอพบเจอบ่อยในคดีฆาตกรรมต่างๆ และบางทีก็ช่วยพวกเธอไขคดีในคดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ

                “อ๊ะ ผู้หมวดแล้วก็สารวัตรด้วย สวัสดีครับ/ค่ะ!!” เด็กๆเดินมาทักเธอและกลุ่มเพื่อนตำรวจอย่างร่าเริงแจ่มใส ขัดกับอากาศหนาวเย็นของคืนก่อนปีใหม่นี้ อายูมิจูงมือของหญิงสาวคนหนึ่งให้เข้ามาร่วมวงด้วย

                “จริงสิ คุณครูโคบายาชิคะ นี่ไง ผู้หมวดซาโต้ ที่ครูเคยเจอเมื่อตอนเกิดคดีที่โรงเรียนยังไงล่ะคะ ตอนนั้นคงไม่ได้ทำความรู้จักกันสินะคะ ...ผู้หมวดซาโต้คะ แล้วสารวัตรชิราโทริล่ะคะ”

                อายูมิที่ลากตัว อ.โคบายาชิ คุณครูประจำชั้นของเธอซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของคดีที่เกิดขึ้นในบริเวณโรงเรียน พาเธอมาทักทายกับผู้หมวดซาโต้ ซึ่งเมื่อทั้งคู่ได้พบหน้ากัน ต่างฝ่ายก็ต่างตกใจ ด้วยใบหน้าที่คล้ายคลึงกันจนเผลอนึกไปว่าคนตรงหน้าคือภาพสะท้อนในกระจกของตนเองรึเปล่า

                ซาโต้ชิงแนะนำตัวก่อน

                “คุณคือ คุณครูโคบายาชิสินะคะ ...ดิฉันชื่อซาโต้ มิวาโกะ เป็นเพื่อนของชิราโทริคุงค่ะ เรียกดิฉันว่ามิวาโกะก็ได้นะคะ”

                ยูมิเดินมาจ้องหน้าฝ่ายตรงข้ามอย่างไม่เกรงใจ “หืมม์ อ.โคบายาชิ หน้าตาเหมือนกันอย่างกับถอดแบบมาเลยนะเนี่ย มิน่าชิราโทริถึงเปลี่ยนเป้าหมายจากมิวาโกะมาเป็นเธอแทน...”

                “อะ...เอ๊ะ!!” อ.โคบายาชิตกใจเล็กน้อยเมื่อยูมิพูดถึงชิราโทริ นายตำรวจที่เธอเคยพบเจอเมื่อครั้งเกิดคดีที่โรงเรียนประถมเทย์ตัน

                “อ๊ะ...อา.. คืออย่างนี้ค่ะคุณโคบายาชิ ...ช่วงที่ผ่านมานี่ก็ได้ข่าวว่าชิราโทริคุงเขาสนิทกับผู้หญิงคนนึงที่หน้าตาคล้ายๆกับดิฉันอยู่เหมือนกัน ตอนแรกมีเพื่อนตำรวจแซวว่าเขาคบกับฉัน แต่ความจริงไม่ใช่แท้ๆ แค่คนหน้าเหมือน ...คนนั้นคงเป็นคุณสินะคะ” ซาโต้ยิ้มแห้งให้คู่สนทนา

                 “ช่ายๆ ...แต่ว่านะ ความจริงเธอก็มีทาคางิอยู่ทั้งคนแล้วนี่เนอะ แต่หน้าอย่างเธอเนี่ยก็อยู่แล้วล่ะ... อ๊ะ ส่วนฉันชื่อยูมินะ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะจ๊ะ”

                 “นี่เดี๋ยวสิ ยูมิ!! ใครว่าฉันคบกับเขาน่ะ!!

                 การกระทำน่ะ มันบ่งบอกความรู้สึกนะจ๊ะ มิ-วา-โกะ-จัง”

                “นี่!!!!!!!!!!!

                จากการแนะนำตัวกลายเป็นการทะเลาะกันชั่วคราวของคู้สนทนาและเพื่อนของคู่สนทนา อ.โคบายาชิถึงกับถอนหายใจ ส่วนทาคางิและชิราโทริผู้ถูกพาดพิงได้หลบไปยืนซ่อนอยู่ในมุมอับที่สุดของกลุ่มเพื่อนตำรวจแล้ว ถึงไม่เห็นหน้าแต่ทุกคนก็สัมผัสได้ว่า ทั้งคู่จะต้องหน้าแดงอยู่แน่ๆ

                จริงๆแล้ว กับเพื่อนของซาโต้ มิวาโกะ คู่สนทนาของเธอนี้ เธอก็มีข้อสงสัยที่จะถามอยู่เช่นกัน และประจวบเหมาะกับเป็นการห้ามศึกของสองสาวเจ้าหน้าที่ตำรวจ เธอเอ่ยปากถามยูมิอย่างกล้าๆกลัวๆ

                “ชะ...ใช่คุณคนที่ตีก้นฉันตอนที่ไปให้ปากคำที่กรมตำรวจสินะคะ

                ยูมิถึงกับชะงักและมีสีหน้าของคนทำผิดเกิดขึ้นบนใบหน้า

                “ว...หวาย...ช...ใช่ค่ะ ตอนนั้นขอโทษจริงๆนะคะ ตอนนั้นนึกว่าเป็นมิวะจังจริงๆ ปกติเราก็ชอบเล่นกันอย่างงี้แหละค่ะ”

                เธอโค้งหัวแล้วโค้งหัวอีกอยู่หลายรอบ จนโคบายาชิต้องบอก พอเถอะค่ะ

                คนเป็นทำรวจนี่เขาเล่นแรงกันแบบนี้เลยเหรอเนี่ย ...น่ากลัวจริงๆ

                เมื่อเอโดงาวะ โคนันมองมาที่อ.ประจำชั้นของเขา เขาก็สามารถสังเกตเห็นสีหน้ายิ้มแห้งๆของโคบายาชิ และอ่านใจเธอผ่านสีหน้าได้ในทันทีเลยทีเดียว

    ~*~

                 ทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกันไม่นานนัก อ.โคบายาชิกับตำรวจสาวทั้งสองกลับคุยกันอย่างถูกปาก อาจจะเป็นเพราะนิสัยช่างคุยของยูมิที่ชวนคุยได้ซะทุกเรื่อง หรือว่าทั้งสามอายุไล่เลี่ยกันแน่? แน่นอนว่าเด็กๆที่มองสาวๆทั้ง3 เมื่อเห็นพวกเธอก็ยังคุยกันว่าทั้งซาโต้และโคบายาชิก็มีหน้าตาที่คล้ายกันจนบางครั้งก็เข้าใจว่าเป็นฝาแฝดกันเลยทีเดียว

            การพบปะอย่างไม่คาดคิด ทำให้ต่างฝ่ายต่างไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะทำกิจกรรมร่วมกันได้อย่างไร ในตอนนี้ต่างฝ่ายจึงต่างออกเดินเล่นตามร้านรวงที่ไม่ห่างจากจุดที่ทั้งสองกลุ่มพบกันนัก เพื่อที่จะได้ไม่คลาดสายตาถ้ามีแผนจะเดินทางไปที่ไหน

     

                “ปีใหม่นี่...น่าเบื่อชอบกลนะ” โซโนโกะบ่นกับรันเมื่อเธอได้แต่ยืนเฉยๆมองกลุ่มสนทนาของผู้หญิง3คนและเด็กๆ4คน

                “อะไรกัน... คิดจะเล่นตามล่าหาผู้ชายไปเรื่อยอีกรึไงกัน เดี๋ยวคุณเคียวโงขุก็...”

                “ไม่ใช่น่า!” โซโนโกะบอกปัดอย่างที่ไม่เคยเป็น “นี่รัน ตอนนี้กี่โมงแล้วนะ”

                เพื่อนสาวที่ยืนอยู่ข้างๆเมื่อถูกถามก็หยิบมือถือขึ้นมาเพื่อดูเวลา เนื่องจากทั้งคู่ลืมพกนาฬิกามา “สองทุ่มครึ่งกว่าๆเกือบจะสามทุ่มแล้วจ้ะ ...มีอะไรเหรอ

                “ปกติแล้ว ช่วงนี้ที่ลานตรงกลางสวนเขาจะมีอะไรพิเศษเซอร์ไพรส์ไปเรื่อยๆจนกระทั่งช่วงชั่วโมงสุดท้ายก่อนคาวน์ดาวน์ไม่ใช่เหรอ

                “นั่นสินะ ยังไม่มีโชว์อะไรเลย พลุก็จุดตอน...

     

    กริ๊ดดดดดดดด.......

     

                ต้นเสียงที่ตัดบทสนทนาของทั้งสองคือเสียงหญิงสาวที่แผดเสียงดังลั่น ตามด้วยเสียงคนฮือฮาเซ็งแซ่ ผู้หมวดซาโต้ออกตัววิ่งเป็นคนแรกโดยสัญชาตญาณของคนเป็นตำรวจ และแน่นอน โคนันผู้ชื่นชอบการไขคดีก็วิ่งตามเธอไปด้วย เมื่อไปถึงจุดที่เกิดเหตุก็พบว่าหญิงสาวคนนั้นกำลังถูกประคองด้วยชายที่คาดว่าเป็นแฟนหนุ่มของเธอ ที่แขนซ้ายมีรอยกรีดลึกเป็นแนวยาว แผลที่เปิดกว้างเหวอะหวะทำให้มีน้ำสีแดงฉานเปรอะเปื้อนเสื้อผ้าและไหลผ่านลำแขนจนหยดลงพื้นเป็นวงกว้าง เธอตรงเข้าไปยังตัวหญิงสาวผู้บาดเจ็บ โดยเด็กชายที่วิ่งตามมาช่วยบอกให้คนถอยห่างจากบริเวณจุดเกิดเหตุ

                “ดิฉันเป็นตำรวจค่ะ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับคุณผู้ชายคะ

                ตำรวจสาวถามขึ้นพลางใช้มือกดปากแผลห้ามเลือดไว้ หญิงสาวที่นอนอยู่ร้องด้วยความเจ็บปวด

                พวกรันและเพื่อนตำรวจที่ช่วยเคลียร์ความวุ่นวายโดยรอบ วิ่งตามมาสมทบกับเธอ และพวกเขาก็ต้องผงะไปชั่วครู่เมื่อเห็นสภาพแขนซ้ายที่ดูไม่ได้ของผู้บาดเจ็บ

                “รันจัง โทรเรียกรถพยาบาลทีนะ ...อ้อแล้วก็ โซโนโกะจัง ช่วยไปบอกร.ป.ภ.ให้ตรวจตราความปลอดภัยบริเวณสวนนี้ด้วย

                “คุณมิวาโกะ เดี๋ยวดิฉันช่วยดูแผลให้เองค่ะ!!

                หลังจากเด็กสาวออกวิ่งไปจากที่เกิดเหตุเพื่อเรียกรถพยาบาล อ.โคบายาชิก็ตรงรี่เข้ามาช่วยปฐมพยาบาลอย่างคล่องแคล่วโดยไม่ตระหนกกับแผลตรงหน้าแต่อย่างใด เมื่อเห็นดังนั้น เธอจึงวางใจและหันไปสอบถามชายหนุ่มที่มีเลือดเปรอะตามตัวพอๆกับเธอ  

                “ขอโทษนะคะ รบกวนแจ้งชื่อกับเหตุการณ์ที่พอจะจำได้หน่อยได้มั้ยคะ

                “ผมชื่อมิซึรุครับ ...อาเบะ มิซึรุ ส่วนเธอคนนั้นเป็นแฟนสาวผมชื่อ เอโนชิมะ นานะโกะ ตอนนั้นเราเดินอยู่บริเวณนี้ แล้วมีชายคนนึงสูงประมาณผมวิ่งมาทางหน้าเรา รู้สึกจะใส่เสื้อข้างในเป็นสีขาวลายทางสีดำ เสื้อคลุมกันฝนสีเทาดำแล้วก็ใส่หมวกสีดำ ใส่แว่นกันแดดด้วยครับ มันคว้ากระเป๋านานะไว้ แล้วเธอไม่ยอม มันเลยคว้ามีดมาแล้วฟันแขนเธอเข้าอย่างรวดเร็วมากเลยครับ แล้วเธอก็ร้องลั่นจนกระทั่งมันหายวับไป ผมไม่รู้ว่าทางไหนน่ะครับ เพราะเอาแต่ประคองตัวนานะ ขอโทษจริงๆครับ

                “ไม่เป็นไรค่ะ จำได้ขนาดนี้ก็นับว่ามีสติดีมากเลยล่ะค่ะ”

                เธอจดคำที่ชายหนุ่มเล่าลงสมุดพก หลังจากนั้นไม่นานนัก ทาคางิและชิบะที่ควบคุมสถานการณ์ได้แล้วได้วิ่งตามเข้ามาเพื่อสอบถามสถานการณ์ เธอจึงเล่าสิ่งที่มิซึรุ พยานที่ใกล้ชิดผู้บาดเจ็บที่สุดบอกให้พวกเขาไป ก่อนจะขอร้องพวกเขาทั้งสอง

                “นี่ ช่วยหาคนร้ายหน่อยนะ ใส่เสื้อตามที่เขียนนี่ แต่มันอาจจะถอดเสื้อนอกออก แล้วก็อาจจะถอดหมวดกับแว่นทิ้งไปแล้ว หรืออาจจะไปเปลี่ยนเสื้อแล้วก็ได้ อย่างไรก็ตามคนร้ายสูงประมาณ175-180ซม. ช่วยหน่อยนะ

                “ครับ!!” ตำรวจหนุ่มทั้งคู่ได้รับคำสั่งก็วิ่งไปคนละทางโดยมีเธอมองส่งพวกเขาไป และเมื่อเธอหันมาที่จุดเกิด รันซึ่งมีท่าทางเหนื่อยหอบเล็กน้อยจากการวิ่งวุ่นรอบจุดเกิดเหตุ เข้ามาบอกเธออย่างหมดหวัง

                “ผู้หมวดคะ รถพยาบาลบอกว่าบริเวณถนนโดยรอบนี้การจราจรแน่นหนาจนไม่สามารถนำรถเข้ามาได้ทันทีค่ะ เขาบอกว่าต้องรอเวลาอีกครึ่งชั่วโมง”

                “...ครึ่งชั่วโมงเชียวเหรอ ซาโต้หน้าซีดเผือด

                “ครึ่งชั่วโมงไม่ได้นะคะคุณมิวาโกะ!! คุณนานะโกะเสียเลือดมาก ถ้าต้องรออีกครึ่งชั่วโมงล่ะก็อันตรายแน่” อ.โคบายาชิตะโกนมายังตัวเธอเมื่อได้ยินของรัน

                “งั้น...รันจัง... ที่บู๊ทปฐมพยาบาลข้างหน้าสวนล่ะ ไปมารึยัง”

                “ค่ะ แต่ว่าเขาบอกว่ามีแต่อุปกรณ์ช่วยเหลือคนหมดสติ แล้วก็บริจาคเลือดค่ะ ไม่มีอุปกรณ์เย็บแผลหรือรักษาแผลรุนแรงเลย แต่ว่าเขาให้ยืมผ้าผืนใหญ่แล้วก็ยาปฐมพยาบาลพวกนี้มาน่ะค่ะ แล้วก็...คนที่บู๊ตกำลังมานะคะ ให้รอครู่นึงก่อน

                “งั้นเหรอ...ขอบใจมากเลยนะจ๊ะ”

                เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนรับของในมือหญิงสาวแล้วส่งไปให้หญิงอีกคนที่ขากางเกงและชายเสื้อเปื้อนเลือดจากร่างที่นอนอยู่บนหน้าตัก

                ถ้าฟันทีเดียวเลือดไหลขนาดนี้ เขาใช้มีดอะไรของเขากันนะ...

     

                “มีดผ่าตัด หรือไม่ก็ มีดปลายแหลม ครับ เพราะว่าการที่ฟันแขนทีเดียวแล้วตัดเส้นเลือดแดงใหญ่ที่อยู่ลึกถึงต้นแขนได้ ต้องเป็นมีดที่คมมาก และคนที่สามารถจะกะตำแหน่งบาดเจ็บร้ายแรงได้อย่างแม่นยำ ต้องเป็นหมอ พยาบาล หรือผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลแน่นอนครับ

                    โคนันพูดขึ้นก่อนเหลือบไปมองอ.โคบายาชิที่พยายามรัดกล้ามเนื้อแขนด้วยผ้าขาวของหน่วยปฐมพยาบาล ไม่มีบทสนทนาเพิ่มเติมของเด็กชายและตัวเธอจนกระทั่งเจ้าหน้าที่พยาบาลคนหนึ่งตรงเข้ามายังจุดเกิดเหตุที่เธอนอนอยู่

     

                “ยังไงก็... จะปล่อยให้คุณนานะโกะนอนอยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้ด้วย คุณมิซึรุ แล้วก็รันจังด้วยนะ รบกวนช่วยคุณพยาบาลพาเธอไปในซุ้มหน่อย ...คุณโคบายาชิ ตอนอุ้มนี่ช่วยระวังแผลด้วยนะคะ

                “ค่ะ”

                ซาโต้ได้ทำหน้าที่ของตำรวจคนหนึ่งเท่าที่จะทำได้แล้ว สักพักจึงคิดได้ว่าหน้าที่แบบนี้สารวัตรเมงูเระต้องเป็นคนสั่งการสิ ว่าแต่ เธอก็ไม่เห็นหัวหน้าของเธอตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เธอมองหาชายร่างท้วมใหญ่ แต่สิ่งที่เธอเหลือบไปเห็นกลับเป็นหญิงสาวมีอายุภรรยาของท่านสารวัตรที่เดินมาแต่ไกล ในมือถือทาโกยากิถุงใหญ่ คาดว่าจะนำมาเผื่อทุกคน

                “ค...คุณมิโดริคะ แล้วท่านสารวัตรล่ะคะ

                “อ๋อ เขาปวดท้องน่ะจ้ะ ตอนนี้ก็เลยไปเข้าห้องน้ำ เทียวเข้าเทียวออก น่าเป็นห่วงอยู่น่ะค่ะ ตรงนี้มีอะไรกันเหรอคะ ...อ้ะจริงสิ!! คุณซาโต้คะ เลือดของใครเลอะเสื้อเข้าน่ะ!”

                    ฮ่ะๆ ...ท่านสารวัตรเดินไปเข้าห้องน้ำตั้งนานแล้วนี่นะ... เธอยิ้มแหยๆ “ถ้าอย่างงั้นรบกวนคุณมิโดริช่วยติดต่อท่านสารวัตรนะคะว่ามีหญิงสาวถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บสาหัส แล้วก็ ทราบมั้ยคะว่าชิราโทริคุงอยู่ไหน”

                มิโดริปฏิเสธว่าเธอไม่เห็นชิราโทริเลย และไม่ได้ถามเรื่องสถานการณ์ต่อ เพียงแค่มองรอบๆเธอก็เข้าใจ และรีบติดต่อสารวัตรอย่างรวดเร็วโดยไม่มีท่าทีลุกลี้ลุกลน

                ทาคางิกับชิบะวิ่งมาพร้อมด้วยโซโนโกะที่วิ่งอย่างคนหมดแรงเพื่อสมทบกับเธอและสอดส่องความปลอดภัยของบริเวณที่เกิดเหตุ

                “คุณซาโต้ครับ ...ผมเดินดูทั่วแล้ว ไม่พบคนที่น่าสงสัย แล้วก็ไม่มีใครซ่อนอยู่ในที่ลับตาคนเลย ไม่พบเสื้อคลุมหรือหมวกหล่นตามพงหญ้าด้วยนะครับ!!

                “และจากการสอบถาม พยานทั่วไปบอกว่า เห็นคนร้ายวิ่งไปทางด้านตะวันออก ตรงนั้นไม่มีงานแล้วก็มีแสงแค่สลัวๆด้วยครับ คาดว่าคนร้ายน่าจะไปทางนั้น แล้วก็...

                “หนูพาสารวัตรชิราโทริไปบอกเจ้าหน้าที่แล้วค่ะ พวกเขาก็คิดแบบเดียวกัน แล้วก็พากันไปที่สวนด้านนั้นแล้วค่ะ

                ทั้งสามคนแย่งกันพูด นับว่าใช้เวลาไม่มากทีเดียวในการสำรวจ หมวดซาโต้ยกข้อมือขึ้นมาเพื่อดูเวลา

     ...รันจังบอกว่าช่วงเกิดเหตุคือสองทุ่มครึ่งกว่าๆ ตอนนี้ก็จะสามทุ่มแล้วสิ นี่มันยี่สิบกว่านาทีแล้วนี่นา... 

                เธอหันไปบอกนายตำรวจทั้งสอง(อาจรวมถึงโซโนโกะอีกคน)ที่ยืนตรงหน้าก่อนออกตัววิ่งไป

                “พวกเธอช่วยสังเกตการณ์ไปก่อนนะ ฉันขอไปดูคุณนานะโกะก่อน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×